เพื่อให้การพิจารณาคืนเงินภาษีมูลค่าเพิ่มแก่ผู้ประกอบการส่งออกที่มีคุณสมบัติเป็น ผู้ส่งของออกระดับบัตรทองของกรมศุลกากรเป็นไปด้วยความสะดวกรวดเร็ว รอบคอบ และมีประสิทธิภาพ อันจะเป็นประโยชน์แก่การส่งออกของประเทศ กรมสรรพากรจึงกำหนดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการจัดระดับ ผู้ส่งของออกระดับบัตรทองของกรมศุลกากรเป็นผู้ประกอบการส่งออกที่ดีของกรมสรรพากร ดังนี้
ข้อ 1 คุณสมบัติของผู้ประกอบการส่งออกที่ขอรับการจัดระดับให้เป็นผู้ประกอบการ ส่งออกที่ดี
(1) เป็นผู้ส่งของออกระดับบัตรทองของกรมศุลกากร
(2) เป็นบริษัทจำกัด หรือ บริษัทมหาชนจำกัดที่เป็นผู้ประกอบการจดทะเบียนและเสียภาษีมูลค่าเพิ่มตามมาตรา 82/3 แห่งประมวลรัษฎากร
(3) ในรอบระยะเวลาบัญชีปีสุดท้ายก่อนขอรับการจัดระดับมียอดขายส่งออก ตั้งแต่ ร้อยละ 50 ขึ้นไปของ ยอดรายได้รวมและได้นำเงินตราต่างประเทศจากการนั้นเข้ามาในประเทศไทย
(4) มีกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์และมีทรัพย์สินสุทธิมากกว่าหนี้สินสุทธิ สำหรับรอบระยะ เวลาบัญชี ปีสุดท้ายก่อนขอรับการจัดระดับ
(5) มีประวัติการเสียภาษีที่ดี และไม่มีผลขาดทุนสุทธิติดต่อกัน 3 ปีล่าสุด
(6) เป็นสมาชิกของสมาคม หรือองค์กรภาคเอกชน (ในทางการค้า) เช่น สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ฯลฯ
นอกจากคุณสมบัติดังกล่าว ผู้ประกอบการส่งออกอาจมีคุณสมบัติเพิ่มเติมซึ่งเป็น องค์ประกอบในการพิจารณาเป็นผู้ประกอบการส่งออกที่ดี คือ
1. มีระบบการจัดการและระบบการควบคุมภายในที่ดี เช่น มีระบบการตรวจสอบภายใน การจัดทำประมาณการแผนการส่งออก มีงบการเงินเป็นรายเดือนหรือรายไตรมาส
2. ได้รับการรับรองระบบมาตรฐาน (ISO) แขนงต่างๆ จากสำนักมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม
3. ได้รับรางวัลหรือประกาศเกียรติคุณด้านต่างๆ ทั้งจากหน่วยงานของรัฐบาลและหรือภาคเอกชน
4. คุณสมบัติอื่นๆ ในทำนองเดียวกับที่กล่าวมาข้างต้น
ข้อ 2 เงื่อนไข
(1) ผู้ประกอบการส่งออกจะต้องขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่มโดยการนำเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารตามระเบียบที่ กรมสรรพากรกำหนด
(2) กรณีมีหลายสาขา ต้องได้รับอนุมัติให้ยื่นแบบแสดงรายการ และชำระภาษีมูลค่าเพิ่มรวมกัน
(3) ผู้สอบบัญชีรับอนุญาตที่รับรองงบการเงินต้องได้รับการแต่งตั้งจากมติที่ประชุมผู้ถือหุ้นในช่วงต้น ของรอบระยะ เวลาบัญชี และสามารถแจ้งชื่อผู้สอบบัญชีรับอนุญาตต่อเจ้าพนักงานได้ทันที
ข้อ 3 สิทธิประโยชน์
