เมนูปิด

เลขที่หนังสือ: กค 8011/11192
วันที่: 2 พฤศจิกายน 2542
เรื่อง: ภาษีเงินได้นิติบุคคล กรณีการจ่ายเงินผลต่างของอัตราดอกเบี้ยตามสัญญาแลกเปลี่ยนอัตราดอกเบี้ย
ข้อกฎหมาย: มาตรา40(4)(ก), มาตรา70
ข้อหารือ: บริษัทฯ ได้ขอให้พิจารณาทบทวนหนังสือตอบข้อหารือกรณีที่บริษัทฯ ได้ทำสัญญา
แลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศและอัตราดอกเบี้ย โดยบริษัทฯ จ่ายในอัตราคงที่และบริษัท ก (ธนาคาร
ผู้รับทำสัญญาแลกเปลี่ยนอัตราดอกเบี้ย) จ่ายในอัตราลอยตัว ซึ่งกรมสรรพากรได้วินิจฉัยว่า เงินส่วนต่าง
ของอัตราดอกเบี้ยที่บริษัทฯ จ่ายให้บริษัท ก ดังกล่าว เข้าลักษณะเป็นเงินได้ที่มีลักษณะทำนองเดียวกับ
ดอกเบี้ย ผลประโยชน์หรือค่าตอบแทนอื่น ๆที่ได้จากการให้กู้ยืมเงินตามมาตรา 40(4)(ก) แห่ง
ประมวลรัษฎากร บริษัทฯ จึงมีหน้าที่หักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่ายในอัตราร้อยละ 15 ตามมาตรา 70 แห่ง
ประมวลรัษฎากร โดยมีข้อเท็จจริงเพิ่มเติมเพื่อประกอบการพิจารณาดังนี้
1. บริษัทฯ ได้ทำสัญญากู้ร่วม (Syndicated Loan) จากธนาคารในประเทศ ต่อมา
บริษัทฯ เห็นว่าการชำระดอกเบี้ยในอัตราลอยตัวดังกล่าวมีความเสี่ยงจากอัตราดอกเบี้ยที่ไม่คงที่ บริษัทฯ
จึงได้ทำสัญญาประกัน(SWAP) อัตราดอกเบี้ยคงที่กับธนาคารอีกแห่งในต่างประเทศ คือ บริษัท ก ซึ่ง
ไม่ใช่ธนาคารผู้ให้กู้ยืมเงินโดยบริษัทฯ ยังคงมีหน้าที่จ่ายดอกเบี้ยให้แก่ธนาคารผู้ให้กู้ยืมเงินโดยตรงตาม
อัตราดอกเบี้ยลอยตัวซึ่งกำหนดไว้ในสัญญาเงินกู้ยืมเงินนั้นทุกประการ ตลอดจนทำการหักภาษีเงินได้นำส่ง
ตามมาตรา 70 แห่งประมวลรัษฎากร
2. บริษัทฯ มิได้ทำสัญญากู้ยืมเงินใด ๆ กับบริษัท ก เพียงมีข้อตกลงร่วมกันในการกำหนด
จำนวนเงินขึ้นมาเพื่อที่จะใช้เป็นฐานในการทำสัญญาประกันอัตราดอกเบี้ยคงที่เท่านั้น และในสัญญา
ดังกล่าวบริษัทฯ จะนำอัตราดอกเบี้ยแบบคงที่ (fixed rate) ที่กำหนดไว้ที่ 8% ต่อปี ไปแลกเปลี่ยนกับ
อัตราดอกเบี้ยแบบลอยตัวในอัตรา LIBOR. จากบริษัท ก โดยตกลงให้กำหนดเวลาการแลกเปลี่ยนให้
ตรงกับกำหนดเวลาที่บริษัทฯ จะต้องจ่ายดอกเบี้ยให้แก่ธนาคารผู้ให้กู้
ฉะนั้น ถ้าหากอัตราดอกเบี้ยแบบคงที่ ซึ่งบริษัทฯ ทำประกันอัตราดอกเบี้ยคงที่ไว้กับ
