เมนูปิด

ข้อ 16

 

1.             เงินได้ที่บุคคลธรรมดาซึ่งเป็นผู้มีถิ่นที่อยู่ในรัฐผู้ทำสัญญารัฐหนึ่งได้รับในฐานะนักแสดงอาทิ นักแสดงละคร ภาพยนตร์ วิทยุหรือโทรทัศน์ และนักดนตรีหรือในฐานะนักกีฬาจากกิจกรรมส่วนบุคคลของตนที่กระทำในรัฐผู้ทำสัญญาอีกรัฐหนึ่ง อาจเก็บภาษีได้ในรัฐผู้ทำสัญญาอีกรัฐหนึ่งนั้น อย่างไรก็ดี เงินได้เช่นว่านั้นจะได้รับยกเว้นภาษีในรัฐผู้ทำสัญญาอีกรัฐหนึ่งนั้น ถ้ากิจกรรม เช่นว่านั้นได้กระทำขึ้นโดยบุคคลธรรมดาซึ่งเป็นผู้มีถิ่นที่อยู่ในรัฐผู้ทำสัญญาที่กล่าวถึงรัฐแรก ในการแสดงพิเศษเพื่อการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมซึ่งได้ตกลงกันระหว่างรัฐบาลของรัฐผู้ทำสัญญาทั้งสอง

 

2.             ในกรณีเงินได้ในส่วนที่เกี่ยวกับกิจกรรมส่วนบุคคลที่ได้กระทำในรัฐผู้ทำสัญญารัฐหนึ่งโดย นักแสดงหรือนักกีฬาตามความสามารถของตนนั้นมิได้เกิดขึ้นกับตัวนักแสดงหรือนักกีฬาเอง แต่เกิดขึ้นกับบุคคลอื่นซึ่งเป็นผู้มีถิ่นที่อยู่ในรัฐผู้ทำสัญญาอีกรัฐหนึ่ง เงินได้นั้นอาจเก็บภาษีได้ในรัฐผู้ทำสัญญาที่กล่าวถึงรัฐแรก โดยไม่คำนึงถึงบทบัญญัติของข้อ 7  อย่างไรก็ดี เงินได้เช่นว่านั้นจะได้รับยกเว้นภาษีในรัฐผู้ทำสัญญาที่กล่าวถึงรัฐแรก ถ้ากิจกรรมเช่นว่านั้นได้กระทำขึ้นในการแสดงพิเศษเพื่อการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมซึ่งได้ตกลงกันระหว่างรัฐบาลของรัฐผู้ทำสัญญาทั้งสอง

 

 

ข้อ 17

1.             (ก)          ค่าตอบแทนนอกเหนือจากเงินบำนาญที่จ่ายโดยรัฐผู้ทำสัญญารัฐหนึ่งหรือองค์กรบริหารส่วน

                              ท้องถิ่นของรัฐนั้นให้แก่บุคคลธรรมดาในส่วนที่เกี่ยวกับบริการที่ให้ในรัฐผู้ทำสัญญารัฐนั้นหรือ

                              องค์กรบริหารส่วนท้องถิ่นของรัฐนั้นในการปฏิบัติหน้าที่ที่มีลักษณะเป็นงานของรัฐบาล จะเก็บ

                              ภาษีได้เฉพาะในรัฐผู้ทำสัญญารัฐนั้น

 

                (ข)          อย่างไรก็ดี ค่าตอบแทนเช่นว่านั้นจะเก็บภาษีได้เฉพาะในรัฐผู้ทำสัญญาอีกรัฐหนึ่งถ้าบริการนั้นได้

                              ให้ในรัฐผู้ทำสัญญาอีกรัฐหนึ่งและบุคคลธรรมดานั้นเป็นผู้มีถิ่นที่อยู่ในรัฐผู้ทำสัญญาอีกรัฐหนึ่งผู้

                              ซึ่ง

 

