เมนูปิด

กฎ ก..

ฉบับที่ 17  (..2540)

ออกตามความในพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.. 2535

ว่าด้วยการร้องทุกข์และการพิจารณาเรื่องร้องทุกข์

ขอให้แก้ไขการปฏิบัติไม่ถูกต้องหรือการไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย

 

----------------------------------

 

                 อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 8 (5)   และมาตรา 130  แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน  พ.. 2535  ก.. จึงออกกฎ  ก.ซึ่งได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีไว้  ดังต่อไปนี้

                 ข้อ 1  กฎ  ก.. นี้ให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนดสามสิบวันนับแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา  เป็นต้นไป

         ข้อ 2  การร้องทุกข์และการพิจารณาเรื่องร้องทุกข์  ในกรณีที่ข้าราชการพลเรือนสามัญเห็นว่าผู้บังคับบัญชาใช้อำนาจหน้าที่ปฏิบัติต่อตนโดยไม่ถูกต้องหรือไม่ปฏิบัติต่อตนให้ถูกต้องตามกฎหมายให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำนหดในกฎ  ก.. นี้

                 ข้อ 3  เพื่อให้เกิดความเข้าใจและความสัมพันธ์อันดีระหว่างผู้บังคับบัญชากับผู้อยู่ใต้บังคับบัญชา  เมื่อมีกรณีเป็นปัญหาขึ้นระหว่างกันควรจะได้ปรึกษาหารือทำความเข้าใจกัน  ฉะนั้นเมื่อผู้อยู่ใต้บังคับบัญชามีปัญหาเกี่ยวกับการที่ผู้บังคับบัญชาใช้อำนาจหน้าที่ปฏิบัติต่อตนไม่ถูกต้องหรือไม่ปฏิบัติต่อตนให้ถูกต้องตามกฎหมาย  และแสดงความประสงค์ที่จะปรึกษาหารือกับผู้บังคับบัญชาให้ผู้บังคับบัญชานั้นให้โอกาสและรับฟังหรือสอบถามเกี่ยวกับปัญหาดังกล่าวเพื่อเป็นทางแห่งการทำความเข้าใจและแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นในชั้นต้น

                 ถ้าผู้อยู่ใต้บังคับบัญชาไม่ประสงค์ที่จะปรึกษาหารือ  หรือปรึกษาหารือแล้ว  ไม่ได้รับคำชี้แจงหรือได้รับคำชี้แจงไม่เป็นที่พอใจ  ก็ให้ร้องทุกข์ตามข้อ 4

                 ข้อ 4  การร้องทุกข์  ให้ร้องทุกข์ได้สำหรับตนเองเท่านั้น จะร้องทุกข์แทนผู้อื่นหรือมอบหมายให้ผู้อื่นร้องทุกข์แทนไม่ได้  และให้ร้องทุกข์เป็นหนังสือภายในสามสิบวันนับแต่วันทราบเรื่องอันเป็นเหตุให้ร้องทุกข์

                 ข้อ 5  หนังสือร้องทุกข์ต้องลงลายมือชื่อและตำแหน่งของผู้ร้องทุกข์  และต้องประกอบด้วยสาระสาระสำคัญที่แสดงข้อเท็จจริงและปัญหาของเรื่องให้เห็นว่าผู้บังคับบัญชาใช้อำนาจหน้าที่ปฏิบัติต่อตนโดยไม่ถูกต้องหรือไม่ปฏิบัติต่อตนให้ถูกต้องตามกฎหมายอย่างใด  และความประสงค์ของการร้องทุกข์

          ถ้าผู้ร้องทุกข์ประสงค์จะแถลงการณ์ด้วยวาจาในชั้นพิจารณาของ  อ...จังหวัด   อ...กรม   อ...กระทรวง  หรือ  ก.แล้วแต่กรณี  ให้แสดงความประสงค์ไว้ในหนังสือร้องทุกข์  หรือจะทำเป็นหนังสือต่างหากก็ได้แต่ต้องยืนหรือส่งก่อนที่  อ..หรือ  ก.แล้วแต่กรณี   เริ่มพิจารณาเรื่องร้องทุกข์   โดยยื่นหรือส่งตรงต่อ  อ..หรือ  ก..

