เมนูปิด

ประกาศกรมสรรพากร

เรื่อง      กำหนดคุณสมบัติ การขออนุญาต การออกใบอนุญาต การต่ออายุใบอนุญาต และการขอออกใบแทนใบอนุญาตเป็นสำนักงานบัญชีตัวแทนยื่นแบบแสดงรายการภาษีและชำระภาษีหรือดำเนินการอื่นใดตามที่อธิบดีกรมสรรพากรกำหนดในนามของผู้มีหน้าที่เสียภาษีผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตทางเว็บไซต์ (Web Site) ของกรมสรรพากร  http://www.rd.go.th

 

--------------------------------

 

                      โดยเหตุที่การจัดเก็บภาษีอากรตามประมวลรัษฎากรอยู่ในอำนาจหน้าที่และการ ควบคุมของ กรมสรรพากร ทั้งนี้ ตามมาตรา 5 แห่งประมวลรัษฎากร ดังนั้น เพื่อให้การควบคุมและกำกับดูแลการจัดเก็บภาษีอากรตามประมวลรัษฎากรเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ กรมสรรพากร จึงให้สำนักงานบัญชีตัวแทนซึ่งมีคุณสมบัติตามหลักเกณฑ์ที่กรมสรรพากรกำหนดสามารถยื่นแบบแสดงรายการภาษีและชำระภาษี หรือดำเนินการอื่นใดตามที่อธิบดีกรมสรรพากรกำหนดในนาม ของผู้มีหน้าที่เสียภาษีผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตทางเว็บไซต์ (Web Site) ของกรมสรรพากร www.rd.go.th ได้ ซึ่งสำนักงานบัญชีตัวแทนดังกล่าวจะต้องมีคุณสมบัติและปฏิบัติตาม หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขเกี่ยวกับการขออนุญาต การออกใบอนุญาต การต่ออายุใบอนุญาต และการขอออกใบแทนใบอนุญาตเป็นสำนักงานบัญชีตัวแทน ดังต่อไปนี้

 

                      ข้อ   1   ในประกาศนี้ เว้นแต่ข้อความจะแสดงให้เห็นเป็นอย่างอื่น

                                      (1)  คำว่า "สำนักงานบัญชีตัวแทน" หมายความว่า บุคคลซึ่งทำหน้าที่ยื่นแบบแสดงรายการภาษีและชำระภาษี หรือดำเนินการอื่นใดตามที่อธิบดีกรมสรรพากรกำหนดในนามของผู้มีหน้าที่เสียภาษี ผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตทางเว็บไซต์ (Web Site) ของกรมสรรพากร www.rd.go.th

                                      บุคคลตามวรรคหนึ่ง หมายความว่า บุคคลธรรมดา คณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคล ห้างหุ้นส่วนสามัญ กองทุน มูลนิธิที่มิใช่นิติบุคคล หน่วยงานหรือกิจการของเอกชนที่กระทำโดยบุคคลธรรมดา ตั้งแต่สองคนขึ้นไปอันมิใช่นิติบุคคล บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายไทย มูลนิธิหรือสมาคมที่ประกอบกิจการซึ่งมีรายได้ สหกรณ์ และองค์กรอื่นที่กฎหมายกำหนดให้เป็นนิติบุคคล

                                      (2)  คำว่า "ผู้มีหน้าที่เสียภาษี" หมายความว่า ผู้มีหน้าที่ยื่นแบบแสดงรายการภาษีทุกประเภทภาษี ผู้มีหน้าที่นำส่งภาษี และผู้มีหน้าที่หักภาษี ณ ที่จ่าย ซึ่งได้ว่าจ้างให้สำนักงานบัญชีตัวแทนเป็นผู้ทำบัญชีและแต่งตั้งให้สำนักงานบัญชีตัวแทนดังกล่าวเป็นตัวแทนในการยื่นแบบแสดงรายการภาษีในนามของผู้มีหน้าที่เสียภาษี

                                      (3)  คำว่า "แบบแสดงรายการภาษี" หมายความรวมถึง แบบนำส่งภาษีและแบบยื่นรายการภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย

 

