เมนูปิด

ประกาศอธิบดีกรมสรรพากร
เกี่ยวกับภาษีธุรกิจเฉพาะ (ฉบับที่ 7)
เรื่องกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข ของกิจการซื้อและขายคืนหลักทรัพย์ และฐานภาษีสำหรับกิจการซื้อและขายคืนหลักทรัพย์
--------------------------------

      อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 3 และมาตรา 4 แห่งพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการกำหนดกิจการที่ต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ และกำหนดฐานภาษีสำหรับกิจการที่ต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะบางกรณี (ฉบับที่ 350) พ.ศ. 2542 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการกำหนดกิจการที่ต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะและกำหนดฐานภาษีสำหรับกิจการที่ต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะบางกรณี (ฉบับที่ 391) พ.ศ. 2544 อธิบดีกรมสรรพากรกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขกิจการซื้อและขายคืนหลักทรัพย์ที่ได้รับอนุญาตจากคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ตามกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ และกิจการที่กระทำขึ้นระหว่างธนาคารแห่งประเทศไทยและสถาบันการเงินหรือนิติบุคคลอื่น หรือระหว่างสถาบันการเงินและนิติบุคคลอื่น หรือระหว่างสถาบันการเงินหรือระหว่างนิติบุคคลอื่น ดังต่อไปนี้

      ข้อ   1   ให้ยกเลิกประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีธุรกิจเฉพาะ (ฉบับที่ 4) เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขของกิจการซื้อและขายคืนหลักทรัพย์และฐานภาษีสำหรับกิจการซื้อและขายคืนหลักทรัพย์ ลงวันที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2542

      ข้อ   2   การซื้อและขายคืนหลักทรัพย์ ต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์อนุญาตให้บริษัทหลักทรัพย์ประกอบกิจการซื้อหรือขายหลักทรัพย์โดยมีสัญญาขายหรือซื้อคืนหรือที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนดให้สถาบันการเงินที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลประกอบกิจการซื้อหรือขายหลักทรัพย์โดยมีสัญญาขายหรือซื้อคืน และต้องมีเงื่อนไขอย่างน้อยดังต่อไปนี้

      (1)   เป็นการซื้อและขายคืนหลักทรัพย์ระหว่างบุคคลดังต่อไปนี้

              (1.1)   คู่สัญญาที่เป็นได้ทั้งด้านผู้ขายหลักทรัพย์ (ผู้กู้) และผู้ซื้อหลักทรัพย์ (ผู้ให้กู้)

                         (ก)   ธนาคารแห่งประเทศไทย

                         (ข)   ธนาคารพาณิชย์ตามกฎหมายว่าด้วยการธนาคารพาณิชย์

                         (ค)   บริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ บริษัทเงินทุน และบริษัทหลักทรัพย์ เพื่อเป็นทรัพย์สินของตนเองหรือเพื่อการจัดการกองทุนส่วนบุคคล

                         (ง)   บริษัทเครดิตฟองซิเอร์

                         (จ)   บริษัทประกันชีวิต และบริษัทประกันภัย

                         (ฉ)   บริษัทมหาชนจำกัดนอกจากบริษัทตาม (ข) - (จ)

                         (ช)   นิติบุคคลที่มีกฎหมายเฉพาะจัดตั้งขึ้น

                         (ซ)   บรรษัทบริหารสินทรัพย์สถาบันการเงินตามกฎหมายว่าด้วยบรรษัทบริหารสินทรัพย์สถาบันการเงิน

                         (ฌ)   บริษัทบริหารสินทรัพย์ตามกฎหมายว่าด้วยบริษัทบริหารสินทรัพย์

                         (ญ)   กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน

                         (ฎ)   กองทุนต่าง ๆ ที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์

                         (ฏ)   กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการตามกฎหมายว่าด้วยกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ

                         (ฐ)   กองทุนประกันสังคมตามกฎหมายว่าด้วยกองทุนประกันสังคม

                         (ฑ)   นิติบุคคลเฉพาะกิจเพื่อการแปลงสินทรัพย์เป็นหลักทรัพย์ตามกฎหมายว่าด้วยการแปลงสินทรัพย์เป็นหลักทรัพย์