                ข้อ  6  การร้องทุกข์ต่อ  อ...จังหวัด  อ...กรม   อ...กระทรวง  หรือ  ก.แล้วแต่กรณี  ให้ดำเนินการดังนี้

                             (1)  ในกรณีที่เหตุร้องทุกข์เกิดจากผู้บังคับบัญชาในราชการบริหารส่วนภูมิภาคที่ต่ำกว่าผู้ว่าราชการจังหวัด  ให้ร้องทุกข์ต่อ  อ...จังหวัด  และให้  อ...จังหวัด  เป็นผู้พิจารณา

                             (2ในกรณีที่เหตุร้องทุกข์เกิดจากผู้บังคับบัญชาในราชการบริหารส่วนกลางที่ต่ำกว่าอธิบดี  ให้ร้องทุกข์ต่อ  อ...กรม  และให้  อ...กรม  เป็นผู้พิจารณา

                             (3)   ในกรณีที่เหตุร้องทุกข์เกิดจากผู้ว่าราชการจังหวัด  หรืออธิบดี  ให้ร้องทุกข์ต่อ  อ...กระทรวง  และให้  อ...กระทรวง  เป็นผู้พิจารณา

              (4ในกรณีที่เหตุร้องทุกข์เกิดจากนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีเจ้าสังกัด หรือปลัดกระทรวง  หรือกรณีผู้บังคับบัญชาปฏิบัติหรือไม่ปฏิบัติต่อผู้ร้องทุกข์ตามมติของ อ...กระทรวง หรือกรณีที่เหตุร้องทุกข์เกิดจากการถูกสั่งพักราชการตามมาตรา 107  ให้ร้องทุกข์ต่อ  ก.และให้  ก.. เป็นผู้พิจารณา

                ข้อ 7  ผู้ร้องทุกข์มีสิทธิคัดค้านอนุกรรมการ  รองประธานอนุกรรมการ  หรือกรรมการผู้พิจารณาเรื่องร้องทุกข์  ถ้าผู้นั้นมีเหตุอย่างหนึ่งอย่างใด  ดังต่อไปนี้

                             (1)   เป็นผู้บังคับบัญชาผู้เป็นเหตุแห่งการร้องทุกข์

                             (2มีส่วนได้เสียในเรื่องที่ร้องทุกข์

                             (3มีสาเหตุโกรธเคืองผู้ร้องทุกข์

                             (4เป็นคู่สมรส  บุพการี  ผู้สืบสันดาน  หรือพี่น้องร่วมบิดามารดา  หรือร่วมบิดาหรือมารดากับผู้บังคับบัญชาผู้เป็นเหตุแห่งการร้องทุกข์

                 การคัดค้านอนุกรรมการ   รองประธานอนุกรรมการ   หรือกรรมการผู้พิจารณาเรื่องร้องทุกข์นั้นต้องแสดงข้อเท็จจริงที่เป็นเหตุแห่งการคัดค้านไว้ในหนังสือร้องทุกข์  หรือแจ้งเพิ่มเติมเป็นหนังสือก่อนที่  อ..หรือ  ก.แล้วแต่กรณี  เริ่มพิจารณาเรื่องร้องทุกข์

                 เมื่อมีเหตุหรือมีการคัดค้านตามวรรคหนึ่ง  อนุกรรมการ  รองประธานอนุกรรมการ  หรือกรรมการผู้นั้นจะขอถอนตัวไม่ร่วมพิจารณาเรื่องร้องทุกข์นั้นก็ได้  ถ้าอนุกรรมการ  รองประธานอนุกรรมการ  หรือกรรมการผู้นั้นมิได้ขอถอนตัวให้ประธานอนุกรรมการ  หรือประธานกรรมการ  แล้วแต่กรณี  พิจารณาข้อเท็จจริงที่คัดค้าน  หากเห็นว่าข้อเท็จจริงนั้นน่าเชื่อถือ  ให้แจ้งอนุกรรมการ  รองประธานอนุกรรมการ หรือกรรมการผู้นั้นทราบและมิให้ร่วมพิจารณาเรื่องร้องทุกข์นั้น  เว้นแต่ประธานอนุกรรมการหรือประธานกรรมการ  แล้วแต่กรณี   พิจารณาเห็นว่าการให้อนุกรรมการ  รองประธานอนุกรรมการ  หรือกรรมการผู้นั้นร่วมพิจารณาเรื่องร้องทุกข์ดังกล่าวจะเป็นประโยชน์ยิ่งกว่า เพราะจะทำให้ได้ความจริงและเป็นธรรม จะอนุญาตให้อนุกรรมการ   รองประธานอนุกรรมการ  หรือกรรมการผู้นั้นร่วมพิจารณาเรื่องร้องทุกข์นั้นก็ได้

