เมนูปิด

เลขที่หนังสือ : กค 0702/3544
วันที่ : 26 มิถุนายน 2566
เรื่อง : ภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย กรณีขออนุมัติเป็นตัวแทนหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย ออกหนังสือรับรองการหักภาษี ณ จ่าย และนำส่งภาษีเงินได้ หัก ณ ที่จ่าย แทนผู้จ่ายเงิน
ข้อกฎหมาย : มาตรา 50 ทวิ , มาตรา 52 , มาตรา 59, มาตรา 3 เตรส, คำสั่งกรมสรรพากรที่ ท.ป. 4/2528ฯ
ข้อหารือ : บริษัท A (บริษัทฯ) ประกอบธุรกิจขายสิทธิจำหน่ายอุปกรณ์และเครื่องใช้สำนักงานทุกชนิดให้นักลงทุน แต่เนื่องจากในการประกอบกิจการมีผู้ใช้บริการเป็นจำนวนมาก เพื่อให้บริษัทฯ ได้รับหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่ายครบถ้วนตามกำหนดเวลา และลดปัญหาผู้รับบริการไม่นำส่งภาษีหัก ณ ที่จ่ายต่อกรมสรรพากร บริษัทฯ จึงมีความประสงค์ขออนุมัติเป็นตัวแทนหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย ออกหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย และนำส่งภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่ายแทนผู้จ่ายเงินได้ ดังต่อไปนี้
  1. ค่าเช่า มาตรา 40 (5)
  2 ค่าบริการ ค่าโฆษณา ค่าส่งเสริมการขาย ค่าขนส่ง ฯลฯ มาตรา 40 (8)
  3. รายได้อื่น ๆ
แนววินิจฉัย : 1. กรณีบริษัทฯ ได้รับเงินค่าบริการ ค่าคอมมิชชั่น ค่าธรรมเนียม ค่าโฆษณา ค่าส่งเสริมการขาย หรือรายได้อื่น ๆ ซึ่งเป็นเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40 (5) และมาตรา 40 (8) แห่งประมวลรัษฎากร ผู้จ่ายเงินมีหน้าที่หักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย ตามข้อ 6 ข้อ 10 ข้อ 12/1 ข้อ 12/2 และข้อ 12/4 ของคำสั่งกรมสรรพากรที่ ท.ป. 4/2528 เรื่อง สั่งให้ผู้จ่ายเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40 แห่งประมวลรัษฎากร มีหน้าที่หักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย ลงวันที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2528 ผู้จ่ายเงินดังกล่าวมีหน้าที่ต้องออกหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่ายให้กับบริษัทฯ ผู้ถูกหักภาษี ณ ที่จ่ายในทันทีทุกครั้งที่มีการหักภาษี ณ ที่จ่าย ตามมาตรา 50 ทวิ (1) แห่งประมวลรัษฎากร และมีหน้าที่ต้องยื่นรายการและนำส่งภาษีที่ได้มีการหักไว้ ตามมาตรา 52 วรรคหนึ่ง มาตรา 59 และมาตรา 3 เตรส แห่งประมวลรัษฎากร
  2. กรณีบริษัทฯ มีความประสงค์จะเป็นตัวแทนของผู้จ่ายเงิน เพื่อออกหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย ยื่นรายการและนำส่งภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย แทนผู้จ่ายเงิน เข้าลักษณะเป็นการกระทำการแทนตัวการตามมาตรา 797 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ โดยผู้จ่ายเงินจะต้องจัดทำสัญญาการแต่งตั้งตัวแทนและมอบอำนาจให้บริษัทฯ กระทำการแทนเป็นลายลักษณ์อักษร โดยให้บริษัทฯ ซึ่งเป็นตัวแทนดำเนินการ ดังนี้
    2.1 กรณีบริษัทฯ มีหนังสือแจ้งไปยังผู้จ่ายเงินซึ่งมีหน้าที่ต้องหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่ายตาม 1. ซึ่งเป็นผู้จ่ายเงินรายเดิม โดยมีสาระสำคัญว่า “บริษัทฯ จะเป็นผู้ดำเนินการหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่ายสำหรับค่าบริการ ค่าคอมมิชชั่น ค่าธรรมเนียม ค่าโฆษณา ค่าส่งเสริมการขาย หรือรายได้อื่น ๆ ออกหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย และยื่นรายการภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย แทนผู้จ่ายเงิน” โดยกำหนดระยะเวลาให้ผู้จ่ายเงินนั้นตอบรับ เมื่อผู้จ่ายเงินตอบรับแล้ว ให้ถือว่าหนังสือแจ้งดังกล่าวเป็นข้อตกลงแต่งตั้งให้บริษัทฯ เป็นตัวแทนได้ แต่หากเป็นผู้จ่ายเงินซึ่งมีหน้าที่ต้องหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย รายใหม่ จะต้องมีการแต่งตั้งตัวแทนอย่างชัดเจน
