เมนูปิด

เลขที่หนังสือ: กค 0811/02307
วันที่: 12 มีนาคม 2542
เรื่อง: ภาษีธุรกิจเฉพาะ กรณีเจ้าของกรรมสิทธิ์รวมขายบ้านและที่ดิน
ข้อกฎหมาย: มาตรา 56, มาตรา 91/2, พระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 244) พ.ศ. 2534
ข้อหารือ: นาง ก และนาย ข ขายบ้านพร้อมที่ดิน ปรากฏข้อเท็จจริงดังนี้ นาย ค และนาง ก ภริยา
ได้จองบ้านและที่ดิน โดยนาง ก ย้ายชื่อเข้าอยู่ในทะเบียนบ้านเมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2532 โดย
กรรมสิทธิ์บ้านยังไม่ได้โอนเนื่องจากเจ้าของบ้านเดิมขาดการผ่อนส่งและกำลังถูกธนาคารผู้รับจำนอง
ฟ้องบังคับชำระหนี้ เมื่อนาง ก ชำระหนี้แทนคดีจึงสิ้นสุดและสามารถโอนกรรมสิทธิ์ได้เมื่อวันที่ 30
ตุลาคม 2534 ซึ่งในการโอนกรรมสิทธิ์บ้านดังกล่าว นาย ข พี่ชายของนาง ก ได้มีชื่อเข้าถือกรรมสิทธิ์
รวมเพื่อวัตถุประสงค์ในการกู้ยืมเงินจากธนาคารให้ได้จำนวนเงินสูงขึ้น ต่อมานาง ก กับนาย ข ได้ขาย
บ้านและที่ดินดังกล่าวเมื่อวันที่ 11 กันยายน 2535 ด้วยเหตุผลที่ไม่สามารถผ่อนชำระเงินค่างวดแก่
ธนาคารต่อไปได้
ขอทราบว่านาง ก เป็นผู้มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านและได้อาศัยเป็นเวลาไม่น้อยกว่าหนึ่งปี
การขาย อสังหาริมทรัพย์ตามข้อเท็จจริงข้างต้น เป็นการขายอสังหาริมทรัพย์ที่ใช้เป็นสถานที่อยู่อาศัย
อันเป็นแหล่งสำคัญที่ผู้ขายมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน ตามกฎหมายว่าด้วยการทะเบียนราษฎร และได้อาศัย
เป็นเวลาไม่น้อยกว่าหนึ่งปีนับแต่วันที่ได้มาซึ่งอสังหาริมทรัพย์นั้น ตามมาตรา 3 (6) (ค) แห่ง
พระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 244) พ.ศ. 2534
แนววินิจฉัย: 1. ตามข้อเท็จจริง นาง ก และนาย ข พี่ชายได้ร่วมกันซื้อบ้านพร้อมที่ดิน โดยมิได้มีการ
แบ่งหรือกำหนดส่วนของการถือกรรมสิทธิ์ว่าของใคร ตอนใดเป็นจำนวนเนื้อที่เท่าใดให้ชัดเจน กรณีจึง
ถือว่าเป็นเจ้าของรวมกันและมีส่วนเท่ากัน ตามมาตรา 1357 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
2. นาง ก และนาย ข ได้รับกรรมสิทธิ์ที่ดินและบ้านเมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2534 ต่อมาได้
ขายที่ดินและบ้านเมื่อวันที่ 14 กันยายน 2535 จึงเป็นการขายอสังหาริมทรัพย์ที่ได้กระทำภายใน 5 ปี
นับแต่วันที่ได้มาซึ่งอสังหาริมทรัพย์ ตามมาตรา 3 (6) แห่งพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 244) พ.ศ.
2534 เข้าลักษณะเป็นการขายอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นทางค้าหรือหากำไร อยู่ในบังคับต้องเสีย
ภาษีธุรกิจเฉพาะตามมาตรา 91/2 (6)แห่งประมวลรัษฎากร เนื่องจากนาง ก และนาย ข พี่ชายได้
ร่วมกันซื้อและร่วมกันขายที่ดินดังกล่าว จึงเข้าลักษณะเป็นห้างหุ้นส่วนสามัญหรือคณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคล
ซึ่งเป็นหน่วยภาษีแยกต่างหากจากบุคคลธรรมดาตามมาตรา 56 แห่งประมวลรัษฎากร จึงต้องยื่น
แบบแสดงรายการภาษีธุรกิจเฉพาะในนามของห้างหุ้นส่วนสามัญหรือคณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคล การที่นาง ก
มีชื่อในทะเบียนบ้านเพียงคนเดียว ถือเป็นเหตุส่วนตัวของบุคคลในห้างหุ้นส่วนสามัญหรือคณะบุคคล ไม่อาจ
นำมาใช้ประโยชน์แก่ห้างหุ้นส่วนสามัญหรือคณะบุคคลนั้นได้ดังนั้น จึงไม่มีประเด็นที่จะต้องพิจารณาว่านาง
ก มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านตามกฎหมายว่าด้วยการทะเบียนราษฎรและได้อาศัยเป็นเวลาไม่น้อยกว่าหนึ่งปี
นับแต่วันที่ได้มาซึ่งอสังหาริมทรัพย์นั้น ตามมาตรา 3 (6) (ค)แห่งพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 244)
พ.ศ. 2534 หรือไม่แต่อย่างใด
เลขตู้: 62/27642

 


 

 

ปรับปรุงล่าสุด: 22-05-2020