                 ข้อ 8  เพื่อประโยชน์ในการนับระยะเวลาร้องทุกข์

                             (1)   ในกรณีที่เหตุร้องทุกข์เกิดจากการที่ผู้บังคับบัญชามีคำสั่งเป็นหนังสือต่อผู้ร้องทุกข์ให้ถือวันที่ผู้ถูกสั่งลงลายมือชื่อรับทราบคำสั่งเป็นวันทราบเรื่องอันเป็นเหตุให้ร้องทุกข์

                             ถ้าผู้ถูกสั่งไม่ยอมลงลายมือชื่อรับทราบคำสั่ง  และมีการแจ้งคำสั่งให้ผู้ถูกสั่งทราบกับมอบสำเนาคำสั่งให้ผู้ถูกสั่ง  แล้วทำบันทึกลงวันเดือนปี  เวลา  และสถานที่ที่แจ้ง  และลงลายมือชื่อผู้แจ้งพร้อมทั้งพยานรู้เห็นไว้เป็นหลักฐานแล้ว  ให้ถือวันที่แจ้งนั้นเป็นวันทราบเรื่องอันเป็นเหตุให้ร้องทุกข์

                             ถ้าไม่อาจแจ้งให้ผู้ถูกสั่งลงลายมือชื่อรับทราบคำสั่งได้โดยตรงและได้แจ้งเป็นหนังสือส่งสำเนาคำสั่งทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับไปให้ผู้ถูกสั่ง  ณ  ที่อยู่ของผู้ถูกสั่ง   ซึ่งปรากฏตามหลักฐานของทางราชการ  โดยส่งสำเนาคำสั่งไปให้สองฉบับเพื่อให้ผู้ถูกสั่งเก็บไว้หนึ่งฉบับ  และให้ผู้ถูกสั่งลงลายมือชื่อและวันเดือนปีที่รับทราบคำสั่งส่งกลับคืนมาเพื่อเก็บไว้เป็นหลักฐานหนึ่งฉบับ  ในกรณีเช่นนี้  เมื่อส่งพ้นสามสิบวันนับแต่วันที่ปรากฏในใบตอบรับทางไปรษณีย์ลงทะเบียนว่าผู้ถูกสั่งได้รับเอกสาตดังกล่าวหรือมี    ผู้รับแทนแล้ว แม้ยังไม่ได้รับสำเนาคำสั่งฉบับที่ให้ผู้ถูกสั่งลงลายมือช่อและวันเดือนปีที่รับทราบคำสั่งกลับคืนมา  ให้ถือว่าผู้ถูกสั่งได้รับทราบคำสั่งแล้ว

              (2ในกรณีที่ผู้บังคับบัญชาไม่มีคำสั่งเป็นหนังสือต่อผู้ร้องทุกข์โดยตรงให้ถือวันที่มีหลักฐานยืนยันว่าผู้ร้องทุกข์รับทราบหรือควรได้ทราบคำสั่งนั้นเป็นวันทราบเรื่องอันเป็นเหตุให้ร้องทุกข์

                             (3ในกรณีที่ผู้บังคับบัญชาใช้อำนาจหน้าที่ปฏิบัติโดยไม่ถูกต้อง  หรือไม่ปฏิบัติ  ให้ถูกต้องตามกฎหมายต่อผู้ร้องทุกข์โดยไม่ได้มีคำสั่งอย่างใด ให้ถือวันที่ผู้ร้องทุกข์ควรได้ทราบถึงการใช้อำนาจหน้าที่ของผู้บังคับบัญชาดังกล่าวเป็นวันทราบเรื่องอันเป็นเหตุให้ร้องทุกข์

