เมนูปิด

เลขที่หนังสือ: กค 0706/พ./181
วันที่: 10 มกราคม 2551
เรื่อง: ภาษีมูลค่าเพิ่ม กรณีการจดทะเบียนสถานที่ให้บริการการเก็บรักษาสินค้าเป็นสาขา
ข้อกฎหมาย: มาตรา 82/3 มาตรา 82/4 วรรคสี่ และมาตรา 27/2 แห่งประมวลรัษฎากร
ข้อหารือ          บริษัทฯ เป็นผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ได้ทำสัญญาว่าจ้าง บริษัท ท. ซึ่งเป็นผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มและได้รับการส่งเสริมการลงทุนในกิจการศูนย์กระจายสินค้าระหว่างประเทศด้วยระบบที่ทันสมัยให้เป็นผู้จัดการเก็บรักษาสินค้าของบริษัทฯ มีกำหนดระยะเวลา 1 ปี ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2550 ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2551 ซึ่งตามสัญญาดังกล่าว บริษัท ท. ได้นำสินค้าของบริษัทฯ ไปเก็บไว้ที่คลังสินค้า ซึ่งเป็นสาขาของบริษัท ท. โดยคลังเก็บสินค้าดังกล่าว ได้ให้บริการเก็บสินค้าของบริษัทอื่นด้วย นอกจากการให้บริการเก็บสินค้าแล้ว บริษัทฯ ยังได้ว่าจ้าง บริษัท ท. ให้บริการขนส่ง และบรรจุสินค้าของบริษัทฯ เพื่อส่งมอบสินค้าให้ลูกค้า และรับสินค้าเข้าคลังอีกด้วย โดยจะมีพนักงานของบริษัท ท. เป็นผู้ดูแล หากสินค้าของบริษัทฯ ชำรุดสูญหาย บริษัท ท. เป็นผู้รับผิดชอบชดใช้ค่าเสียหายดังกล่าว ส่วนค่าบริการตามสัญญา บริษัท ท. ได้เรียกเก็บเป็นรายเดือนโดยคิดค่าบริการรวมภาษีมูลค่าเพิ่มในอัตราร้อยละ 7.0 การออกใบเสร็จรับเงินและใบกำกับภาษีนั้น สาขาของบริษัท ท. จะเป็นผู้ออกโดยมีขั้นตอนการขายสินค้า การออกใบกำกับภาษี และการจัดส่งสินค้าของบริษัทฯ
          บริษัทฯ ขอหารือ ดังนี้
          1. บริษัทฯ มีหน้าที่ต้องจดทะเบียนคลังสินค้าของบริษัท ท. (สาขา) เป็นสาขาของบริษัทฯ หรือไม่
          2. หากบริษัทฯ ต้องจดทะเบียนสาขา บริษัทฯ มีสิทธินำภาษีซื้อจากค่าบริการดังกล่าว มาถือเป็นภาษีซื้อในการ คำนวณภาษีมูลค่าเพิ่มของสถานประกอบการที่เป็นสำนักงานใหญ่ ได้หรือไม่ และในช่วงขออนุมัติยื่นแบบแสดงรายการภาษีมูลค่าเพิ่มรวมกัน บริษัทฯ สามารถยื่นแบบแสดงรายการภาษีมูลค่าเพิ่มรวมกันได้ในทันทีโดยไม่ต้องรอผลการขออนุมัติ ได้หรือไม่
          3. กรณีที่บริษัทฯ มีการขายสินค้า โดยสินค้าถูกขายออกจากคลังสินค้าของ บริษัท ท. ซึ่งหากบริษัทฯ จำเป็นต้องจดทะเบียนสาขา ภาษีขายและการออกใบกำกับภาษีจากการขายสินค้านั้น จะถือเป็นภาษีขายและออกใบกำกับภาษีจากสถานประกอบการที่สำนักงานใหญ่ ได้หรือไม่
          4. กรณีที่บริษัทฯ มีการซื้อสินค้าเข้าคลังสินค้าของ บริษัท ท. บริษัทฯ มีสิทธินำภาษีซื้อจากการซื้อสินค้านั้น มาถือเป็นภาษีซื้อในการคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่มของสถานประกอบการที่เป็นสำนักงานใหญ่หรือสาขา
แนววินิจฉัย          1. กรณีบริษัทฯ ได้ทำสัญญาจ้างให้ บริษัท ท. บริการเก็บรักษาสินค้าที่คลังสินค้าของบริษัท ท. โดยสินค้า ดังกล่าว อยู่ในการควบคุม ดูแลของบริษัท ท. พร้อมทั้งจะรับผิดชอบในความเสียหายและสูญหายที่เกิดขึ้นในสินค้า การบริการเก็บรักษาสินค้าของบริษัท ท. เข้าลักษณะเป็นการให้บริการรับฝากทรัพย์ ตามมาตรา 657 แห่งประมวลกฎหมาย แพ่งและพาณิชย์ บริษัทฯ ไม่มีสิทธิครอบครองคลังสินค้าที่ใช้จัดเก็บสินค้าดังกล่าว จึงไม่ถือเป็นสถานที่เก็บสินค้าเป็นประจำ ของบริษัทฯ และไม่เข้าลักษณะเป็นสถานประกอบการ ตามมาตรา 77/1(20) แห่งประมวลรัษฎากร ดังนั้น บริษัทฯ ไม่ต้องจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มสถานที่ฝากทรัพย์ดังกล่าว เป็นสถานประกอบการสาขาของบริษัทฯ แต่อย่างใด และบริษัทฯ มีสิทธินำใบกำกับภาษีที่บริษัท ท. ออกให้ สำหรับค่าบริการตามสัญญาไปถือเป็นภาษีซื้อในการคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่มได้ ตามมาตรา 82/3 แห่งประมวลรัษฎากร
          2. เมื่อบริษัทฯ ซื้อสินค้าเข้าคลังสินค้าของบริษัท ท. เพื่อรอขาย และส่งมอบสินค้าให้แก่ลูกค้า บริษัทฯ มีสิทธินำ ภาษีซื้ออันเกิดจากการซื้อสินค้าเพื่อขายให้แก่ลูกค้าดังกล่าวไปหักออกจากภาษีขายในการคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่มของ บริษัทฯ ได้ ทั้งนี้ ตามมาตรา 82/3 และมาตรา 82/4 วรรคสี่ แห่งประมวลรัษฎากร
เลขตู้: 70/35557

 

 

ปรับปรุงล่าสุด: 22-05-2020