    2.2 กรณีบริษัทฯ หักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่ายตาม 1. แทนผู้จ่ายเงินแล้ว ผ่อนผันให้ผู้จ่ายเงินไม่ต้องออกหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย ในทันทีทุกครั้งที่มีการหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย ตามมาตรา 50 ทวิ วรรคสาม แห่งประมวลรัษฎากร บริษัทฯ จึงไม่ต้องออกหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย เป็นรายฉบับทุกครั้งที่มีการจ่ายเงิน แต่บริษัทฯ ต้องจัดทำรายละเอียดรายการภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย เพื่อเป็นหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่ายด้วย และบริษัทฯ ยังคงมีหน้าที่ต้องหักภาษี ณ ที่จ่าย ทุกครั้งที่มีการจ่ายเงินได้พึงประเมินดังกล่าว
        รายละเอียดของรายการภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย ต้องมีรายการอย่างน้อย ดังต่อไปนี้
        (ก) คำว่า “รายละเอียดรายการภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย ประจำเดือน... พ.ศ. ....” ในที่ที่เห็นได้เด่นชัด
        (ข) ชื่อ ที่อยู่ และเลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากรของบริษัทฯ ซึ่งเป็นผู้ถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย โดยมีข้อความว่า “ในฐานะผู้กระทำการแทนผู้จ่ายเงินได้ตามรายชื่อที่ระบุในเอกสารนี้”
        (ค) ประเภทเงินได้
        (ง) ชื่อ และเลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากรผู้จ่ายเงิน จำนวนเงินที่จ่าย และจำนวนเงินภาษีที่หักไว้
        (จ) ลายมือชื่อผู้มีหน้าที่หักภาษี ณ ที่จ่าย
    2.3 เพื่อเป็นการรับรองว่า บริษัทฯ ได้ดำเนินการหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย แทนผู้จ่ายเงินแล้ว ให้บริษัทฯ ระบุข้อความเพิ่มเติมในใบเสร็จรับเงินหรือใบเสร็จรับเงิน/ใบกำกับภาษีของเงินค่าบริการค่าคอมมิชชั่น ค่าธรรมเนียม ค่าโฆษณา ค่าส่งเสริมการขาย หรือรายได้อื่น ๆ โดยมีข้อความว่า “บริษัทฯ ได้หักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่ายในอัตราร้อยละ 5.0 ร้อยละ 3.0 ร้อยละ 2.0 หรือร้อยละ 1.0 เป็นจำนวน...บาท แทนผู้จ่ายเงินแล้วและจะดำเนินการนำส่งภาษีดังกล่าวต่อกรมสรรพากรภายในวันที่ ๗ ของเดือนถัดไป” ซึ่งบริษัทฯ จะต้องจัดให้มีการ SCAN หรือพิมพ์ลายมือชื่อผู้รับมอบอำนาจไว้ในใบเสร็จรับเงินหรือใบเสร็จรับเงิน/ใบกำกับภาษี ดังกล่าวด้วย
    2.4 ให้บริษัทฯ ยื่นรายการภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย ตามแบบ ภ.ง.ด.53 โดยระบุในช่องผู้มีหน้าที่หักภาษี ณ ที่จ่ายว่า “บริษัทฯ ในฐานะผู้กระทำการแทนผู้จ่ายเงิน” ในใบแนบ ภ.ง.ด.๕๓ พร้อมทั้งแนบรายละเอียดรายการภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย ซึ่งระบุชื่อผู้จ่ายเงิน เลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากรของผู้จ่ายเงิน จำนวนเงินที่จ่าย และจำนวนภาษีเงินได้ที่หัก และให้ถือว่าเอกสารดังกล่าวเป็นใบต่อแบบ ภ.ง.ด.๕๓ ด้วย ซึ่งจะจัดทำเป็นภาษาไทยหรือภาษาอังกฤษก็ได้ และให้ถือว่าเป็นบัญชีพิเศษแสดงการหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่ายและนำส่งภาษีตามมาตรา 17 แห่งประมวลรัษฏากร และข้อ 7 ของประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีเงินได้และภาษีการค้า (ฉบับที่ 4) เรื่อง กำหนดให้ผู้มีหน้าที่หักภาษีเงินได้หรือภาษีการค้า ณ ที่จ่าย มีบัญชีพิเศษ ลงวันที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2531
    2.5 ให้บริษัทฯ ใช้สำเนาแบบ ภ.ง.ด.53 และหลักฐานใบเสร็จรับเงินของกรมสรรพากรที่รับชำระภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย เป็นหลักฐานในการเครดิตภาษี ตามมาตรา 60 แห่งประมวลรัษฎากร

 

ปรับปรุงล่าสุด: 04-07-2023