                ข้อ 9  การ้องทุกข์ต่อ  อ...จังหวัด   อ...กรม  หรือ  อ...กระทรวง  ให้ทำหนังสือร้องทุกข์ถึงประธาน  อ..พร้อมกับสำเนารับรองถูกต้องหนึ่งฉบับ   โดยออกนามจังหวัด  กรม  หรือกระทรวง  แล้วแต่กรณี  และยื่นที่ศาลากลางจังหวัดหรือส่วนราชการนั้น

                 การร้องทุกข์ต่อ  ก.ให้ทำหนังสือร้องทุกข์ถึงประธาน  ก.หรือเลขาธิการ  ก.พร้อมกับสำเนารับรองถูกต้องหนึ่งฉบับ  และยื่นที่สำนักงาน  ก..

                 ผู้ร้องทุกข์จะยื่นหรือส่งหนังสือร้องทุกข์พร้อมกับสำเนารับรองถูกต้องหนึ่งฉบับผ่านผู้บังคับบัญชาหรือผู้บังคับบัญชาผู้เป็นเหตุแห่งการร้องทุกข์ก็ได้  และให้ผู้บังคับบัญชานั้นดำเนินการตามข้อ 11 วรรคสอง  หรือวรรคสาม  แล้วแต่กรณี

                 ในกรณีที่มีผู้นำหนังสือร้องทุกข์มายื่นเอง ให้ผู้รับหนังสืออกใบรับหนังสือประทับตรารับหนังสือและลงทะเบียนรับหนังสือไว้เป็นหลักฐานในวันที่รับหนังสือบตามระเบียบว่าด้วยงานสารบรรณ  และให้ถือวันที่รับหนังสือตามหลักฐานดังกล่าวเป็นวันยื่นหนังสือร้องทุกข์

         ในกรณีที่ส่งหนังสือร้องทุกข์ทางไปรษณีย์  ให้ถือวันที่ที่ทำการไปรษณีย์ต้นทางออกใบรับฝากเป็นหลักฐานฝากส่ง  หรือวันที่ที่ทำการไปรษณีย์ต้นทางประทับตราที่ซองหนังสือเป็นวันส่งหนังสือร้องทุกข์    

                 เมื่อได้ยื่นหรือส่งหนังสือร้องทุกข์ไว้แล้ว  ผู้ร้องทุกข์จะยื่นหรือส่งหนังสือร้องทุกข์หรือเอกสารหลักฐานเพิ่มเติมก่อนที่  อ...จังหวัด   อ...กรม    อ...กระทรวง   หรือ  ก.แล้วแต่กรณี  เริ่มพิจารณาเรื่องร้องทุกข์ก็ได้  โดยยื่นหรือส่งตรงต่อ  อ..หรือ  ก..

                 ข้อ 10  ในกรณีที่ผู้ร้องทุกข์ไม่ประสงค์จะให้มีการพิจารณษเรื่องร้องทุกข์ต่อไป  จะขอถอนเรื่องร้องทุกข์ก่อนที่  อ...จังหวัด   อ...กรม   อ...กระทรวง  หรือ  ก.แล้วแต่กรณี   พิจารณาเรื่องร้องทุกข์เสร็จสิ้นก็ได้   โดยทำเป็นหนังสือยื่นหรือส่งตรงต่อ  อ..หรือ  ก.พง  เมื่อได้ถอนเรื่องร้องทุกข์แล้ว  การพิจารณาเรื่องร้องทุกข์นั้นให้เป็นอันระงับ

                 ข้อ 11  เมื่อได้รับหนังสือร้องทุกข์ตามข้อ 9 วรรคหนึ่ง  หรือวรรคสอง  ให้ประธาน  อ...จังหวัด  ประธาน  อ...กรม   ประธาน  อ...กระทรวง  หรือสำนักงาน  ก.แล้วแต่กรณี  มีหนังสือแจ้งพร้อมทั้งสำเนาหนังสือร้องทุกข์ให้ผู้บังคับบัญชาผู้เป็นเหตุแห่งการร้องทุกข์ทราบโดยเร็ว  และให้ผู้บังคับบัญชาผู้เป็นเหตุแห่งการร้องทุกข์นั้นส่งเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องและคำชี้จแงของตน (ถ้ามี)  ไปเพื่อประกอบการพิจารณาภายในเจ็ดวันทำการนับแต่วันได้รับหนังสือ

