การทดสอบผู้สอบบัญชีภาษีอากรที่ผ่าน ๆ มา คณะกรรมการตรวจข้อสอบได้มีข้อสังเกตจากการตรวจข้อสอบที่ผู้เข้ารับการทดสอบสอบไม่ผ่าน ซึ่งสำนักมาตรฐานการสอบบัญชีภาษีอากรได้รวบรวมสรุปมาเพื่อเป็นข้อมูลให้แก่ผู้ที่จะเข้ารับการทดสอบและบุคคลทั่วไปที่สนใจใช้ในการเตรียมตัวสอบหรือปรับปรุงพัฒนาในการทดสอบเป็นผู้สอบบัญชีภาษีอากรต่อไป | |||||||
ข้อผิดพลาดพื้นฐานที่พบบ่อย | |||||||
ไม่ปฏิบัติตามข้อปฏิบัติในการเข้ารับการทดสอบเป็นผู้สอบบัญชีภาษีอากรตามแนบท้ายประกาศกรมสรรพากรเรื่อง การทดสอบความรู้ของผู้ขอเข้ารับการทดสอบเป็นจึงทำให้ไม่ได้รับการตรวจสมุดคำตอบ เช่น | |||||||
ผู้เข้ารับการทดสอบทำข้อสอบอัตนัยโดยไม่ใช้ปากกาหมึกสีตามที่กำหนดไว้ในข้อปฏิบัติฯ หรือใช้ดินสอ | |||||||
ผู้เข้ารับการทดสอบเขียนชื่อ นามสกุล เลขประจำตัวสอบและเลขประจำตัวประชาชนในสมุดคำตอบ | |||||||
ลอกโจทย์มาโดยไม่มีคำตอบ | |||||||
ไม่เข้าใจคำถาม ตอบไม่ตรงประเด็นหรือไม่ตรงคำถาม ตอบคำถามแบบกำกวม ไม่ชัดเจน ตอบไม่ครบทุกประเด็นหรือตอบคำถามไม่แยกประเด็น ตอบแบบรวม ๆ เช่น | |||||||
โจทย์ถามเรื่องแนวการสอบบัญชี หรือวิธีการตรวจ แต่ไปตอบเรื่องการจัดทำกระดาษทำการ | |||||||
โจทย์ถามเรื่องภาษีมูลค่าเพิ่ม แต่ไปตอบเรื่องภาษีเงินได้นิติบุคคล ภาษีธุรกิจเฉพาะ เป็นต้น | |||||||
ตอบคำถามวกไปวนมาไม่ระบุว่าตรวจเอกสารหรือหลักฐานอะไรแน่ | |||||||
ตอบคำถามวกไปวนมา ไม่เข้าใจว่ากรณีไหนเป็นความผิดทางแพ่งและกรณีไหนเป็นความผิดทางอาญา | |||||||
ตอบคำถามไม่ได้เนื่องจากไม่มีความรู้ความเข้าใจ หรือไม่ได้ศึกษาเกี่ยวกับการตรวจสอบและรับรองบัญชี เช่น ประกาศอธิบดีกรมสรรพากรเกี่ยวกับการตรวจสอบและรับรองบัญชี คำสั่งกรมสรรพากรเกี่ยวกับการตรวจสอบและรับรองบัญชี คู่มือการปฏิบัติงานต่าง ๆ ของผู้สอบบัญชีภาษีอากร เป็นต้น | |||||||
ตอบคำถามในลักษณะที่ท่องจำมา ไม่ว่าคำถามจะถามมาอย่างไรก็จะพยายามเขียนตอบตามที่ตนเองท่องจำมา | |||||||
เตรียมตัวสอบมาโดยการเก็งหรือติวข้อสอบมาสอบ เมื่อเข้ารับการทดสอบปรากฏว่า ข้อสอบไม่ตรงกับที่เก็งหรือติวมา ก็จะทำข้อสอบไม่ได้และจะตอบคำถามตามที่เก็งหรือติวมาเท่านั้น แต่ไม่ตรงกับประเด็นที่โจทย์ข้อสอบถาม | |||||||
ข้อผิดพลาดที่พบในแต่ละวิชา เช่น | |||||||
วิชาการบัญชี | |||||||
บันทึกบัญชีไม่ถูกต้องตามหลักการบัญชีที่รับรองทั่วไป เช่น | |||||||