(1) ได้รับการคืนเงินภาษีมูลค่าเพิ่มภายใน 60 วันนับแต่วันที่ยื่นแบบแสดงรายการภาษี มูลค่าเพิ่ม ทั้งนี้สิทธิดังกล่าวมีกำหนดระยะเวลา 2 ปีนับแต่เดือนภาษีที่อธิบดีกรมสรรพากรอนุมัติ
ในกรณีที่มีหลักฐานหรือข้อมูลชัดแจ้งว่าผู้ส่งของออกระดับบัตรทองของกรมศุลกากรที่ได้รับการจัดระดับ เป็นผู้ประกอบการส่งออกที่ดีชำระภาษีมูลค่าเพิ่มไว้ไม่ถูกต้องและหน่วยปฏิบัติเห็นสมควรตรวจก่อนคืนก็ให้กระทำได้ ซึ่งจะต้องแจ้งเหตุที่ไม่สามารถคืนภาษีให้ได้ ภายในเวลาที่กำหนดให้ผู้ประกอบการส่งออกที่ดีทราบด้วย
(2) ได้รับบริการที่ดีและการอำนวยความสะดวกในการติดต่อราชการรวมทั้งได้รับเอกสารข้อกฎหมาย เกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่มและภาษีอื่นจากกรมสรรพากร
ข้อ 4 การยื่นคำขอรับการจัดระดับเป็นผู้ประกอบการส่งออกที่ดี
ให้ผู้ประกอบการส่งออกที่มีคุณสมบัติตามข้อ 1 และได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขข้อ 2 ซึ่งมีความประสงค์จะ ได้รับการจัดระดับเป็นผู้ประกอบการส่งออกที่ดี ยื่นคำขอตามแบบแนบท้าย คำสั่งนี้พร้อมเอกสารหลักฐาน ที่ต้องใช้ในการพิจารณาต่อฝ่ายภาษีหัก ณ ที่จ่ายและคืนภาษีของสำนักงานภาษีสรรพากรพื้นที่หรือฝ่ายกรรมวิธี ของสำนักงานสรรพากรจังหวัด หรือสำนักงานสรรพากรจังหวัด(สาขา) ซึ่งเป็นที่ตั้ของสถานประกอบการที่มีหน้าที่ยื่น แบบแสดงรายการภาษีมูลค่าเพิ่ม
สำหรับผู้ประกอบการส่งออกที่มีคุณสมบัติและเงื่อนไขดังกล่าวและอยู่ภายใต้ความรับผิดชอบของศูนย์บริหารภาษีธุรกิจ ขนาดใหญ่ซึ่งมีความประสงค์จะได้รับการจัดระดับเป็นผู้ประกอบการส่งออกที่ดี ให้ยื่นคำขอตามแบบแนบท้ายคำสั่งนี้ พร้อมเอกสาร ที่หลักฐานี่ต้องใช้ในการพิจารณาต่อส่วนวิเคราะห์และประเมินผลของศูนย์บริหารภาษีธุรกิจขนาดใหญ่
ก่อนสิทธิประโยชน์ที่มีกำหนดเวลา 2 ปีจะสิ้นสุดลงเป็นเวลา 2 เดือนถ้าผู้ประกอบการ ส่งออกที่ดีมีความประสงค์จะต่อ อายุจะต้องมีคุณสมบัติตามคำสั่งนี้ด้วย
ข้อ 5 แนวทางปฏิบัติของเจ้าหน้าที่เมื่อได้รับคำขอฯ
5.1 สำหรับผู้ประกอบการส่งออกที่ไม่ได้อยู่ในความรับผิดชอบของศูนย์บริหารภาษีธุรกิจขนาดใหญ่
(1) ให้ฝ่ายภาษีหัก ณ ที่จ่ายและคืนภาษีของสำนักงานภาษีสรรพากรพื้นที่ หรือฝ่ายกรรมวิธีของสำนักงานสรรพากรจังหวัด หรือสำนักงานสรรพากรจังหวัด(สาขา) ที่ได้รับคำขอฯดำเนินการตรวจคำขอฯ และเอกสารหลักฐานให้ครบถ้วน เพื่อประกอบการ พิจารณาคุณสมบัติที่กำหนด และดำเนินการพิจารณาให้แล้วเสร็จภายใน 5 วันทำการนับแต่วันที่ได้รับคำขอฯ พร้อมเอกสารหลักฐาน ครบถ้วนและรายงานผลการพิจารณาตามแบบแนบท้ายคำสั่งนี้ต่อผู้บังคับบัญชา
