ประกาศอธิบดีกรมสรรพากร
  เกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ 185)
  เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการยกเว้นภาษีเงินได้ สำหรับ
  เงินได้พึงประเมินจากการขายพลอย ทับทิม มรกต บุษราคัม โกเมน โอปอล นิล เพทาย ไพฑูรย์ หยก 
  และอัญมณีที่มีลักษณะทำนองเดียวกัน เฉพาะที่ยังมิได้เจียระไน แต่ไม่รวมถึงสิ่งทำเทียมวัตถุดังกล่าว
  หรือที่ทำขึ้นใหม่ เพชร ไข่มุก และสิ่งทำเทียมเพชร หรือไข่มุก หรือที่ทำขึ้นใหม่
  -----------------------------------------------
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 3 แห่งพระราชกฤษฎีกา ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 494 ) พ.ศ. 2553 อธิบดีกรมสรรพากรกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการยกเว้นภาษีเงินได้ สำหรับเงินได้พึงประเมินที่ได้จากการขายพลอย ทับทิม มรกต บุษราคัม โกเมน โอปอล นิล เพทาย ไพฑูรย์ หยก และอัญมณีที่มีลักษณะทำนองเดียวกัน เฉพาะที่ยังมิได้เจียระไน แต่ไม่รวมถึงสิ่งทำเทียมวัตถุดังกล่าวหรือที่ทำขึ้นใหม่ เพชร ไข่มุก และสิ่งทำเทียมเพชร หรือไข่มุก หรือที่ทำขึ้นใหม่ ดังต่อไปนี้
                               ข้อ 1 เงินได้พึงประเมินจากการขายพลอย ทับทิม มรกต บุษราคัม โกเมน โอปอล นิล เพทาย ไพฑูรย์ หยก และอัญมณีที่มีลักษณะทำนองเดียวกัน เฉพาะที่ยังมิได้เจียระไน แต่ไม่รวมถึงสิ่งทำเทียมวัตถุดังกล่าวหรือที่ทำขึ้นใหม่ เพชร ไข่มุก และสิ่งทำเทียมเพชร หรือไข่มุก หรือที่ทำขึ้นใหม่ ที่จะได้รับยกเว้นไม่ต้องรวมคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข ดังนี้
                                        (1) ต้องเป็นผู้มีหน้าที่เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาซึ่งมิใช่ห้างหุ้นส่วนสามัญหรือคณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคล
                                        (2) ต้องเป็นเงินได้พึงประเมินจากการขายพลอย ทับทิม มรกต บุษราคัม โกเมน โอปอล นิล เพทาย ไพฑูรย์ หยก และอัญมณีที่มีลักษณะทำนองเดียวกัน เฉพาะที่ยังมิได้เจียระไน แต่ไม่รวมถึงสิ่งทำเทียมวัตถุดังกล่าวหรือที่ทำขึ้นใหม่ เพชร ไข่มุก และสิ่งทำเทียมเพชร หรือไข่มุก หรือที่ทำขึ้นใหม่ 
                                        (3) ต้องเป็นเงินได้พึงประเมินที่ได้ถูกหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย ไว้แล้วในอัตราร้อยละ  1.0  ของเงินได้พึงประเมินที่ได้รับ
                                        (4) ผู้มีเงินได้ต้องไม่เป็นผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มที่ใช้สิทธิยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มตามมาตรา 3  แห่งพระราชกฤษฎีกา ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 311)  พ.ศ. 2540 
ข้อ 2 การได้รับยกเว้นภาษีเงินได้ตามประกาศนี้ ผู้ได้รับยกเว้นภาษีต้องแสดงหลักฐานหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย และใบเสร็จรับเงินต่อเจ้าพนักงานประเมิน เพื่อแสดงว่า ได้ถูกหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่ายและนำส่งไว้แล้ว
ข้อ 3 กรณีผู้มีเงินได้ ปฏิบัติไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กำหนดไว้ตามข้อ 1 หรือข้อ 2 ผู้มีเงินได้ไม่ได้รับสิทธิยกเว้นภาษีเงินได้ สำหรับเงินได้พึงประเมินจากการขายพลอย ทับทิม มรกต บุษราคัม โกเมน โอปอล นิล เพทาย ไพฑูรย์ หยก และอัญมณีที่มีลักษณะทำนองเดียวกัน เฉพาะที่ยังมิได้เจียระไน แต่ไม่รวมถึงสิ่งทำเทียมวัตถุดังกล่าวหรือที่ทำขึ้นใหม่ เพชร ไข่มุก และสิ่งทำเทียมเพชร หรือไข่มุก หรือที่ทำขึ้นใหม่และผู้มีเงินได้ต้องนำเงินได้พึงประเมินจากการขายอัญมณีดังกล่าว ไปรวมเป็นเงินได้ในการคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาของปีภาษีที่ได้รับเงินได้พึงประเมินนั้น และต้องรับผิดเสียเงินเพิ่มตามมาตรา 27 แห่งประมวลรัษฎากร ในกรณีมิได้ยื่นรายการและเสียภาษีภายในเวลาที่กฎหมายกำหนด
ข้อ 4 ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ที่ลงในประกาศนี้เป็นต้นไป
ประกาศ ณ วันที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2553
วินัย  วิทวัสการเวช
  (นายวินัย วิทวัสการเวช)
  อธิบดีกรมสรรพากร