                      ข้อ   2   สำนักงานบัญชีที่ประสงค์จะเป็นสำนักงานบัญชีตัวแทนยื่นแบบแสดงรายการภาษีและชำระภาษี หรือดำเนินการอื่นใดตามที่อธิบดีกรมสรรพากรกำหนดในนามของผู้มีหน้าที่เสียภาษีผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตทางเว็บไซต์ (Web Site) ของกรมสรรพากร www.rd.go.th จะต้องมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้

                                      2.1  กรณีสำนักงานบัญชีตัวแทนเป็นบุคคลธรรมดา

                                              “(1)  เป็นผู้ทำบัญชีตามคุณสมบัติและเงื่อนไขของการเป็นผู้ทำบัญชีตามพระราชบัญญัติการบัญชี พ.ศ. 2543 และผ่านการอบรมทางด้านกฎหมายภาษีอากรตามหลักสูตรที่อธิบดีกรมสรรพากรกำหนด”

(แก้ไขเพิ่มเติมโดยประกาศกรมสรรพากร ลงวันที่ 6 สิงหาคม 2547 ใช้บังคับ 7 สิงหาคม 2547 เป็นต้นไป)

                                              “(2) มีประสบการณ์ในด้านการทำบัญชีเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 5 ปีและเป็นสำนักงานบัญชีตัวแทนของผู้มีหน้าที่เสียภาษีไม่น้อยกว่า 30 ราย ณ วันที่ขออนุญาตเป็นสำนักงานบัญชีตัวแทน”

(แก้ไขเพิ่มเติมโดยประกาศกรมสรรพากร ลงวันที่ 20 เมษายน 2552 ใช้บังคับ 1 เมษายน 2552 เป็นต้นไป)

                                              (3) ต้องทำบัญชีให้แก่ผู้มีหน้าที่เสียภาษีและยื่นแบบแสดงรายการภาษีในนามของ ผู้มีหน้าที่เสียภาษี โดยมิได้ดำเนินการตรวจสอบและรับรองบัญชีให้แก่ผู้มีหน้าที่เสียภาษีในขณะที่ดำเนินการเป็นสำนักงานบัญชีตัวแทน

                                              (4) ไม่เป็นสำนักงานบัญชีตัวแทนยื่นแบบแสดงรายการภาษีผ่านระบบเครือข่าย อินเทอร์เน็ตทางเว็บไซต์ (Web Site) ของกรมสรรพากร www.rd.go.th ที่อยู่ระหว่างถูกสั่งพักหรือ ถูกเพิกถอน

                                              (5) มีประวัติการเสียภาษีที่ดี มีการเสียภาษีสอดคล้องกับสภาพความเป็นจริงของ กิจการ และไม่มีพฤติการณ์หลีกเลี่ยงภาษีให้นำความในวรรคหนึ่งมาใช้บังคับกรณีสำนักงานบัญชีตัวแทนเป็น คณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคล ห้างหุ้นส่วนสามัญ กองทุน มูลนิธิที่มิใช่นิติบุคคล หน่วยงานหรือกิจการของเอกชน ที่กระทำโดยบุคคลธรรมดาตั้งแต่สองคนขึ้นไปอันมิใช่นิติบุคคลด้วย

                                      2.2  กรณีสำนักงานบัญชีตัวแทนเป็นบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายไทย

                                              “(1)  เป็นผู้ทำบัญชีตามคุณสมบัติและเงื่อนไขของการเป็นผู้ทำบัญชีตามพระราชบัญญัติการบัญชี พ.ศ. 2543 และผ่านการอบรมทางด้านกฎหมายภาษีอากรตามหลักสูตรที่อธิบดีกรมสรรพากรกำหนด”

(แก้ไขเพิ่มเติมโดยประกาศกรมสรรพากร ลงวันที่ 6 สิงหาคม 2547 ใช้บังคับ 7 สิงหาคม 2547 เป็นต้นไป)

                                              “(2) มีประสบการณ์ในด้านการทำบัญชีเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 5 ปีและเป็นสำนักงานบัญชีตัวแทนของผู้มีหน้าที่เสียภาษีไม่น้อยกว่า 30 ราย ณ วันที่ขออนุญาตเป็นสำนักงานบัญชีตัวแทน”