                ในกรณีที่ผู้บังคับบัญชาได้รับหนังสือร้องทุกข์ที่ได้บยื่นหนังสือส่งตามข้อ 9 วรรคสาม  ให้ผู้บังคับบัญชานั้นส่งหนังสือร้องทุกข์พร้อมทั้งสำเนาต่อไปยังผู้บังคับบัญชาผู้เป็นเหตุแห่งการร้องทุกข์ภายในสามวันทำการนับแต่วันที่ได้รับหนังสือร้องทุกข์

                 เมื่อผู้บังคับบัญชาผู้เป็นเหตุแห่งการร้องทุกข์ได้รับหนังสือร้องทุกข์ที่ได้ยื่นหรือส่งตามวรรคสอง  หรือข้อ 9  วรรคสาม  ให้ผู้บังคับบัญชาผู้เป็นเหตุแห่งการร้องทุกข์นั้นจัดส่งหนังสือร้องทุกข์พร้อมทั้งสำเนาและเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องและคำชี้แจงของตน (ถ้ามีไปยังประธาน  อ... จังหวัด   ประธาน   อ...กรม   ประธาน  อ...กระทรวง   หรือสำนักงาน  ก.แล้วแต่กรณี  ภายในเจ็ดวันทำการนับแต่วันได้รับหนังสือร้องทุกข์

                 ข้อ 12  การพิจารณาเรื่องร้องทุกข์  ให้  อ...จังหวัด   อ...กรม  หรือ  อ...กระทรวง  แล้งแต่กรณี   พิจารณาจากเรื่องราวการปฏิบัติหรือไม่ปฏิบัติต่อผู้ร้องทุกข์ของผู้บังคับบัญชาผู้เป็นเหตุแห่งการร้องทุกข์  และในกรณีจำเป็นและสมควรอาจขอเอกสารและหลักฐานที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม  รวมทั้งคำชี้แจงจากหน่วยราชการ  รัฐวิสาหกิจ  หน่วยงานอื่นของรัฐ  ห้างหุ้นส่วน  บริษัท  หรือบุคคลใด ๆ  หรือขอให้             ผู้แทนหน่วยราชการ  รัฐวิสาหกิจ  หน่วยงานอื่นของรัฐ  ห้างหุ้นส่วน  บริษัท  ข้าราชการ  หรือบุคคลใด ๆ มาให้ถ้อยคำหรือชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อประกอบการพิจารณาได้

                 ในกรณีที่ผู้ร้องทุกข์ขอแถลงการณ์ด้วยวาจา  หาก  อ..พิจารณาเห็นว่าการแถลงการณ์ด้วยวาจาไม่จำเป็นแก่การพิจารณาวินิจฉัยเรื่องร้องทุกข์  จะให้งดการแถลงการณ์ด้วยวาจาเสียก็ได้

                 ในกรณีที่นัดให้ผู้ร้องทุกข์มาแถลงการณ์ด้วยวาจาต่อที่ประชุม   ให้แจ้งให้ผู้บังคับบัญชาผู้เป็นเหตุแห่งการร้องทุกข์ทราบด้วยว่า  ถ้าประสงค์จะแถลงแก้ก็ให้มาแถลงหรือมอบหมายเป็นหนังสือให้ข้าราชการที่เกี่ยวข้องเป็นผู้แทนมาแถลงแก้ด้วยวาจาต่อที่ประชุมครั้งนั้นได้  ทั้งนี้  ให้แจ้งล่วงหน้าตามควรแก่กรณี  และเพื่อประโยชน์ในการแถลงแก้ดังกล่าว  ให้ผู้บังคับบัญชาผู้เป็นเหตุแห่งการร้องทุกข์หรือผู้แทนเข้าฟังคำแถลงการณ์ด้วยวาจาของผู้ร้องทุกข์ได้