ไม่เข้าใจหรือขาดทักษะในการบันทึกรายการบัญชี 5 หมวด ได้แก่ สินทรัพย์ หนี้สิน ทุน รายได้ ค่าใช้จ่าย | |||||||
ไม่สามารถแยกรายการที่โจทย์ให้มาว่ารายการใดเป็นสินทรัพย์ หนี้สิน ค่าใช้จ่าย ตั๋วเงินรับ ตั๋วเงินจ่าย ลูกหนี้ เจ้าหนี้ เป็นต้น | |||||||
โจทย์ให้บันทึกบัญชีการขายเป็นเงินสด ผู้เข้ารับการทดสอบบันทึกบัญชี | |||||||
เดบิต | ขาย | ||||||
เครดิต | เงินสด | หรือ | |||||
เครดิต | ขาย | ||||||
เดบิต | เงินสด | ||||||
โจทย์มีบัญชีค่าเช่าจ่ายล่วงหน้า ค่าเช่าให้ปรับปรุงออก ผู้เข้ารับการทดสอบบันทึกบัญชีเป็น | |||||||
เดบิต | ค่าเช่าจ่าย | ||||||
เครดิต | ค่าใข้จ่ายจ่ายล่วงหน้า | ||||||
ซึ่งที่ถูกต้องต้องบันทึกบัญชีเป็น | |||||||
เดบิต | ค่าเช่า | ||||||
เครดิต | ค่าเช่าจ่ายล่วงหน้า | ||||||
การตอบข้อสอบเรื่องการบันทึกบัญชี ผู้เข้ารับการทดสอบควรตอบแบบ Single Entry ไม่ควรตอบแบบ Compound Entryเพราะการตอบข้อสอบแบบ Compound Entry ต้องมีการแยกรายละเอียดออกมาเพื่อพิจารณาว่าผู้เข้ารับการทดสอบเข้าใจคำตอบที่ตอบมาหรือไม่ | |||||||
ขาดทักษะหรือความรู้ความเข้าใจในการจัดทำบัญชีต้นทุนหรือปรับปรุงรายการบัญชี | |||||||
คำนวณหาต้นทุนการผลิตไม่ได้ เช่น ให้คำนวณเรื่อง Job Costing แต่ผู้เข้ารับการทดสอบตอบเรื่อง Processing Costing หรือคำนวณต้นทุนการผลิตแต่นำค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารมาคำนวณ | |||||||
ให้คำนวณต้นทุนขาย สินค้าคงเหลือ การรับคืนสินค้าและการส่งคืนสินค้า ผู้เข้ารับการทดสอบไม่มีความรู้หรือความเข้าใจว่าจะรายการใดไปลบหรือบวกกับรายการใด เพื่อคำนวณต้นทุนต่อหน่วย เช่น ส่วนลดรับ ค่าขนส่งขาเข้า เป็นต้น | |||||||
คำนวณหากำไรขาดทุนไม่ได้หรือไม่ถูกต้อง คำนวณหาต้นทุนขายไม่ได้ เนื่องจากไม่สามารถแยกได้ว่ารายการใดที่เป็นสินทรัพย์และรายการใดที่เป็นค่าใช้จ่าย หรือกรณีให้จัดทำงบต้นทุนการผลิต ผู้เข้ารับการทดสอบจะทำไม่ได้ เพราะไม่มีความรู้ความเข้าใจในการคำนวณหาต้นทุนการผลิต หรือแยกรายการที่โจทย์ให้มาว่ารายการใดจะนำมาคำนวณต้นทุนการผลิตไม่ได้ และนำรายการค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ในการผลิตมาคำนวณต้นทุนขาย | |||||||
ให้จัดทำงบกำไรขาดทุน ผู้เข้ารับการทดสอบจะลอกข้อมูลทุกรายการจากโจทย์มาจัดทำเป็นงบกำไรขาดทุน | |||||||
