เมนูปิด

ข้อ 21

นักศึกษาและผู้ฝึกงานธุรกิจ

 

1.             บุคคลธรรมดาซึ่งเป็นหรือเคยเป็นผู้มีถิ่นที่อยู่ในรัฐผู้ทำสัญญารัฐหนึ่งในทันทีก่อนที่จะเข้ามาอยู่ในรัฐผู้ทำสัญญาอีกรัฐหนึ่ง และอยู่เป็นการชั่วคราวในรัฐผู้ทำสัญญาอีกรัฐหนึ่งเพียงเฉพาะในฐานะนักศึกษาในมหาวิทยาลัย วิทยาลัย โรงเรียน หรือสถาบันทางวัฒนธรรมในอีกรัฐหนึ่งนั้น หรือในฐานะผู้ฝึกงานธุรกิจ จักได้รับยกเว้นภาษีในอีกรัฐหนึ่งนั้น สำหรับ

 

               ก)            เงินทั้งปวงที่ส่งจากต่างประเทศเพื่อความมุ่งประสงค์ในการครองชีพ การศึกษา หรือการฝึกอบรม และ

 

               ข)            ค่าตอบแทนใดๆ สำหรับบริการส่วนบุคคลที่ให้ในอีกรัฐหนึ่ง เพื่อเป็นการจุนเจือทางได้ของเขา เพื่อความมุ่งประสงค์เช่นว่านั้น

 

2.             บุคคลธรรมดาซึ่งเป็นหรือเคยเป็นผู้มีถิ่นที่อยู่ในรัฐผู้ทำสัญญารัฐหนึ่งในทันทีก่อนที่จะเข้าอยู่ในรัฐผู้ทำสัญญาอีกรัฐหนึ่ง และอยู่เป็นการชั่วคราวในอีกรัฐหนึ่งนั้น เป็นเวลาไม่เกินกว่าสองปีเพียงเฉพาะเพื่อความมุ่งประสงค์ในการศึกษา การค้นคว้า หรือการฝึกอบรม ในฐานะผู้รับทุน เงินอุดหนุน หรือเงินรางวัลจากองค์การวิทยาศาสตร์ การศึกษา วัฒนธรรม ศาสนาหรือองค์การการกุศล หรือภายใต้โครงการให้ความช่วยเหลือทางวิชาการซึ่งจัดโดยรัฐบาลของรัฐผู้ทำสัญญารัฐหนึ่ง จักได้รับยกเว้นภาษีในอีกรัฐหนึ่งนั้นสำหรับ

 

               ก)            จำนวนเงินทุน เงินอุดหนุน หรือเงินรางวัลเช่นว่านั้น และ

 

               ข)            เงินทั้งปวงที่ส่งจากต่างประเทศเพื่อความมุ่งประสงค์ในการครองชีพ การศึกษา หรือการฝึกอบรม และ

 

               ค)            ค่าตอบแทนใดๆ สำหรับการบริการส่วนบุคคลที่ให้ในอีกรัฐหนึ่งนั้น แต่มีเงื่อนไขว่าบริการเช่นว่านั้นต้องเกี่ยวข้องกับการศึกษา การค้นคว้าหรือฝึกอบรมของบุคคลนั้น หรือเกิดขึ้นจากการศึกษา การค้นคว้าหรือการฝึกอบรม

 

3.             บุคคลธรรมดาซึ่งเป็นหรือเคยเป็นผู้มีถิ่นที่อยู่ในรัฐผู้ทำสัญญารัฐหนึ่งในทันทีก่อนที่จะเข้ามาอยู่ในรัฐผู้ทำสัญญาอีกรัฐหนึ่งนั้น และอยู่เป็นการชั่วคราวอีกรัฐหนึ่งนั้นเป็นระยะเวลาไม่เกินกว่าสิบสองเดือน เพียงเฉพาะในฐานะเป็นลูกจ้างหรืออยู่ภายใต้สัญญาหรือการจัดการของรัฐบาล หรือวิสาหกิจของอีกรัฐหนึ่งนั้นเพื่อความมุ่งประสงค์ให้ได้มาซึ่งความชำนาญทางวิชาการ ทางวิชาชีพหรือทางธุรกิจ จักได้รับยกเว้นภาษีในอีกรัฐหนึ่งนั้นสำหรับ

 

               ก)            เงินทั้งปวงที่ส่งมาจากต่างประเทศเพื่อความมุ่งประสงค์ในการครองชีพหรือการศึกษาหรือการอบรม และ

 