(แก้ไขเพิ่มเติมโดยประกาศกรมสรรพากร ลงวันที่ 20 เมษายน 2552 ใช้บังคับ 1 เมษายน 2552 เป็นต้นไป)                                               (3) ต้องทำบัญชีให้แก่ผู้มีหน้าที่เสียภาษีและยื่นแบบแสดงรายการภาษีในนามของผู้มีหน้าที่เสียภาษี โดยมิได้ดำเนินการตรวจสอบและรับรองบัญชีให้แก่ผู้มีหน้าที่เสียภาษีในขณะที่ดำเนินการเป็นสำนักงานบัญชีตัวแทน

                                              (4) มีทรัพย์สินสุทธิมากกว่าหนี้สินสุทธิสำหรับรอบระยะเวลาบัญชีปีสุดท้ายก่อนยื่นคำขอเป็นสำนักงานบัญชีตัวแทน

                                              (5) ไม่เป็นสำนักงานบัญชีตัวแทนยื่นแบบแสดงรายการภาษีผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตทางเว็บไซต์ (Web Site) ของกรมสรรพากร www.rd.go.th ที่อยู่ระหว่างถูกสั่งพักหรือถูกเพิกถอน

                                              (6) มีประวัติการเสียภาษีที่ดี มีการเสียภาษีสอดคล้องกับสภาพความเป็นจริงของกิจการ และไม่มีพฤติการณ์หลีกเลี่ยงภาษีให้นำความในวรรคหนึ่งมาใช้บังคับกรณีสำนักงานบัญชีตัวแทนเป็นมูลนิธิหรือสมาคมที่ประกอบกิจการซึ่งมีรายได้ สหกรณ์ และองค์กรอื่นที่กฎหมายกำหนดให้เป็นนิติบุคคล

 

                      ข้อ   3   การยื่นคำขออนุญาตและการออกใบอนุญาต

                                      3.1 ให้ผู้มีคุณสมบัติตามข้อ 2 ซึ่งมีความประสงค์จะเป็นสำนักงานบัญชีตัวแทนจัดให้มีสัญญาการตั้งตัวแทนยื่นแบบแสดงรายการภาษีและชำระภาษีผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตทางเว็บไซต์ (Web Site) ของกรมสรรพากร www.rd.go.th และมอบอำนาจให้กระทำการแทนเป็นลายลักษณ์อักษรระหว่างสำนักงานบัญชีตัวแทนและผู้มีหน้าที่เสียภาษี โดยผู้มีหน้าที่เสียภาษีต้องทำข้อตกลงกับกรมสรรพากรในการขอแต่งตั้งสำนักงานบัญชีตัวแทนเป็นตัวแทนยื่นแบบแสดงรายการภาษีและชำระภาษีผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตทางเว็บไซต์ (Web Site) ของกรมสรรพากร www.rd.go.th ตามแบบที่อธิบดีกรมสรรพากรกำหนด ผู้มีหน้าที่เสียภาษีแต่ละรายมีสิทธิทำสัญญาแต่งตั้งและมอบอำนาจให้สำนักงานบัญชีตัวแทนรายหนึ่งรายใดเท่านั้นเป็นตัวแทนในการยื่นแบบแสดงรายการภาษีผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตทางเว็บไซต์ (Web Site) ของ กรมสรรพากร www.rd.go.th โดยสัญญาการตั้งตัวแทนและมอบอำนาจให้กระทำการแทนนั้นจะต้องระบุให้ชัดเจนว่าสำนักงานบัญชีตัวแทนมีสิทธิยื่นแบบแสดงรายการภาษีประเภทใดในนามของผู้มีหน้าที่เสียภาษีผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตทางเว็บไซต์ (Web Site) ของกรมสรรพากร www.rd.go.th

