เลขที่หนังสือ | : กค 0811/06988 |
วันที่ | : 16 กรกฎาคม 2542 |
เรื่อง | : ภาษีเงินได้ ภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีธุรกิจเฉพาะ และอากรแสตมป์ กรณีการขอคืนภาษีอันเนื่องมาจากการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ |
ข้อกฎหมาย | : พระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 325) พ.ศ. 2541 |
ข้อหารือ | : ธนาคารฯ ได้ทำการรับโอนอสังหาริมทรัพย์เพื่อชำระหนี้ในช่วงระหว่างเดือนมกราคม 2541 ถึงเดือนกันยายน 2541 จำนวน 4 ราย ซึ่งเป็นการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ตามหลักเกณฑ์ของ ธนาคารแห่งประเทศไทย และได้ชำระค่าอากรและภาษีเงินได้ ต่อสำนักงานที่ดินในวันจดทะเบียนรับโอน กรรมสิทธิ์ รวมทั้งภาษีธุรกิจเฉพาะต่อกรมสรรพากรแล้ว ซึ่งลูกหนี้ผู้โอนเป็นผู้มีหน้าที่เสียภาษี และได้เสีย ภาษีดังกล่าวตามหลักฐานใบเสร็จของกรมที่ดิน และใบเสร็จของกรมสรรพากรแล้ว โดยธนาคารตกลงรับ ภาระเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายดังกล่าว ธนาคารฯ จึงมีความประสงค์จะขอรับเงินตามที่ชำระไว้แล้วเป็นจำนวนเงินรวมทั้งสิ้น 10,955,000.98 บาท ตามที่ได้รับยกเว้นตามพระราชกฤษฎีกาดังกล่าว |
แนววินิจฉัย | : หากการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ระหว่างธนาคารฯ กับลูกหนี้ของธนาคารดังกล่าว ได้ ดำเนินการตามหลักเกณฑ์การปรับปรุงโครงสร้างหนี้ของสถาบันการเงินที่ธนาคารแห่งประเทศไทย ประกาศกำหนด การโอนทรัพย์สินของลูกหนี้ให้แก่ธนาคารฯ อันสืบเนื่องมาจากการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ ดังกล่าว ได้รับยกเว้นภาษีตามพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 325) พ.ศ. 2541 ดังนั้น การที่ลูกหนี้ผู้โอน ซึ่งมีหน้าที่ต้องเสียภาษีสำหรับการโอนอสังหาริมทรัพย์ให้แก่ธนาคารฯ ได้เสียภาษีไปแล้ว ลูกหนี้ผู้โอนซึ่ง เป็นผู้เสียประโยชน์จึงเป็นผู้มีสิทธิขอคืนภาษี ธนาคารฯ จึงไม่อาจขอคืนภาษีดังกล่าวได้ แต่อย่างไรก็ดี หากธนาคารฯ มีความประสงค์จะขอคืนต้องให้ลูกหนี้ของธนาคารฯ ทำ หนังสือมอบอำนาจให้ธนาคารฯ ขอคืนแทนในนามของลูกหนี้ของธนาคารฯ ซึ่งเป็นผู้มีสิทธิขอคืน อนึ่ง ในการยื่นคำร้องขอคืนภาษี จะต้องยื่นด้วยแบบคำร้องขอคืนเงินภาษีอากร (แบบ ค.10) โดยให้ยื่นคำร้อง ณ สำนักงานภาษีสรรพากรพื้นที่ที่ผู้ขอคืนมีภูมิลำเนาในพื้นที่นั้น |
เลขตู้ | : 62/28034 |