                 ข้อ 13  ให้  อ...จังหวัด  อ...กรม  หรือ  อ...กระทรวง  แล้วแต่กรณี  พิจารณาวินิจฉัยเรื่องร้องทุกข์ให้แล้วเสร็จภายในสามสิบวันนับแต่วันได้รับหนังสือร้องทุกข์และเอกสาหลักฐานตามข้อ 11   แต่ถ้ามีความจำเป็นไม่อาจพิจารณาให้แล้วเสร็จภายในเวลาดังกล่าว  ให้ขยายเวลาพิจารณาได้อีกไม่เกินสามสิบวัน  และให้บันทึกแสดงเหตุผลความจำเป็นที่ต้องขยายเวลาไว้ด้วย

                 ในกรณีที่ขยายเวลาตามวรรคหนึ่งแล้วการพิจารณายังไม่แล้วเสร็จ  ให้  อ...จังหวัด   อ...กรม  หรือ  อ...กระทรวง  แล้วแต่กรณี  ขยายเวลาพิจารณาได้อีกไม่เกินสามสิบวัน   แต่ทั้งนี้ให้พิจารณากำหนดมาตราที่จะทำให้การพิจารณาแล้วเสร็จโดยเร็วและบันทึกไว้เป็นหลักฐานในรายงานการประชุม   และให้ส่งสำเนารายงานการประชุม  อ...จังหวัด  หรือ  อ...กรม  แล้วแต่กรณีไปยัง  อ...กระทรวง   และส่งสำเนารายงานการประชุม  อ...กระทรวงไปยัง  ก.ภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ครบกำหนดขยายเวลาตามวรรคหนึ่ง  เพื่อที่  อ...กระทรวง  หรือ  ก.จะได้ติดตามแนะนำและชี้แจงให้การพิจารณาแล้วเสร็จโดยเร็ว

                 เมื่อ  อ...จังหวัด   อ...กรม  หรือ  อ...กระทรวง   พิจารณาวินิจฉัยเรื่องร้องทุกข์นั้นเสร็จแล้ว  ให้แจ้งผลการพิจารณาวินิจฉัยให้  อ...กระทรวง  หรือ  ก.แล้วแต่กรณี  ทราบด้วย

                ข้อ 14  เมื่อ  อ...จังหวัด   อ...กรม  หรือ  อ...กระทรวง  ได้พิจารณาวินิจฉัยเรื่องร้องทุกข์ตามข้อ 6 (1) (2หรือ (3แล้ว

                             (1)   ถ้าเห็นว่าการที่ผู้บังคับบัญชาใช้อำนาจหน้าที่ปฏิบัติหรือไม่ปฏิบัติต่อผู้ร้องทุกข์นั้นถูกต้องตามกฎหมายแล้ว  ให้มีมติยกคำร้องทุกข์

                             (2ถ้าเห็นว่าการที่ผู้บังคับบัญชาใช้อำนาจหน้าที่ปฏิบัติหรือไม่ปฏิบัติต่อผู้ร้องทุขก์นั้นไม่ถูกต้องตามกฎหมาย  ให้มีมติให้แก้ไขโดยเพิกถอนหรือยกเลิกการปฏิบัติที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมายนั้น  หรือให้ปฏิบัติต่อผู้ร้องทุกข์ให้ถูกต้องตามกฎหมาย

                             (3ถ้าเห็นว่าการที่ผู้บังคับบัญชาใช้อำนาจหน้าที่ปฏิบัติหรือไม่ปฏิบัติต่อผู้ร้องทุกข์นั้นถูกต้องตามกฎหมายแต่บางส่วน  และไม่ถูกต้องตามกฎหมายบางส่วน  ให้มีมติให้แก้ไขหรือให้ปฏิบัติให้ถูกต้องตามกฎหมาย

                             (4) ถ้าเห็นว่าสมควรดำเนินการโดยประการอื่นใดเพื่อให้มีความถูกต้องตามกฎหมายและมีความเป็นธรรม ให้มีมติให้ดำเนินการได้ตามควรแก่กรณี

                             การพิจารณามีมติตามวรรคหนึ่ง  ให้บันทึกเหตุผลของการพิจารณาวินิจฉัยไว้ในรายงานการประชุมด้วย

