|
|
|
|
การเตรียมตัวสอบ |
| | | | | | | | |
| | การวางแผนการเข้าทดสอบ |
| | | | วิชาชีพสอบบัญชีภาษีอากร
เป็นวิชาชีพอิสระที่มีเกียรติศักดิ์แห่งวิชาชีพ ผู้สอบบัญชีภาษีอากร
เป็นผู้มีเกียรติยศ และศักดิ์ศรี เป็นที่ยอมรับของสังคม
ผู้สมัครเข้าทดสอบจึงพึงมีความมุ่งมั่น แน่วแน่
ในการเข้าทดสอบเพื่อเป็นผู้สอบบัญชีภาษีอากร ในอันที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างมาตรฐานทางสังคมที่ดีงาม
โดยเฉพาะในการประกอบวิชาชีพการสอบบัญชีภาษีอากรที่มีคุณภาพ เป็นที่เชื่อถือ
และยอมรับของสังคม |
| | | | กรมสรรพากร เปิดรับสมัครเพื่อทดสอบเป็นผู้สอบบัญชีภาษีอากรถึงปีละ 3 ครั้ง แต่ละครั้งมีกำหนดเวลาที่แน่นอน
ดังนี้ |
| | | | ครั้งที่ | กำหนดเวลารับสมัคร | กำหนดเวลาในการสอบ | ประกาศผลสอบ |
| | | | 1 | 25 ธันวาคม - 16 มกราคม | เดือนกุมภาพันธ์ | 30 เมษายน |
| | | | 2 | 25 เมษายน - 16 พฤษภาคม | เดือนมิถุนายน | 30 สิงหาคม |
| | | | 3 | 25 สิงหาคม - 16 กันยายน | เดือนตุลาคม | 30 ธันวาคม |
| | | | กรณีที่เตรียมสอบไว้เป็นอย่างดี มีหลายต่อหลายท่านสอบผ่านทั้ง 3
วิชาในคราวเดียว อันเป็นเกียรติประวัติของผู้สอบบัญชีภาษีอากรท่านนั้นๆ ตลอดไป |
| | | | หากไม่ประสงค์จะสอบทุกวิชาในการเข้าทดสอบเพียงครั้งเดียว
ให้เลือกสอบวิชาที่ท่านเห็นว่ายากที่สุดให้ได้ก่อนเช่น
บางท่านเห็นว่าวิชาสอบบัญชี เป็นวิชาที่ยากที่สุดสำหรับท่าน
ให้เพิ่มความพยายามที่จะสอบให้ได้ก่อนวิชาอื่นๆ
เพราะเมื่อท่านผ่านการทดสอบวิชาใดแล้วสำนักมาตรฐานการสอบบัญชีภาษีอากร(มบ.)
จะเริ่มนับอายุความของวิชานั้นไปอีกสามปี |
| | | | ในกรณีที่มีภูมิลำเนาอยู่ในต่างจังหวัด ให้วางแผนการเดินทาง
และจัดแผนการสอบแต่ละวิชาที่จะทำให้ท่านมีค่าใช้จ่ายน้อยที่สุด |
| | การเตรียมความพร้อมด้านความรู้
ความเข้าใจในขอบเขตเนื้อหาวิชาที่ทำการทดสอบอย่างถ่องแท้ ซึ่งในแต่ละวิชามีขอบเขตเนื้อหาดังนี้ |
| | | | วิชาการบัญชี ทดสอบความรู้การบัญชีเกี่ยวกับห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน
โดยครอบคลุมในเรื่อง |
| | | | | - | แม่บทการบัญชี |
| | | | | - | หลักการบันทึกบัญชี |
| | | | | - | การจัดทำงบการเงินตามประกาศกรมพัฒนาธุรกิจการค้า |
| | | | | - | การเปิดเผยข้อมูลในงบการเงิน |
| | | | | - | มาตรฐานการบัญชีเกี่ยวกับสินทรัพย์ หนี้สิน
และส่วนของผู้เป็นหุ้นส่วน |
| | | | | - | การรับรู้รายได้และค่าใช้จ่าย |