                              (1)          เป็นคนชาติของรัฐผู้ทำสัญญาอีกรัฐหนึ่งนั้น หรือ

 

                              (2)          ไม่ได้เป็นผู้มีมีถิ่นที่อยู่ในรัฐผู้ทำสัญญาอีกรัฐหนึ่งนั้นเพียงเพื่อความมุ่งประสงค์ที่จะให้

                                             บริการนั้น

 

2.             (ก)          เงินบำนาญใดๆ ที่จ่ายโดยหรือจ่ายจากกองทุนที่ก่อตั้งขึ้นโดยรัฐผู้ทำสัญญารัฐหนึ่งหรือ

                              องค์กรบริหารส่วนท้องถิ่นของรัฐนั้นให้แก่บุคคลธรรมดาในส่วนที่เกี่ยวกับบริการที่ให้แก่รัฐผู้ทำ

                              สัญญารัฐนั้นหรือองค์กรบริหารส่วนท้องถิ่นของรัฐนั้นจะเก็บภาษีได้เฉพาะในรัฐผู้ทำสัญญารัฐนั้น

 

                (ข)          อย่างไรก็ดี เงินบำนาญเช่นว่านั้นจะเก็บภาษีได้เฉพาะในรัฐผู้ทำสัญญาอีกรัฐหนึ่ง ถ้าบุคคล

                              ธรรมดานั้นเป็นผู้มีถิ่นที่อยู่และเป็นคนชาติของรัฐผู้ทำสัญญาอีกรัฐหนึ่งนั้น

 

3.             บทบัญญัติของข้อนี้จะไม่ใช้บังคับแก่ค่าตอบแทนหรือเงินบำนาญในส่วนที่เกี่ยวกับบริการที่ให้ในส่วนที่เกี่ยวกับธุรกิจซึ่งประกอบกิจการโดยรัฐหนึ่งหรือองค์กรบริหารส่วนท้องถิ่นของรัฐนั้น

 

 

ข้อ 18

1.             บุคคลธรรมดาซึ่งเป็นผู้มีถิ่นที่อยู่ในรัฐผู้ทำสัญญารัฐหนึ่ง ในเวลาที่เริ่มเข้ามาอยู่ในรัฐผู้ทำสัญญาอีกรัฐหนึ่ง และซึ่งเข้ามาอยู่ในรัฐผู้ทำสัญญาอีกรัฐหนึ่งนั้นเพียงชั่วระยะเวลาไม่เกินสองปี ตามคำเชิญของรัฐบาลของรัฐผู้ทำสัญญาอีกรัฐหนึ่ง หรือตามคำเชิญของมหาวิทยาลัย วิทยาลัย โรงเรียน หรือ สถาบันการศึกษาอื่นอันเป็นที่รับรองแล้วในรัฐผู้ทำสัญญาอีกรัฐหนึ่งนั้นเพื่อความมุ่งประสงค์ที่จะทำการสอนหรือวิจัย ณ สถาบันการศึกษาดังกล่าวในรัฐผู้ทำสัญญาอีกรัฐหนึ่งนั้น จะได้รับยกเว้นภาษีของรัฐผู้ทำสัญญาอีกรัฐหนึ่งนั้นในส่วนที่เกี่ยวกับค่าตอบแทนในการทำการสอนหรือการวิจัยนั้น

 

2.             บทบัญญัติของวรรค 1 จะไม่ใช้บังคับแก่เงินได้จากการสอนหรือการค้นคว้าวิจัยถ้าการสอน หรือการค้นคว้าวิจัยดังกล่าวได้ดำเนินการโดยมีมูลฐานเพื่อผลประโยชน์เอกชนคนเดียวหรือหลายคนโดยเฉพาะ

 

 