(2) ให้สรรพากรพื้นที่ หรือสรรพากรจังหวัด หรือสรรพากรจังหวัด(สาขา)พิจารณาให้ความเห็นเสนอสรรพากรภาค ให้แล้วเสร็จภายใน 3 วันทำการนับแต่วันที่ได้รับรายงาน
(3) ให้สรรพากรภาคพิจารณาให้ความเห็นต่อคณะกรรมการพิจารณาจัดระดับ ผู้ประกอบการส่งออกที่ดี โดยผ่านสำนักมาตร- ฐานกรรมวิธีภาษีให้แล้วเสร็จภายใน 3 วันทำการ นับแต่วันที่ได้รับเรื่อง
(4) ให้คณะกรรมการพิจารณาจัดระดับผู้ประกอบการส่งออกที่ดีดำเนินการประชุมพิจารณาสรุปความ เห็นเสนออธิบดีกรมสรรพากรเพื่อสั่งการ และให้สำนักมาตรฐานกรรมวิธีภาษีแจ้งผลให้สำนักงานสรรพากรภาคทราบ เพื่อแจ้งต่อสำนักงานภาษีสรรพากรพื้นที่หรือสำนักงานสรรพากรจังหวัด หรือสำนักงานสรรพากรจังหวัด(สาขา) ภายใน 3 วันทำการนับแต่วันที่หน่วยงานแต่ละแห่งได้รับแจ้งผล
(5) ให้สำนักงานภาษีสรรพากรพื้นที่ หรือสำนักงานสรรพากรจังหวัดหรือสำนักงานสรรพากรจังหวัด(สาขา) แจ้งผลการพิจารณาจัดระดับตามแบบแนบท้ายคำสั่งนี้ให้ผู้ประกอบการส่งออกทราบทันทีในวันทำการถัดไปนับจาก วันที่ได้รับแจ้งจากสำนักงานสรรพากรภาค พร้อมทั้งให้จัดทำทะเบียนคุมรายชื่อผู้ประกอบการส่งออกที่ได้รับการจัด ระดับให้เป็นผู้ประกอบการส่งออกที่ดีตามแบบแนบท้ายคำสั่งนี้
(6) ให้สำนักงานภาษีสรรพากรพื้นที่ หรือสำนักงานสรรพากรจังหวัดหรือสำนักงานสรรพากร จังหวัด(สาขา) จัดทำรายงานการคืนภาษีมูลค่าเพิ่มแก่ผู้ประกอบการส่งออกที่ดีให้กรมสรรพากรทราบเป็น รายเดือน โดยส่งถึงสำนักมาตรฐานกรรมวิธีภาษีภายในวันที่ 15 ของเดือนถัดไป พร้อมสำเนาให้สำนักงานสรรพากรภาคทราบ
5.1 สำหรับผู้ประกอบการส่งออกที่อยู่ในความรับผิดชอบของศูนย์บริหารภาษีธุรกิจขนาดใหญ่
(1) ให้ส่วนวิเคราะห์และประเมินผลดำเนินการตรวจคำขอฯและเอกสารหลักฐานให้ครบถ้วน เพื่อประกอบการพิจารณาคุณสมบัติที่กำหนดและดำเนินการพิจารณาให้แล้วเสร็จ ภายใน 5 วันทำการนับแต่วันที่ได้รับ คำขอฯ พร้อมเอกสารหลักฐานครบถ้วน และรายงานผลการพิจารณาตามแบบแนบท้ายคำสั่งนี้ต่อผู้อำนวยการศูนย์ บริหารภาษีธุรกิจขนาดใหญ่
(2) ให้ผู้อำนวยการศูนย์บริหารภาษีธุรกิจขนาดใหญ่เสนอความเห็นต่อคณะกรรมการพิจารณาจัดระดับ ผู้ประกอบการส่งออกที่ดีผ่านสำนักมาตรฐานกรรมวิธีภาษีภายใน 5 วันทำการนับแต่วันที่ได้รับรายงาน
(3) ให้คณะกรรมการพิจารณาจัดระดับผู้ประกอบการส่งออกที่ดีดำเนินการประชุมพิจารณาสรุปความเห็น เสนออธิบดีกรมสรรพากรเพื่อสั่งการและให้สำนักมาตรฐานกรรมวิธีภาษีแจ้งผลให้ศูนย์บริหารภาษีธุรกิจ ขนาดใหญ่ทราบภายใน 3 วันทำการ
