เมนูปิด

ประกาศกรมสรรพากร

เรื่อง      หลักฐานการหักลดหย่อนสำหรับดอกเบี้ยเงินกู้ยืม

 

---------------------------------------------

 

                ตามที่ได้มีประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ 86) เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการ การหักลดหย่อนสำหรับดอกเบี้ยเงินกู้ยืม ตามมาตรา 47(1)(ซ) แห่งประมวลรัษฎากร ลงวันที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2543 ประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ 87) เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการ เพื่อการยกเว้นภาษี เงินได้สำหรับเงินได้เท่าที่จ่ายเป็นดอกเบี้ยเงินกู้ยืม สำหรับการกู้ยืมเงินเพื่อซื้อ เช่าซื้อ หรือสร้างอาคารที่อยู่อาศัย โดยจำนองอาคารที่ซื้อหรือสร้างเป็นประกันการกู้ยืมเงินนั้น ตาม ข้อ 2(52) แห่งกฎกระทรวง ฉบับที่ 126 (พ.ศ. 2509) ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร ลงวันที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2543 และประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ 88) เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการ เพื่อการยกเว้นภาษีเงินได้สำหรับเงินได้เท่าที่ได้จ่ายเป็นดอกเบี้ยเงินกู้ยืมสำหรับการกู้ยืมเงินเพื่อซื้อ เช่าซื้อ หรือสร้างอาคารที่อยู่อาศัย โดยจำนองอาคารที่ซื้อหรือสร้างเป็นประกันการกู้ยืมเงินนั้นตามข้อ 2(53) แห่งกฎกระทรวง ฉบับที่ 126 (พ.ศ. 2509) ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร ลงวันที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2543 กำหนดให้ผู้มีเงินได้ต้องมีหลักฐานจากผู้ให้กู้ยืมที่พิสูจน์ได้ว่าได้มีการจ่ายดอกเบี้ยสำหรับการกู้ยืมเงินนั้น กรมสรรพากรจึงกำหนดหลักฐานที่จะใช้ในการหักลดหย่อนสำหรับดอกเบี้ยเงินกู้ยืม ดังต่อไปนี้

 

                ข้อ 1  ให้ยกเลิกประกาศกรมสรรพากร เรื่อง หลักฐานการหักลดหย่อนสำหรับดอกเบี้ยเงินกู้ยืม ตามมาตรา 47(1)(ซ) แห่งประมวลรัษฎากร ลงวันที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2529

 

                ข้อ 2  หลักฐานที่ผู้มีเงินได้จะต้องใช้ในการหักลดหย่อนสำหรับดอกเบี้ยเงินกู้ยืมจะต้องมีข้อความอย่างน้อยตามแบบ ล.ย.02 หนังสือรับรองดอกเบี้ยเงินกู้ยืม

                        “การลงชื่อของผู้ให้กู้ยืมหรือเจ้าหนี้ในหนังสือรับรองดอกเบี้ยเงินกู้ยืมตามวรรคหนึ่งจะใช้วิธีประทับลายมือชื่อของผู้ให้กู้ยืมหรือเจ้าหนี้ที่ออกหนังสือรับรองดอกเบี้ยเงินกู้ยืมด้วยตรายาง หรือจะพิมพ์ลายมือชื่อผู้ให้กู้ยืมหรือเจ้าหนี้ที่ออกหนังสือรับรองดอกเบี้ยเงินกู้ยืมโดยเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ได้มีการเก็บลายมือชื่อไว้ (SCAN) ก็ได้”

(แก้ไขเพิ่มเติมโดยประกาศกรมสรรพากร ลงวันที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2545 ใช้บังคับสำหรับการออกหนังสือรับรองดอกเบี้ยเงินกู้ยืมตั้งแต่วันที่ 21 มีนาคม 2545 เป็นต้นไป)

 

                ข้อ 3  “หนังสือรับรองดอกเบี้ยเงินกู้ยืมตามข้อ 2 ต้องทำเป็นภาษาไทยหรือภาษาอังกฤษ แต่ถ้าทำเป็นภาษาต่างประเทศอื่น ต้องมีคำแปลภาษาไทยกำกับ ส่วนตัวเลขให้ใช้เลขไทยหรืออารบิค”

(แก้ไขเพิ่มเติมโดยประกาศกรมสรรพากร ลงวันที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2545 ใช้บังคับสำหรับการออกหนังสือรับรองดอกเบี้ยเงินกู้ยืมตั้งแต่วันที่ 21 มีนาคม 2545 เป็นต้นไป)

 

                ข้อ 4  ผู้ให้กู้ยืมที่ประสงค์จะทำหนังสือรับรองเป็นอย่างอื่นนอกจากที่กล่าวไว้ใน ข้อ 2 และข้อ 3 ต้องยื่นคำขออนุมัติจากอธิบดีกรมสรรพากรก่อน และเมื่อได้รับอนุมัติแล้วจึงจะปฏิบัติตามนั้นได้

 

ประกาศ ณ วันที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2543

 

ศุภรัตน์ ควัฒน์กุล

อธิบดีกรมสรรพากร

แบบ ล.ย.02 >>

 

ปรับปรุงล่าสุด: 10-02-2022