ข้อ 19

                บุคคลธรรมดาซึ่งในทันทีทันใดก่อนหน้าที่จะไปเยือนรัฐผู้ทำสัญญารัฐหนึ่งเป็นผู้มีถิ่นที่อยู่ในรัฐผู้ทำสัญญาอีกรัฐหนึ่งและการไปเยือนรัฐผู้ทำสัญญาที่กล่าวถึงรัฐแรกนั้นเพียงเพื่อความมุ่งประสงค์ที่จะ

 

                (ก)          เข้าศึกษาในมหาวิทยาลัยหรือสถาบันการศึกษาอื่นอันเป็นที่ยอมรับ หรือ

 

                (ข)          เข้ารับการฝึกอบรมให้สามารถปฏิบัติงานด้านวิชาชีพหรือการค้าหรือ

 

                (ค)          เข้าศึกษาหรือทำการค้นคว้าวิจัยโดยเป็นผู้รับทุน เงินอุดหนุนหรือเงินรางวัลจากองค์การรัฐบาล

                              การศาสนา การกุศล วิทยาศาสตร์ วรรณคดี หรือการศึกษา จะได้รับยกเว้นภาษีในรัฐผู้ทำสัญญา

                              ที่กล่าวถึงรัฐแรกที่เก็บจาก

 

                              (1)           เงินที่ส่งจากต่างประเทศเพื่อความมุ่งประสงค์ในการครองชีพ การศึกษา การเล่าเรียน

                                             การค้นคว้าวิจัย หรือ การฝึกอบรมของผู้นั้นเอง

 

                              (2)          ทุน เงินอุดหนุน หรือเงินรางวัล และ

 

                              (3)          เงินได้จากบริการส่วนบุคคลที่กระทำในรัฐผู้ทำสัญญารัฐนั้น สำหรับชั่วระยะเวลาไม่เกิน

                                            5 ปี ถ้าเงินได้นั้นเป็นสิ่งจำเป็นแก่การครองชีพและการศึกษาของผู้นั้น

 

 

ข้อ 20

1.             ในกรณีใดๆ ก็ตามที่รายการเงินได้ของผู้มีถิ่นที่อยู่ในรัฐผู้ทำสัญญารัฐหนึ่งเกิดขึ้นโดยมิได้เกี่ยวข้องกับข้อก่อนๆ ของอนุสัญญานี้ จะเก็บภาษีได้เฉพาะในรัฐผู้ทำสัญญารัฐนั้น

 

2.             บทบัญญัติของวรรค 1 จะไม่ใช้บังคับแก่เงินได้นอกเหนือจากเงินได้จากอสังหาริมทรัพย์ซึ่งได้นิยามไว้ในวรรค 2 ของข้อ 6 ถ้าผู้รับเงินได้เช่นว่านั้นเป็นผู้มีถิ่นที่อยู่ในรัฐผู้ทำสัญญารัฐหนึ่งประกอบธุรกิจในรัฐผู้ทำสัญญาอีกรัฐหนึ่งโดยผ่านสถานประกอบการถาวรที่ตั้งอยู่ในรัฐนั้นและสิทธิหรือทรัพย์สินในส่วนที่เกี่ยวกับเงินได้ที่จ่ายนั้นเกี่ยวข้องในสถานประกอบการถาวรนั้นในกรณีเช่นว่านั้น จะใช้บทบัญญัติของข้อ 7 มาบังคับ

 

3.             แม้ว่าจะมีบทบัญญัติของวรรค 1 และวรรค 2 รายการเงินได้ของผู้มีถิ่นที่อยู่ในรัฐผู้ทำสัญญารัฐหนึ่งซึ่งมิได้เกี่ยวข้องกับข้อก่อนๆ ของอนุสัญญานี้และเกิดขึ้นในรัฐผู้ทำสัญญาอีกรัฐหนึ่ง อาจเก็บภาษีได้ในรัฐผู้ทำสัญญาอีกรัฐหนึ่ง

 

 

 

 

ปรับปรุงล่าสุด: 08-12-2011