ไม่เขียนรายละเอียดที่มาของตัวเลขในการคำนวณต่าง ๆ ทำให้ไม่ได้คะแนน | |||||||
วิชาการสอบบัญชี | |||||||
ผู้เข้ารับการทดสอบขาดความรู้ความเข้าใจหรือประสบการณ์ในการปฏิบัติงานและการจัดทำรายงานการตรวจสอบและรับรองบัญชีของผู้สอบบัญชีภาษีอากร เช่น | |||||||
ให้เขียนรายงานการตรวจสอบและรับรองบัญชีของผู้สอบบัญชีภาษีอากร ผู้เข้ารับการทดสอบตอบไม่ได้หรือไม่ถูกต้อง มักใช้การเล่าเหตุการณ์มากกว่า โดยไม่เข้าใจว่าผิดมาตรฐานข้อใด อย่างไรและต้องเขียนข้อยกเว้นอย่างไรเข้าใจ | |||||||
ให้จัดทำแนวการสอบบัญชีหรือวิธีการตรวจของแต่ละบัญชีที่โจทย์ถาม เช่น หนี้สิน เครื่องจักร ฯลฯ โดยคำถามระบุให้เขียนวิธีการตรวจสอบและวัตถุประสงค์ของการตรวจสอบ ผู้เข้ารับการทดสอบไม่เขียนวัตถุประสงค์การตรวจสอบในแต่ละประเด็นและการตอบคำถามเกี่ยวกับวิธีการตรวจสอบนั้น อธิบายเทคนิคหรือวิธีการตรวจสอบไม่ถูกต้องหรือไม่ครบถ้วน หรือให้เขียนแนวการสอบบัญชีเครื่องจักร แต่ผู้เข้ารับการทดสอบตอบแต่เรื่องการตรวจสอบที่ดิน อาคาร อุปกรณ์ หรือถามในเรื่องวิธีการตรวจสอบผู้เข้ารับการทดสอบจะตอบโดยให้นำไปเปรียบเทียบกับบัญชีแยกประเภท ซึ่งโดยปกติจะตรงกันอยู่แล้ว เพราะเป็นการดึงตัวเลขจากบัญชีแต่ไม่มีการตอบคำถามถึงวิธีการตรวจว่าจะต้องนำไปตรวจกับหลักฐานอะไร | |||||||
ให้จัดทำกระดาษทำการลูกหนี้ สินค้าคงเหลือ เครื่องจักร ค่าใช้จ่ายโฆษณา ฯลฯ ผู้เข้ารับการทดสอบไม่เข้าใจความหมายของกระดาษทำการ จัดทำกระดาษทำการ ไม่ถูกต้อง หรือจัดทำกระดาษทำการโดยไม่มีลำดับขั้นตอน วิธีการและตอบแบบเรียงความ | |||||||
ไม่มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับวัตถุประสงค์ของเครื่องหมายตรวจสอบ ประเภทและลักษณะของเครื่องหมายตรวจสอบในกระดาษทำการของผู้สอบบัญชีภาษีอากร | |||||||
ผู้เข้ารับการทดสอบตอบไม่ตรงคำถาม ไม่ตรงประเด็นหรือไม่ครบทุกประเด็น เช่น | |||||||
เนื้อหาสำคัญที่ควรมีในกระดาษทำการ ผู้เข้ารับการทดสอบจะตอบแต่ความครบถ้วน ถูกต้อง มีกรรมสิทธิ์แต่ไม่ตอบในเรื่องของสิ่งที่ต้องมี | |||||||
โจทย์ถาม 5 ประเด็น แต่ผู้เข้ารับการทดสอบตอบมาประเด็นเดียว | |||||||
ให้คำนวณต้นทุนเป็นเดือน ผู้เข้ารับการทดสอบคำนวณเป็นรายวันจึงเป็นการตอบในเรื่องที่โจทย์ไม่ได้ถามหรือสั่งให้ทำ | |||||||