                                      3.2 ผู้มีความประสงค์จะเป็นสำนักงานบัญชีตัวแทนตาม 3.1 ให้ยื่นคำขอเป็นสำนักงานบัญชีตัวแทนต่ออธิบดีกรมสรรพากรตามแบบที่อธิบดีกรมสรรพากรกำหนด เมื่ออธิบดีกรมสรรพากรอนุญาตให้เป็นสำนักงานบัญชีตัวแทน ผู้ยื่นคำขอจะได้รับใบอนุญาตเป็นสำนักงานบัญชีตัวแทนใบอนุญาตเป็นสำนักงานบัญชีตัวแทนตามวรรคหนึ่งเป็นไปตามแบบที่อธิบดีกรมสรรพากรกำหนด และให้มีอายุสองปีนับแต่วันที่ได้รับอนุญาตให้เป็นสำนักงานบัญชีตัวแทน

 

                      ข้อ   4   สำนักงานบัญชีที่ได้รับอนุญาตให้เป็นสำนักงานบัญชีตัวแทนยื่นแบบแสดงรายการภาษีและชำระภาษี หรือดำเนินการอื่นใดตามที่อธิบดีกรมสรรพากรกำหนดในนามของผู้มีหน้าที่เสียภาษีผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตทางเว็บไซต์ (Web Site) ของกรมสรรพากร www.rd.go.th จะต้องดำเนินการดังต่อไปนี้

                                      4.1 จัดทำแบบแสดงรายการภาษีและยื่นแบบแสดงรายการภาษี หรือจัดทำแบบแสดงรายการภาษีและยื่นแบบแสดงรายการภาษีพร้อมชำระภาษีในนามของผู้มีหน้าที่เสียภาษีผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตทางเว็บไซต์ (Web Site) ของกรมสรรพากร www.rd.go.th โดยใช้หมายเลขผู้ใช้ (User ID) และรหัสผ่าน (Password) ของสำนักงานบัญชีตัวแทน เพื่อทำการยื่นแบบแสดงรายการภาษีหรือยื่นแบบแสดงรายการภาษีและชำระภาษีในนามของผู้มีหน้าที่เสียภาษีผ่านเลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากรของผู้มีหน้าที่เสียภาษี

                                      สำนักงานบัญชีตัวแทนมีหน้าที่ต้องยื่นแบบแสดงรายการภาษีในนามของผู้มีหน้าที่เสียภาษีตามประเภทภาษีที่ได้ตกลงกับผู้มีหน้าที่เสียภาษีผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตทางเว็บไซต์ (Web Site) ของกรมสรรพากร www.rd.go.th

                                      กรณีผู้มีหน้าที่เสียภาษีของสำนักงานบัญชีตัวแทนมีจำนวนลดลงจากจำนวนที่สำนักงานบัญชีตัวแทนแจ้งไว้เมื่อขออนุญาตเป็นสำนักงานบัญชีตัวแทน สำนักงานบัญชีตัวแทนยังคงสามารถยื่นแบบแสดงรายการภาษีในนามของผู้มีหน้าที่เสียภาษีผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตทางเว็บไซต์ของ (Web Site) ของกรมสรรพากร www.rd.go.th ได้ ถ้าหากการยื่นแบบแสดงรายการภาษีดังกล่าวขาดไปไม่เกินกว่าร้อยละ 10 ของจำนวนผู้มีหน้าที่เสียภาษี

                                      แบบแสดงรายการภาษีตามวรรคหนึ่ง ไม่รวมถึงแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา (ภ.ง.ด.91)

                                      4.2 ชำระภาษีหรือนำส่งภาษีเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารของกรมสรรพากร

                                              (1)  กรณีสำนักงานบัญชีตัวแทนยื่นแบบแสดงรายการภาษีในนามของผู้มีหน้าที่เสียภาษี โดยผู้มีหน้าที่เสียภาษีเป็นผู้ชำระภาษีด้วยตนเอง ให้กระทำได้โดย

                                                      (ก)  โอนเงินผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ของธนาคาร หรือ

                                                      (ข) โอนเงินผ่านเคาน์เตอร์ไปรษณีย์อัตโนมัติ (Pay at Post)

                                              (2) กรณีสำนักงานบัญชีตัวแทนยื่นแบบแสดงรายการภาษีและชำระภาษีในนามของผู้มีหน้าที่เสียภาษี ให้กระทำได้โดย

                                                      (ก)  โอนเงินทางอิเล็กทรอนิกส์จากบัญชีเงินฝากของสำนักงานบัญชีตัวแทนพร้อมกับการยื่นแบบแสดงรายการภาษี หรือ