(4) ให้ศูนย์บริหารภาษีธุรกิจขนาดใหญ่แจ้งผลการพิจารณาจัดระดับให้ ผู้ประกอบการส่งออกทราบภายใน 3 วันทำการนับแต่วันที่ได้รับแจ้งจากสำนักมาตรฐานกรรมวิธีภาษีพร้อมทั้งจัดทำทะเบียนคุมรายชื่อผู้ประกอบการ ส่งออกที่ได้รับการจัดระดับให้เป็นผู้ประกอบการส่งออกที่ดี
(5) ให้ศูนย์บริหารภาษีธุรกิจขนาดใหญ่จัดทำรายงานการคืนภาษีมูลค่าเพิ่มแก่ผู้ประกอบการ ส่งออกที่ดีให้กรมสรรพากรทราบเป็นรายเดือน โดยส่งถึงสำนักมาตรฐานกรรมวิธีภาษี ภายในวันที่ 15 ของเดือนถัดไป
ข้อ 6 การแจ้งการเปลี่ยนแปลง และแจ้งการสิ้นสุดสิทธิประโยชน์
(1) กรณีผู้ประกอบการส่งออกที่ได้รับการจัดระดับให้เป็นผู้ประกอบการส่งออกที่ดี ตาม คำสั่งนี้ยื่นแบบ ภ.พ. 09 ให้ศูนย์บริหารภาษีธุรกิจขนาดใหญ่ หรือสำนักงานภาษีสรรพากรพื้นที่ หรือสำนักงาน สรรพากรจังหวัด หรือสำนักงานสรรพากรจังหวัด(สาขา)ที่รับเรื่อง ส่งสำเนา ภ.พ.09 ดังกล่าวไปยังสำนักมาตรฐานกรรมวิธีภาษี เพื่อปรับฐานข้อมูลให้เป็นปัจจุบัน
(2) ก่อนเวลาที่สิทธิประโยชน์ ซึ่งมีกำหนด 2 ปีจะสิ้นสุดลงเป็นเวลา 2 เดือนให้ศูนย์บริหารภาษีธุรกิจ ขนาดใหญ่ หรือสำนักงานภาษีสรรพากรพื้นที่ หรือสำนักงานสรรพากรจังหวัดหรือสำนักงาน สรรพากรจังหวัด(สาขา) แจ้งให้ผู้ประกอบการส่งออกที่ดีที่อยู่ในความรับผิดชอบของหน่วยงานนั้นๆทราบ เพื่อให้ผู้ประกอบการ ส่งออกที่ประสงค์จะต่ออายุ ยื่นคำขอรับการจัดระดับเข้ามาใหม่ได้ทันที
ข้อ 7 การเพิกถอนการเป็นผู้ประกอบการส่งออกที่ดี
(1) กรณีพบว่าผู้ประกอบการส่งออกที่ได้รับการจัดระดับเป็นผู้ประกอบการส่งออกที่ดี มีพฤติการณ์หลีกเลี่ยง ภาษีอากร ให้ศูนย์บริหารภาษีธุรกิจขนาดใหญ่ หรือสำนักงานภาษีสรรพากรพื้นท่ หรือสำนักงานสรรพากรจังหวัด หรือสำนักงานสรรพากรจังหวัด(สาขา)ที่รับผิดชอบพิจารณาดำเนินการตรวจสอบผู้ประกอบการส่งออก ดังกล่าว และหากพบประเด็นความผิดชัดแจ้งให้รีบรายงานประเด็นความผิดให้กรมสรรพากรทราบ โดยผ่านคณะกรรมการ พิจารณาจัดระดับผู้ประกอบการส่งออกที่ดี เพื่อพิจารณาสรุปความเห็นเสนออธิบดีกรมสรรพากรสั่งเพิกถอน การเป็นผู้ประกอบการส่งออกที่ดีรายนั้นต่อไป
(2) ให้คณะกรรมการฯแจ้งผลการพิจารณาให้ศูนย์บริหารภาษีธุรกิจขนาดใหญ่หรือสำนักงานสรรพากร ภาคทราบโดยเร็วเพื่อแจ้งแก่สำนักงานภาษีสรรพากรพื้นที่ หรือสำนักงานสรรพากรจังหวัด หรือสำนักงานสรรพากร จังหวัด(สาขา) หากเป็นกรณีเพิกถอนให้หน่วยงานนั้นๆแจ้งผลการเพิกถอนการเป็นผู้ประกอบการส่งออกที่ดีให้ผู้ประกอบการส่งออกทราบภายใน 3 วันทำการนับแต่วันที่ได้รับแจ้ง
ข้อ 8 คำสั่งนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2544 เป็นต้นไป |