| | | | | - | การบัญชีต้นทุนผลิตสินค้า อาทิ ต้นทุนช่วง ต้นทุนงานสั่งทำ |
| | | | | ทั้งนี้
ไม่รวมถึงมาตรฐานการบัญชีที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้ากำหนดให้ใช้เฉพาะบริษัทมหาชน |
| | | | วิชาการสอบบัญชี ทดสอบความรู้เกี่ยวกับการสอบบัญชีตามหลักเกณฑ์การปฏิบัติและการรายงานสำหรับผู้สอบบัญชีภาษีอากรตามมาตรา
3 สัตต แห่งประมวลรัษฎากรโดยครอบคลุมถึง |
| | | | | - | หลักฐานการสอบบัญชีและวิธีการตรวจสอบ |
| | | | | - | การรวบรวมหลักฐาน |
| | | | | - | หลักพื้นฐานของการควบคุมภายใน การประเมินความเสี่ยง |
| | | | | - | เทคนิคต่าง ๆ ที่ใช้ในการตรวจสอบบัญชี |
| | | | | - | การจัดทำกระดาษทำการ |
| | | | | - | แนวการตรวจสอบ |
| | | | | - | การสอบทานและการควบคุมงานสอบบัญชี |
| | | | | - | จรรยาบรรณของผู้ตรวจสอบและรับรองบัญชี |
| | | | วิชาความรู้เกี่ยวกับประมวลรัษฎากรและประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายไทย ทดสอบความรู้เกี่ยวกับ |
| | | | (1) | ประมวลรัษฎากร
ในส่วนที่เกี่ยวกับห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน |
| | | | | - | การคำนวณกำไรสุทธิเพื่อเสียภาษีเงินได้นิติบุคคล |
| | | | | - | ภาษีมูลค่าเพิ่ม |
| | | | | - | ภาษีธุรกิจเฉพาะ |
| | | | | - | อากรแสตมป์ |
| | | | | - | การหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย |
| | | | | - | หน้าที่เกี่ยวกับการยื่นแบบแสดงรายการ การชำระและการนำส่งภาษี |
| | | | | - | การจัดทำรายงานและบัญชีพิเศษตามประมวลรัษฎากร |
| | | | | - | รวมถึงประกาศอธิบดีกรมสรรพากร
เกี่ยวกับการตรวจสอบและรับรองบัญชีตามมาตรา 3 สัตต แห่งประมวลรัษฎากร |
| | | | (2) | ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ พระราชบัญญัติการบัญชี พ.ศ. 2543 ประกาศและคำสั่งของกรมพัฒนาธุรกิจการค้าเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวกับห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน |
| | ความตั้งใจจริงและความมุ่งมั่นเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งของผู้ที่จะเข้ารับการทดสอบ
การคิดเพียงเพื่อลองทำข้อสอบ หรือสมัครเข้าไปลองดูข้อสอบ นอกจากเสียเวลา
เสียค่าใช้จ่ายที่ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ผลใดๆ แล้ว
ยังเป็นการบั่นทอนความเชื่อมั่นและกำลังใจของท่านอีกด้วย |
| | หมั่นฝึกเขียนและฝึกทำโจทย์แบบฝึกหัด เช่น
การบันทึกบัญชี การเขียนแนวการสอบบัญชี การจัดทำกระดาษทำการ