                         (ฒ)   ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจตามกฎหมายว่าด้วยวิธีการงบประมาณ

              (1.2)   คู่สัญญาที่เป็นผู้ขายหลักทรัพย์ (ผู้กู้) ได้อย่างเดียวเท่านั้นได้แก่ บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลนอกจาก (1.1)

      (2)   ต้องมีสัญญาขายหรือซื้อคืน (Repurchase Agreement) เป็นลายลักษณ์อักษรระหว่างผู้ขายและผู้ซื้อหลักทรัพย์ และเป็นสัญญาที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ยอมรับ

      (3)   ต้องมีข้อกำหนดให้ผู้ขายหลักทรัพย์สัญญาจะซื้อคืนหลักทรัพย์ประเภทเดียวกัน ในจำนวนที่เทียบเท่ากับที่ขายให้ผู้ซื้อหลักทรัพย์เมื่อครบกำหนดซื้อคืนตามสัญญา หรือวันที่คู่สัญญาทวงถามในราคาตามวิธีการคำนวณที่ตกลงกันไว้ล่วงหน้า โดยมีระยะเวลาตั้งแต่ วันที่ขายหลักทรัพย์จนถึงวันที่ซื้อคืนหลักทรัพย์ไม่เกินหนึ่งปีนับแต่วันที่ขายหลักทรัพย์ ทั้งนี้ หากมีการนำหลักทรัพย์ประเภทเดียวกับที่นำมาทำสัญญาขายหรือซื้อคืน มาเพิ่มหรือมีการส่งคืนหลักทรัพย์ดังกล่าวอันเนื่องมาจากมูลค่าหลักทรัพย์ดังกล่าวเพิ่มขึ้นหรือลดลงตามวิธีการที่กำหนดในสัญญา ให้ถือว่าหลักทรัพย์ที่นำมาเพิ่มหรือหลักทรัพย์ที่เหลืออยู่เป็นหลักทรัพย์ที่ผู้ขายหลักทรัพย์จะซื้อคืน ตามวรรคหนึ่งด้วย

      (4)   ในกรณีที่มีการใช้สิทธิเพิ่มทุน ลดทุน ที่ทำให้หลักทรัพย์นั้นมีจำนวนหรือมูลค่าเปลี่ยนไปหรือเปลี่ยนสภาพไป ผู้ขายหลักทรัพย์จะซื้อคืนหลักทรัพย์ที่เทียบเท่าจากผู้ซื้อหลักทรัพย์

      ข้อ   3   ในระหว่างที่มีการขายหลักทรัพย์ตามสัญญาขายหรือซื้อคืนและผู้ขายหลักทรัพย์ยังไม่ได้ซื้อคืนหลักทรัพย์ตามสัญญา หากผู้ออกหลักทรัพย์ที่มีการนำมาทำสัญญาขายหรือซื้อคืนมีการจ่ายผลประโยชน์ให้ผู้ถือหลักทรัพย์ เช่น เงินปันผล ดอกเบี้ย ที่เกิดจากการถือครองหลักทรัพย์ดังกล่าว ผู้ซื้อหลักทรัพย์ต้องจ่ายคืนผลประโยชน์ดังกล่าวให้แก่ผู้ขายหลักทรัพย์

      ข้อ   4   ฐานภาษีสำหรับกิจการซื้อและขายคืนหลักทรัพย์ ได้แก่ กำไรก่อนหักรายจ่ายใด ๆ แต่ไม่รวมถึงดอกเบี้ยเงินปันผลหรือผลประโยชน์ใด ๆ ที่ได้จากหลักทรัพย์ ซึ่งผู้ซื้อหลักทรัพย์ได้จ่ายคืนให้ผู้ขายหลักทรัพย์ ตามสัญญาขายหรือซื้อคืน (Repurchase Agreement)

      ข้อ   5   ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศเป็นต้นไป

ประกาศ ณ วันที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2545
ศุภรัตน์ ควัฒน์กุล
(นายศุภรัตน์ ควัฒน์กุล)
อธิบดีกรมสรรพากร

หน้าจอหลักบริการสารสรรพากร : : หน้าจอหลัก เม.ย.45: : หน้าต่อไป

 

 

ปรับปรุงล่าสุด: 22-08-2002