โจทย์ถามวิธีการตรวจลูกหนี้ชำระเงินโดยการโอนผ่านธนาคาร แต่ห้างยังไม่บันทึกบัญชี ผู้เข้ารับการทดสอบจะตอบว่าตรวจเอกสารใบสำคัญรับเงินของลูกหนี้ ตรวจภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือถามเรื่องวิธีการตรวจให้ตรวจนับเงินสด | |||||||
โจทย์ถามประโยชน์ของแนวการสอบบัญชี (Audit Program) มีอะไรบ้าง ผู้เข้ารับการทดสอบจะตอบแต่ความครบถ้วน ความสมบูรณ์ | |||||||
โจทย์เป็นกรณีศึกษา ผู้เข้ารับการทดสอบไม่เข้าใจปัญหาในแต่ละกรณีและจะตอบแบบรวมทุกกรณี ไม่แยกตอบเป็นประเด็นแต่ละกรณี | |||||||
วิชาความรู้เกี่ยวกับประมวลรัษฎากรและประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายไทย | |||||||
ตอบคำถามโดยไม่มีหลักกฎหมายและไม่เขียนหลักกฎหมาย | |||||||
วินิจฉัยปัญหาโดยลอกโจทย์มา ตอบโดยใช้จินตนาการ ความรู้สึก ไม่มีวินิจฉัยปัญหา ไม่มีสรุป | |||||||
ไม่เข้าใจในข้อกฎหมายหรือไม่แม่นในหลักกฎหมาย ถามอย่าง ตอบอย่าง ไม่สามารถวิเคราะห์ข้อเท็จจริงกับข้อกฎหมายมาผสมผสานแล้วสรุปเป็นคำตอบได้ | |||||||
ข้อสอบเรื่องกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ผู้เข้ารับการทดสอบต้องอ้างถึงกฎหมายแพ่งและพาณิชย์แต่ไปอ้างประมวลรัษฎากร | |||||||
ข้อสอบเรื่องกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ โจทย์ให้ชื่อมาให้ตอบแต่ผู้เข้ารับการทดสอบจะนำเอาชื่อมาตอบผิดสลับกันเป็นคนละคน | |||||||
ผู้เข้ารับการทดสอบตอบไม่ตรงคำถาม ไม่ตรงประเด็นที่ถาม ไม่เข้าใจคำถาม หรือตอบไม่ครบทุกประเด็น เช่น | |||||||
โจทย์ถามเกี่ยวกับเรื่องประมวลรัษฎากร แต่ผู้เข้ารับการทดสอบตอบเดบิต เครดิต หรือตอบแต่ในเรื่องเกี่ยวกับบัญชี แต่ไม่ตอบในเรื่องที่เกี่ยวกับภาษีที่โจทย์ถาม | |||||||
โจทย์ถามคำนิยามเรื่องเกี่ยวกับภาษี ผู้เข้ารับการทดสอบตอบไม่ได้ เนื่องจากไม่มีความรู้ ความเข้าใจ | |||||||
เขียนคำตอบวกไปวนมา ไม่เข้าใจว่ากรณีใดเป็นความผิดทางแพ่งและกรณีใดเป็นความผิดทางอาญา | |||||||
อ่านคำถามไม่ละเอียดทำให้ตอบคำถามไม่ครบทุกประเด็น โจทย์ให้ข้อเท็จจริงมาต้องวิเคราะห์ว่าข้อเท็จจริงที่ให้มานั้นมีภาระภาษีประเภทใดบ้าง ต้องตอบทุกประเภทภาษีแต่ผู้เข้ารับการทดสอบตอบเพียงประเภทภาษีเดียว | |||||||
ข้อสอบให้คำนวณ ผู้เข้ารับการทดสอบตอบผิดทั้งส่วนบนและส่วนล่างแต่คำตอบถูก หรือคำนวณผิดทั้งข้อแต่คำตอบถูก |