การเขียนตอบข้อสอบกฎหมาย เป็นต้น |
| | ศึกษาให้เข้าใจในข้อปฏิบัติในการเข้ารับการทดสอบเป็นผู้สอบบัญชีภาษีอากรแนบท้ายประกาศกรมสรรพากร เรื่อง
การทดสอบความรู้ของผู้เข้ารับการทดสอบเป็นผู้สอบบัญชีภาษีอากร
เพราะการทดสอบในแต่ละครั้งที่ผ่านมาจะพบข้อผิดพลาดที่ผู้เข้ารับการทดสอบไม่ปฏิบัติตามข้อปฏิบัติดังกล่าวจึงทำให้ไม่ได้รับการตรวจสมุดคำตอบ
ซึ่งข้อผิดพลาดที่พบบ่อยๆ เช่น |
| | | | ในการทดสอบแต่ละวิชา
มีข้อกำหนดเกี่ยวกับสีของสมุดที่ใช้เขียนตอบในแต่ละข้อ
ในบางครั้งผู้เข้ารับการทดสอบใช้สมุดผิดสี ผิดเล่ม
และไม่แจ้งให้เจ้าหน้าที่คุมสอบทราบ |
| | | | ในการเขียนข้อสอบอัตนัย
กำหนดให้ใช้ปากกาสีน้ำเงินในการทำข้อสอบเท่านั้น
แต่ผู้เข้ารับการทดสอบหลายท่านใช้ปากกาหมึกสีอื่น เช่น หมึกสีดำ หรือสีแดง
หรือใช้ดินสอ |
| | | | ผู้เข้ารับการทดสอบเขียนชื่อ นามสกุล
เลขประจำตัวสอบและเลขประจำตัวประชาชนในสมุดคำตอบ |
| | ควรอ่านตำราให้ละเอียดจนเกิดความเข้าใจอย่างถ่องแท้ ในทุกประเด็นที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาวิชาที่จะทดสอบ
ซึ่งต้องใช้เวลาในการเตรียมตัวพอสมควร ไม่ควรใช้วิธีท่องจำ
และนำบทที่ได้ท่องจำไปเขียนในสมุดคำตอบโดยตอบไม่ตรงกับประเด็นที่ถาม
อันจะทำให้ไม่เกิดผลดีแก่ท่านผู้เข้าทดสอบแต่อย่างใด |
| | ในวันที่เข้าทำการทดสอบควรเตรียมตัวให้พร้อมทั้งเอกสารหลักฐานประกอบการสอบ
และปากกาหมึกสีน้ำเงิน รวมทั้งเครื่องคำนวณ |
| | ควรเดินทางไปถึงสถานที่สอบก่อนเวลาเข้าสอบไม่น้อยกว่า
15 นาที ถึงครึ่งชั่วโมง
เพื่อตรวจสอบรายละเอียดเกี่ยวกับที่นั่งสอบ ห้องสอบ ชั้นและอาคารที่สอบ |
| | ก่อนวันสอบไม่ควรนอนดึกจนเกินไป
อาจทำให้มีอาการมึนงง ไม่โปร่งโล่ง สบาย
ทบทวนเนื้อหาความรู้ที่สรุปไว้เพื่อเตรียมพร้อมจะเข้าทดสอบให้เกิดความชัดเจนยิ่งๆ
ขึ้นไป |
|
ในขณะทำข้อสอบ |
| | | | | | | | |
| | อ่านข้อปฏิบัติในการเข้ารับการทดสอบเป็นผู้สอบบัญชีภาษีอากรที่ผู้คุมสอบได้วางให้บนโต๊ะและปฏิบัติตามโดยเคร่งครัด |
| | ตรวจนับจำนวนข้อสอบว่ามีครบทุกข้อ
ทุกแผ่นหรือไม่ |
| | ก่อนทำข้อสอบผู้เข้ารับการทดสอบควรอ่านโจทย์ข้อสอบอัตนัยทั้ง 3 ข้อว่าแต่ ละข้อโจทย์ถามเกี่ยวกับเรื่องอะไร
มีกี่ประเด็นที่ต้องการให้ตอบ
หากอ่านโจทย์แล้วรู้ว่าจะตอบอะไรก็อาจจะเขียนโครงร่างเป็นหัวข้อว่าจะตอบอะไรเพื่อจะได้ไม่ลืมและจะได้ตอบเป็นขั้นตอน
ไม่วกไปวนมาหรือจบไม่ลง |
| | ดูคะแนนที่ให้ไว้ท้ายข้อสอบแต่ละข้อหรือข้อย่อย