                 ข้อ 15  เมื่อ  อ...จังหวัด   อ...กรม  หรือ  อ...กระทรวง  ได้มติตามข้อ 14  แล้วให้ผู้ว่าราชการจังหวัด  อธิบดี  หรือรัฐมนตรีเจ้าสังกัด  แล้วแต่กรณี  สั่งหรือปฏิบัติให้เป็นไปตามมตินั้นในโอกาสแรกที่ทำได้  ในกรณีที่มีเหตุผลความจำเป็นจะให้มีการรับรองรายงานการประชุมเสียก่อนก็ได้และเมื่อได้สั่งหรือปฏิบัติตามมติดังกล่าวแล้ว  ให้แจ้งให้ผู้ร้องทุกข์ทราบเป็นหนังสือโดยเร็ว                 

         ข้อ 16  การพิจารณาเรื่องร้องทุกข์ในกรณีที่ร้องทุกข์ต่อ  ก.ตามข้อ 6 (4ให้นำข้อ 12          ข้อ 13  และข้อ  14  มาใช้บังคับโดยอนุโลม            

                 เมื่อ  ก.ได้พิจารณาวินิจฉัยเรื่องร้องทุกข์และมีมติเป็นประการใดแล้ว  ให้รายงานนายกรัฐมนตรีในฐานะหัวหน้ารัฐบาลเพื่อพิจารณาสั่งการตามที่เห็นสมควร

         เมื่อนายกรัฐมนตรีได้สั่งการเป็นประการใดแล้ว  ให้สำนักงาน  ก.แจ้งให้ผู้ร้องทุกข์ทราบเป็นหนังสือ  พร้อมทั้งแจ้งให้กระทรวง   ทบวง   กรมที่เกี่ยวข้องทราบ   หรือดำเนินการให้เป็นไปตามคำสั่งของนายกรัฐมนตรีโดยเร็ว

                 ข้อ 17  มติของ  อ...จังหวัด   อ...กรม  และ   อ...กระทรวง  ตามข้อ 14  และคำสั่งของนายกรัฐมนตรีตามข้อ 16  ให้เป็นที่สุด

                ข้อ 18  การนับระยะเวลาตามกฎ  ก.นี้  สำหรับเวลาเริ่มต้น  ให้นับวันถัดจากวันแรกแห่งเวลานั้นเป็นวันเริ่มนับระยะเวลา  ส่วนเวลาสุดสิ้น  ถ้าวันสุดท้ายแห่งระยะเวลาตรงกับวันหยุดราชการให้นับวันเริ่มเปิดทำการใหม่เป็นวันสุดท้ายแห่งระยะเวลา

                 ข้อ 19  ในกรณีที่ข้าราชการพลเรือนสามัญได้ยื่นหรือส่งหนังสือร้องทุกข์ต่อผู้บังคับบัญชาไว้แล้วก่อนวันที่กฎ  ก.. นี้ใช้บังคับ  และการพิจารณาวินิจฉัยเรื่องร้องทุกข์นั้นยังไม่แล้วเสร็จ  ให้ผู้บังคับบัญชาดังกล่าวพิจารณาวินิจฉัยเรื่องร้องทุกข์นั้นต่อไปตามกฎ ก.ฉบับที่ 9 (..2518ออกตามความในพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.. 2518  ว่าด้วยการร้องทุกข์และการพิจารณาเรื่องร้องทุกข์

 

 

ให้ไว้  ณ  วันที่  21  มีนาคม  พ.ศ. 2540

พลเอก ชวลิต   ยงใจยุทธ

นายกรัฐมนตรี

ประธาน  ก..

 

หมายเหตุ     เหตุผลในการประกาศใช้กฎ  ก.ฉบับนี้   คือ   โดยที่มาตรา 130  แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน  พ.. 2535  กำหนดว่า  การร้องทุกข์และการพิจารณาเรื่องร้องทุกข์ขอให้แก้ไขการปฏิบัติไม่ถูกต้องหรือการไม่ปปฏิบัติตามกฎหมาย  ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดในกฎ  ก.จึงจำเป็นต้องออกกฎ  ก.. นี้

1. นำส่งโดยหนังสือสำนักงาน  ก.พ.ที่ นร 0709.3/ว 13  วันที่  15  พฤษภาคม  2540

2ประกาศราชกิจจานุเบกษา  ฉบับกฤษฎีกา เล่ม 114 ตอนที่ 13 ก วันที่ 21  เมษายน  2540

 

ปรับปรุงล่าสุด: 26-05-2017