บริษัท ซิตี้คอร์ปฯต่ำกว่าอัตราดอกเบี้ยแบบลอยตัว บริษัท ก ก็จะต้องส่งเงินผลต่างระหว่างอัตราดอกเบี้ย
แบบคงที่กับอัตราดอกเบี้ยแบบลอยตัวที่เกิดขึ้นมาให้บริษัทฯ ในทางตรงข้ามหากอัตราดอกเบี้ยลอยตัวใน
ขณะนั้นต่ำกว่าอัตราดอกเบี้ยคงที่ บริษัทฯ ก็จะต้องส่งเงินผลต่างนั้นไปให้แก่บริษัท ก ดังนั้น ผลแตกต่าง
ดังกล่าวจึงไม่ใช่ดอกเบี้ย แต่เป็นผลแตกต่างของอัตราดอกเบี้ยแบบคงที่กับอัตราดอกเบี้ยแบบลอยตัว ซึ่ง
ถือเป็นเงินได้ตามมาตรา 40(8) แห่งประมวลรัษฎากร บริษัทฯ จึงไม่มีหน้าที่หักภาษีเงินได้นำส่งตาม
มาตรา 70 แห่งประมวลรัษฎากร
แนววินิจฉัย: 1. ตามมาตรา 40(4)(ก) แห่งประมวลรัษฎากร ปัจจุบันมีการแก้ไขหลังสุดตาม
พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ 29) พ.ศ. 2534 ได้บัญญัติเพิ่มเติมให้รวมถึง
"เงินได้ที่มีลักษณะทำนองเดียวกันกับดอกเบี้ย ผลประโยชน์หรือค่าตอบแทนอื่น ๆ ที่ได้จากการให้กู้ยืมหรือ
จากสิทธิเรียกร้องในหนี้ทุกชนิดไม่ว่าจะมีหลักประกัน หรือไม่ก็ตาม" ซึ่งมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 7
พฤศจิกายน 2534
ดังนั้น หนังสือของกรมสรรพากร ลงวันที่ 14 ตุลาคม 2531 เป็นข้อหารือก่อนมี
การแก้ไขมาตรา 40(4)(ก) แห่งประมวลรัษฎากร จึงวินิจฉัยว่ากรณีดังกล่าวไม่ใช่ดอกเบี้ยเงินกู้ยืมตาม
มาตรา 40(4)(ก) แห่งประมวลรัษฎากร ส่วนกรณีหนังสือของกรมสรรพากร ลงวันที่ 20 มีนาคม 2539
เป็นข้อหารือหลังจากมีการแก้ไขมาตรา 40(4)(ก) แห่งประมวลรัษฎากร จึงวินิจฉัยว่าเงินได้ดังกล่าว
เป็นเงินได้ที่มีลักษณะทำนองเดียวกับดอกเบี้ย ตามมาตรา 40(4)(ก) แห่งประมวลรัษฎากร
2. กรณีตามข้อเท็จจริงข้างต้น บริษัทฯ ได้ทำสัญญาแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศและ
อัตราดอกเบี้ยโดยบริษัทฯ จ่ายในอัตราคงที่ และบริษัท ก จ่ายอัตราลอยตัว เงินส่วนต่างของอัตรา
ดอกเบี้ยที่บริษัทฯจ่ายให้กับบริษัท ก ดังกล่าว จึงเข้าลักษณะเป็นเงินได้ที่มีลักษณะทำนองเดียวกับดอกเบี้ย
ผลประโยชน์หรือค่าตอบแทนอื่น ๆที่ได้จากการให้กู้ยืมตามมาตรา 40(4)(ก) แห่งประมวลรัษฎากร
บริษัทฯ จึงมีหน้าที่หักภาษีเงินได้นำส่งในอัตราร้อยละ 15 ตามมาตรา 70 แห่งประมวลรัษฎากร
เลขตู้: 62/28491

 


 

 

ปรับปรุงล่าสุด: 22-05-2020