(ถ้ามี) ว่าแต่ละข้อมีคะแนนเท่าไรเพื่อจะได้ทราบถึงน้ำหนักของคะแนนแต่ละข้อ |
| | แบ่งเวลาในการทำข้อสอบแต่ละข้อให้เหมาะสม
พยายามทำข้อสอบให้ครบทุกข้อ เลือกทำข้อสอบที่คิดว่าทำได้ดีที่สุดก่อน |
| | วิเคราะห์คำถามอย่างรอบคอบเพื่อให้เข้าใจว่าคำถามถามเกี่ยวกับอะไร
มีกี่ประเด็นตอบให้ครบทุกคำถาม
ให้ตรงประเด็น |
| | วางโครงเรื่องของคำตอบทุกครั้งเพื่อจะได้จัดระเบียนของความรู้
ความคิดที่รวบรวมให้มีลำดับขั้นตอนและเพื่อให้สามารถตอบคำถามได้อย่างครอบคลุมทุกประเด็น ไม่วกไปวนมา ไม่ควรตอบแบบสั้น ๆ ไม่มีคำอธิบายหรือคลุมเครือหรือเหวี่ยงแหหรือตอบยาวมากแต่ไม่ตรงกับประเด็นที่ถาม |
| | ใช้ภาษาที่ง่าย
กะทัดรัด สื่อความชัดเจน
เขียนด้วยลายมือที่ชัดเจนให้อ่านง่าย |
| | ใช้หลักการของย่อหน้าช่วยในการเขียน ในการแบ่งประเด็นความคิดให้ชัดเจนแล้วเขียนข้อความเพียง 1 ประเด็นในแต่ละย่อหน้า อย่าเขียนติดกันเป็นพืดโดยไม่มีย่อหน้า |
| | ต้องมีความรู้ความเข้าในวิชาที่เข้ารับการทดสอบอย่างดีเพราะเมื่อเข้ารับการทดสอบด้วยเวลาอันจำกัด
อาจจะทำให้เกิดการผิดพลาดได้ |
| | ไม่ควรเตรียมตัวโดยการเก็งข้อสอบหรือการไปติวกันมาจากที่เดียวกันโดยไม่ได้เตรียมตัวตามขอบเขตของเนื้อหาวิชาที่ทดสอบ
เพราะจะทำให้ทำข้อสอบไม่ได้
เมื่อเจอคำถามที่ไม่ตรงกับที่เก็งหรือติวมาก็จะทำไม่ได้เลยหรือจะมีลักษณะที่ตอบมาผิดเหมือน
ๆ กันเพราะจะเขียนตอบตามที่รู้เท่านั้นแต่ไม่ตรงกับประเด็นที่ถาม |
| | ตอบคำถามให้ตรงประเด็นกับที่โจทย์ถามเพราะข้อผิดพลาดที่พบบ่อยคือผู้เข้ารับการทดสอบไม่เข้าใจคำถามที่ถามโดยดูจากกระดาษคำตอบจะตอบคนละเรื่องกับที่ถาม
หรือตอบคำถามตามที่ท่องจำมา ไม่รู้จริง
ถ้าคำถามเปลี่ยนแปลงไปจากที่ท่องจำมาก็จะทำข้อสอบไม่ได้ ผู้เข้ารับการทดสอบต้องหมั่นฝึกทำแบบฝึกหัดบ่อย
ๆ หรือศึกษา Case Study ต่างๆ
แล้วหัดตอบ หัดเขียน เป็นต้น |
| | การตอบข้อสอบอย่าลอกโจทย์มาตอบโดยไม่มีคำตอบทำให้เสียเวลาและจะไม่ได้คะแนนจากการลอกโจทย์เพียงอย่างเดียว
โดยเฉพาะการตอบข้อสอบวิชาประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์อาจจะมีลักษณะเป็นโจทย์คำถามแบบตุ๊กตา
ผู้เข้ารับการทดสอบต้องอ่านโจทย์ในลักษณะนี้ให้เข้าใจแล้วแยกแยะประเด็นที่โจทย์ต้องการให้ตอบเพื่อจะได้ตอบให้ครบถ้วน
ซึ่งลักษณะการเขียนข้อสอบกฎหมายนี้ควรประกอบด้วย 3 ส่วนหลัก ดังนี้ |
| | | | ส่วนที่ 1 ให้เขียน
หลักกฎหมายวางไว้ว่า.............................................