                                                      (ข)  โอนเงินทางอิเล็กทรอนิกส์จากบัญชีเงินฝากของสำนักงานบัญชีตัวแทน หรือโอนเงินผ่านเคาน์เตอร์ไปรษณีย์อัตโนมัติ (Pay at Post) ภายหลังการยื่นแบบแสดงรายการภาษี

                                      4.3 nbsp; แจ้งรายชื่อผู้มีหน้าที่เสียภาษีของสำนักงานบัญชีตัวแทนในการยื่นแบบแสดงรายการภาษีผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตทางเว็บไซต์ (Web Site) ของกรมสรรพากร www.rd.go.th ต่ออธิบดีกรมสรรพากรตามแบบที่อธิบดีกรมสรรพากรกำหนดภายในสิบห้าวันนับแต่วันที่ผู้มีหน้าที่เสียภาษีขอใช้บริการของสำนักงานบัญชีตัวแทนหรือเลิกใช้บริการของสำนักงานบัญชีตัวแทน ทั้งนี้ ต้องแจ้งรายชื่อก่อนถึงกำหนดเวลาการยื่นแบบแสดงรายการภาษีในเดือนภาษีหรือปีภาษีถัดไป

                                      4.4  สำนักงานบัญชีตัวแทนซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงรายการทางทะเบียนตามที่ได้แจ้งไว้ต่อกรมสรรพากร ให้แจ้งการเปลี่ยนแปลงต่ออธิบดีกรมสรรพากรตามแบบที่อธิบดีกรมสรรพากรกำหนดภายในสิบห้าวันนับแต่วันที่มีการเปลี่ยนแปลง

                                      การเปลี่ยนแปลงตามวรรคหนึ่ง เช่น การย้ายที่ตั้งสำนักงานบัญชีตัวแทน การเปิดสำนักงานบัญชีตัวแทนเพิ่มเติม การปิดสำนักงานบัญชีตัวแทนบางแห่ง การเลิกสำนักงานบัญชีตัวแทน การเปลี่ยนแปลงทุนจดทะเบียนของบริษัทจำกัด การเปลี่ยนแปลงเงินทุนที่ชำระแล้ว การเพิ่มทุนหรือการลดทุน และการเปลี่ยนแปลงอื่นใดในลักษณะทำนองเดียวกัน

                                      4.5  จัดส่งบุคคลซึ่งมีคุณสมบัติตาม 2.1 หรือ 2.2 เข้ารับการอบรมทางด้านกฎหมายภาษีอากรตามหลักสูตรที่อธิบดีกรมสรรพากรกำหนด

 

                      ข้อ   5   การต่ออายุใบอนุญาต และการขอออกใบแทนใบอนุญาตเป็นสำนักงานบัญชีตัวแทน

                                      “5.1 กรณีใบอนุญาตเป็นสำนักงานบัญชีตัวแทนตาม 3.2 สิ้นสุดลง สำนักงานบัญชีตัวแทนมีสิทธิยื่นคำขอต่ออายุใบอนุญาตต่ออธิบดีกรมสรรพากรได้ ทั้งนี้ สำนักงานบัญชีตัวแทนต้องมีผู้มีหน้าที่เสียภาษีของสำนักงานบัญชีตัวแทนในการยื่นแบบแสดงรายการภาษีผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตทางเว็บไซต์ (Web Site) ของกรมสรรพากร www.rd.go.th ไม่น้อยกว่า 30 ราย ณ วันที่ยื่นคำขอต่ออายุใบอนุญาตเป็นสำนักงานบัญชีตัวแทน

                                    “สำนักงานบัญชีตัวแทนต้องยื่นคำขอต่ออายุใบอนุญาตเป็นสำนักงานบัญชีตัวแทนต่ออธิบดีกรมสรรพากรตามแบบที่อธิบดีกรมสรรพากรกำหนด ภายในระยะเวลาสี่เดือนแต่ไม่น้อยกว่าสองเดือนก่อนวันที่ใบอนุญาตสิ้นสุด”

(แก้ไขเพิ่มเติมโดยประกาศกรมสรรพากรฯ (ฉบับที่ 2) ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2562 เป็นต้นไป)

