เมนูปิด

เลขที่หนังสือ :   กค 0702/891
วันที่ :   14 กุมภาพันธ์ 2567
เรื่อง :   ภาระภาษีตามประมวลรัษฎากรของกองทุน
ข้อกฎหมาย :   มาตรา 39 มาตรา 40 (2) มาตรา 50 (1) มาตรา 66 มาตรา 91/2 (5) และมาตรา 121 แห่งประมวลรัษฎากร
ข้อหารือ :   1. กองทุนฯ จัดตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติจัดตั้งฯ และมีฐานะเป็นนิติบุคคลตามพระราชบัญญัติจัดตั้งฯ กองทุนฯ ไม่ได้เป็นผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มหรือภาษีธุรกิจเฉพาะ
    2. กองทุนฯ มีอำนาจกระทำกิจการต่าง ๆ ภายในขอบแห่งวัตถุประสงค์ ตามพระราชบัญญัติจัดตั้งฯ โดยให้ผู้ดำเนินการโครงการกู้ยืมเงินไปแล้ว เป็นจำนวน 6 ราย ในอนาคต กองทุนฯ มีแผนที่จะนำที่ดินซึ่งเป็นทรัพย์สินของกองทุนฯ ไปหาผลประโยชน์ โดยอาจนำออกให้เช่าหรือขาย ซึ่งเป็นไปตามประกาศคณะกรรมการบริหารกองทุนฯ
    3. กองทุนฯ ขอหารือ ดังนี้
        3.1 รายได้จากการดำเนินกิจการต่าง ๆ ตาม 2. จะมีภาระภาษีตามประมวลรัษฎากรหรือไม่ อย่างไร
        3.2 กรณีกองทุนฯ จ่ายค่าเบี้ยประชุมให้แก่คณะกรรมการบริหารกองทุนฯ จะต้องหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย ตามมาตรา 50 แห่งประมวลรัษฎากร หรือไม่ อย่างไร
        3.3 กรณีกองทุนฯ ซึ่งมีสถานะเป็นหน่วยงานของรัฐ ได้ทำสัญญากู้ยืมเงินตาม 2 นั้น กองทุนฯ มีหน้าที่ต้องยื่นแบบขอเสียอากรแสตมป์เป็นตัวเงิน (อ.ส.4) หรือไม่ อย่างไร
แนววินิจฉัย :   1. กองทุนฯ เป็นนิติบุคคลตามพระราชบัญญัติจัดตั้งฯ ไม่เข้าลักษณะเป็น “บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล” ตามมาตรา 39 แห่งประมวลรัษฎากร จึงไม่มีหน้าที่ต้องเสียภาษีเงินได้นิติบุคคล ตามมาตรา 66 แห่งประมวลรัษฎากร
    2. กรณีกองทุนฯ ได้รับดอกเบี้ยจากการให้กู้ยืมเงิน เข้าลักษณะเป็นการประกอบกิจการโดยปกติเยี่ยงธนาคารพาณิชย์ตามมาตรา 91/2 (5) แห่งประมวลรัษฎากร จึงมีหน้าที่ต้องจดทะเบียนภาษีธุรกิจเฉพาะ และต้องนำรายรับที่ได้รับในแต่ละเดือนภาษีไปคำนวณเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ โดยยื่นแบบแสดงรายการภาษีธุรกิจเฉพาะเป็นรายเดือนภาษีไม่ว่าจะมีรายรับในเดือนภาษีหรือไม่ก็ตาม และสัญญากู้ยืมเงินเป็นตราสารที่ต้องเสียอากรแสตมป์ตามลักษณะแห่งตราสาร 5. แห่งบัญชีอัตราอากรแสตมป์ ส่วนกรณีที่กองทุนฯ มีแผนที่จะนำทรัพย์สินของกองทุนฯ ไปหาผลประโยชน์ นั้น เนื่องจากกรณีดังกล่าวเป็นการหารือปัญหาข้อกฎหมายจากข้อเท็จจริงที่ยังไม่เกิดขึ้น จึงไม่อาจพิจารณาตอบในประเด็นนี้ได้
    3. กรณีกองทุนฯ จ่ายค่าเบี้ยประชุมให้แก่คณะกรรมการบริหารกองทุนฯ นั้น ค่าเบี้ยประชุมดังกล่าวเข้าลักษณะเป็นเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40 (2) แห่งประมวลรัษฎากร กองทุนฯ ผู้จ่ายเงินได้มีหน้าที่ต้องหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย ไว้ทุกคราวที่จ่ายเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 50 (1) แห่งประมวลรัษฎากร
    4. สัญญากู้ยืมเงินเข้าลักษณะเป็นตราสารที่ต้องเสียอากรแสตมป์ตามลักษณะแห่งตราสาร 5. แห่งบัญชีอัตราอากรแสตมป์ หากกองทุนฯ ซึ่งเป็นผู้ให้กู้ มีการใช้ทุนหรือทุนหมุนเวียน เพื่อประกอบการพาณิชย์ การทำสัญญาให้กู้ยืมเงินดังกล่าวย่อมไม่ได้รับยกเว้นอากรแสตมป์ตามมาตรา 121 แห่งประมวลรัษฎากร

 

ปรับปรุงล่าสุด: 18-03-2024