(วิเคราะห์จากโจทย์แล้วมีประเด็นอะไรที่โจทย์ถามมามีหลักกฎหมายอะไรเกี่ยวข้องบ้าง
ให้ยกหลักกฎหมายนั้นขึ้นมา) |
| | | | ส่วนที่ 2 ให้เขียน วินิจฉัยปัญหา
เป็นการปรับบทกฎหมายให้เข้ากับข้อเท็จจริงโดยพิจารณาว่าตามข้อเท็จจริงที่โจทย์ให้มานั้นเมื่อนำมาปรับเข้ากับข้อกฎหมายแล้วผลจะเป็นอย่างไร |
| | | | ส่วนที่ 3 คือ สรุป คือตอบคำถามตามที่โจทย์ถามมา |
|
ข้อผิดพลาดจากการทำข้อสอบในแต่ละวิชา
เช่น |
| | | | | | | | |
| | การบัญชี |
| | | | ไม่เข้าใจคำถาม ตอบไม่ตรงคำถาม |
| | | | บันทึกบัญชี เดบิต เครดิต สลับกัน |
| | | | การคำนวณต้นทุนผลิตสินค้า ไม่เข้าใจงบต้นทุนการผลิต
แยกแยะรายการในงบต้นทุนการผลิตไม่ได้ |
| | | | ไม่เขียนรายละเอียดหรือที่มาของตัวเลขในการคำนวณต่าง ๆ |
| | | | ไม่มีการคำนวณประกอบ ใส่แต่คำตอบอย่างเดียว |
| | | | ตอบคำถามโดยไม่ดูว่าโจทย์กำหนดอะไรมาให้ เช่น |
โจทย์มีรายการค่าเช่าล่วงหน้า
ค่าเช่าให้ปรับปรุงออก จะบันทึกบัญชีเป็น |
เดบิต ค่าเช่าจ่าย |
เครดิต ค่าใช้จ่ายล่วงหน้า |
ซึ่งที่ถูกต้อง คือ |
เดบิต ค่าเช่า |
เครดิต ค่าเช่าจ่ายล่วงหน้า |
| | | | ไม่เข้าใจความหมายของต้นทุนขาย
แยกรายการที่เป็นสินทรัพย์และรายการที่เป็นค่าใช้จ่ายไม่ถูกต้อง
คำนวณกำไรขาดทุนไม่ได้ |
| | | | ไม่เข้าใจว่ารายการใดจะนำไปบวกหรือลบกับรายการใด
เพื่อคำนวณเป็นต้นทุนต่อหน่วย เช่น ส่วนลดรับ ค่าขนส่งเข้า |
| | การสอบบัญชี |
| | | | ไม่เข้าใจคำถาม ไม่อ่านคำถามให้เข้าใจ ตอบไม่ตรงคำถาม
ตอบคำถามสลับข้อกัน |
| | | | ถามเรื่องแนวการสอบบัญชีหรือวิธีการตรวจแต่ไปตอบเรื่องการจัดทำกระดาษทำการ |
| | | | ไม่สามารถเขียนแนวการสอบบัญชีหรือวิธีการตรวจของแต่ละบัญชีที่โจทย์ถาม |
| | | | ตอบคำถามไม่แยกเป็นประเด็นตอบแบบรวม ๆ |
| | | | ไม่มีความรู้
ความเข้าใจในวัตถุประสงค์การจัดทำรายงานการตรวจสอบและรับรองบัญชี |
| | | | ไม่รู้จักการจัดทำกระดาษทำการ
เช่นไม่รู้วิธีการทำเครื่องหมายในการตรวจสอบในกระดาษทำการ เนื้อหาและรูปแบบกระดาษทำการ |
| | | | ให้ตอบเป็นประเด็น เช่นให้ตอบ 5 ประเด็น แต่ตอบมาเพียงประเด็นเดียว |
| | | | ไม่มีความรู้ความเข้าใจในการจัดทำกระดาษทำการปรับปรุงสินค้าคงเหลือ |
| | ความรู้เกี่ยวกับประมวลรัษฎากรและประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ |
| | | | ไม่เข้าใจคำถาม ตอบไม่ตรงคำถาม |
| | | | ตอบคำถามโดยไม่มีหลักกฎหมายและไม่เขียนหลักกฎหมาย |
| | | | วินิจฉัยปัญหาโดยลอกโจทย์มา ตอบโดยใช้จินตนาการ
ความรู้สึกไม่มีสรุป |
| | | | โจทย์ถามเรื่องภาษีมูลค่าเพิ่มไปตอบภาษีเงินได้นิติบุคคล
ภาษีธุรกิจเฉพาะหรือไม่มีความรู้ในเรื่องภาษีที่ถามจะไปตอบภาษีอื่นที่อยากจะตอบ |
| | | | | | | | |