                                    กรณีสำนักงานบัญชีตัวแทนไม่สามารถยื่นคำขอต่ออายุใบอนุญาตเป็นสำนักงานบัญชีตัวแทนภายในกำหนดเวลาตามวรรคสอง สำนักงานบัญชีตัวแทนจะต้องยื่นคำขอขยายเวลาออกไปต่ออธิบดีกรมสรรพากร เมื่อได้รับอนุมัติจากอธิบดีกรมสรรพากรแล้วสำนักงานบัญชีตัวแทนจะต้องยื่นคำขอต่ออายุใบอนุญาตเป็นสำนักงานบัญชีตัวแทนภายในเวลาไม่เกินสองเดือนนับแต่วันที่ได้รับอนุมัติ

                                    หากมิได้ยื่นคำขอต่ออายุใบอนุญาตเป็นสำนักงานบัญชีตัวแทนภายในกำหนดเวลาดังกล่าว ถือว่าสำนักงานบัญชีตัวแทนสิ้นสภาพการเป็นสำนักงานบัญชีตัวแทน ใบอนุญาตเป็นสำนักงานบัญชีตัวแทนที่ได้รับการต่ออายุแล้ว ให้มีอายุสองปีนับแต่วันที่ใบอนุญาตเป็นสำนักงานบัญชีตัวแทนสิ้นสุดลง”

(แก้ไขเพิ่มเติมโดยประกาศกรมสรรพากร ลงวันที่ 20 เมษายน 2552 ใช้บังคับ 1 เมษายน 2552 เป็นต้นไป)

                                      5.2 กรณีสำนักงานบัญชีตัวแทนทำใบอนุญาตเป็นสำนักงานบัญชีตัวแทนสูญหาย ถูกทำลาย หรือชำรุดในสาระสำคัญเสียหายจนไม่สามารถใช้การได้ ให้สำนักงานบัญชีตัวแทนยื่นคำขอออกใบแทนใบอนุญาตเป็นสำนักงานบัญชีตัวแทนต่ออธิบดีกรมสรรพากรตามแบบที่อธิบดีกรมสรรพากรกำหนดใบแทนใบอนุญาตเป็นสำนักงานบัญชีตัวแทนให้มีรายการเช่นเดียวกับใบอนุญาตเป็นสำนักงานบัญชีตัวแทน โดยให้มีข้อความระบุในที่ที่เห็นได้ชัดว่าเป็นใบแทนใบอนุญาตเป็นสำนักงานบัญชีตัวแทน และให้มีอายุเช่นเดียวกับใบอนุญาตเป็นสำนักงานบัญชีตัวแทนฉบับจริงที่สูญหาย ถูกทำลาย หรือชำรุดในสาระสำคัญเสียหายจนไม่สามารถใช้การได้นั้น

 

                      ข้อ   6   การยื่นคำขออนุญาตเป็นสำนักงานบัญชีตัวแทน การแจ้งรายชื่อของผู้มีหน้าที่เสียภาษี การแจ้งการเปลี่ยนแปลงรายการทางทะเบียน การยื่นคำขอต่ออายุใบอนุญาตเป็นสำนักงานบัญชีตัวแทน และการขอออกใบแทนใบอนุญาตเป็นสำนักงานบัญชีตัวแทน ให้สำนักงานบัญชีตัวแทนยื่นต่ออธิบดีกรมสรรพากรโดยผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตทางเว็บไซต์ (Web Site) ของกรมสรรพากร

http://www.rd.go.th

 

                      ข้อ   7   สำนักงานบัญชีตัวแทนที่ไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขหรือขาดคุณสมบัติข้อหนึ่งข้อใดตามประกาศนี้ อธิบดีอาจพิจารณาสั่งพักหรือเพิกถอนใบอนุญาตการเป็นสำนักงานบัญชีตัวแทนเสียก็ได้

 

                      ข้อ   8   ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ.2546 เป็นต้นไป

 

ประกาศ ณ วันที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2546

 

ศุภรัตน์ ควัฒน์กุล

(นายศุภรัตน์ ควัฒน์กุล)

อธิบดีกรมสรรพากร

 

ปรับปรุงล่าสุด: 10-02-2022