               ข)            ค่าตอบแทนในจำนวนที่สมควร สำหรับการบริการส่วนบุคคลที่ให้ในอีกรัฐหนึ่งนั้นแต่มีเงื่อนไขว่า การบริการเช่นว่านั้นต้องเกี่ยวข้องกับการศึกษาหรือการฝึกอบรมของบุคคลนั้น หรือเกิดขึ้นจากการศึกษาหรือการฝึกอบรม

 

 

หมวด 4

วิธีขจัดการเก็บภาษีซ้อน

 

 

ข้อ 22

วิธีเครดิต

 

1.             เป็นที่ตกลงกันว่า จะหลีกเลี่ยงการเก็บภาษีซ้อนโดยดำเนินตามวิธีการดังต่อไปนี้

 

               (ก)          ในกรณีของผู้มีถิ่นที่อยู่ในประเทศไทย

 

               ในการกำหนดภาษีไทยในกรณีของผู้มีถิ่นที่อยู่ในประเทศของตน ประเทศไทย โดยไม่คำนึงถึงบทใดในอนุสัญญานี้ อาจรวมรายการทุกรายการของเงินได้เข้าในฐานเพื่อตั้งบังคับเก็บภาษีไทยนั้น อย่างไรก็ดีประเทศไทยจักหักภาษีที่คำนวณได้นั้นด้วยภาษีอิตาลีที่เก็บจากเงินปันผลและดอกเบี้ยในส่วนที่อัตราภาษีอิตาลีอยู่ภายในบังคับแห่งข้อจำกัดตามบทบัญญัติในข้อ 10 และ 11 จากรายการของเงินได้อื่นทั้งหมด ซึ่งตามบทบัญญัติแห่งอนุสัญญานี้อาจจะเก็บภาษีได้ในประเทศอิตาลี และจากเงินได้ทุกรายการซึ่งมิได้ระบุไว้ในอนุสัญญานี้ ซึ่งตามกฎหมายของไทยถือว่าเป็นเงินได้ที่เกิดขึ้นในประเทศอิตาลี อย่างไรก็ดี การหักให้นี้จักไม่เกินกว่าส่วนของภาษีไทยซึ่งรายการเงินได้สุทธินั้นต้องเสีย เมื่อเทียบสัดส่วนกับเงินได้สุทธิทั้งสิ้นที่พึงเสียภาษีไทย เพื่อความมุ่งประสงค์ในการกำหนดเงินได้สุทธิทั้งสิ้นเช่นว่านั้น ผลขาดทุนซึ่งเกิดขึ้นในประเทศอื่นใดจักไม่นำมาประกอบการพิจารณา

 

               (ข)          ในกรณีของผู้มีถิ่นที่อยู่ในประเทศอิตาลี

 

               หากผู้มีถิ่นที่อยู่ในประเทศอิตาลีเป็นเจ้าของรายการของเงินได้ซึ่งเก็บภาษีได้ในประเทศไทยในการกำหนดภาษีเงินได้ของประเทศอิตาลี ซึ่งระบุไว้ในข้อ 2 ของอนุสัญญานี้ ประเทศอิตาลีอาจรวมรายการเงินได้ดังกล่าวเข้าในฐานเพื่อตั้งบังคับภาษีเว้นไว้แต่ว่าบทบัญญัติแห่งอนุสัญญานี้ได้ระบุได้เป็นอย่างอื่นโดยชัดแจ้ง

 

               ในกรณีนั้นประเทศอิตาลีจักหักภาษีที่จ่ายในประเทศไทยออกจากภาษีซึ่งได้คำนวณโดยวิธีดังกล่าวแล้ว แต่จำนวนที่หักจะต้องไม่เกินสัดส่วนของภาษีอิตาลี ซึ่งรายการเงินได้นั้นต้องเสียเมื่อเทียบส่วนกับเงินได้ทั้งสิ้น

 

               อย่างไรก็ดีจักไม่มีการหัก ถ้ารายการเงินได้นั้นได้เสียภาษีในอิตาลีโดยวิธีหัก ณ ที่จ่าย เบ็ดเสร็จตามคำขอของผู้เสียภาษีภายใต้กฎหมายของอิตาลี

 

 

หมวด 5

บทบัญญัติพิเศษ

 

 

ข้อ 23

การไม่เลือกประติบัติ

 

1.             คนชาติของรัฐผู้ทำสัญญารัฐหนึ่งจักไม่ถูกบังคับในรัฐผู้ทำสัญญาอีกรัฐหนึ่ง ให้เสียภาษีอากรใดๆ หรือให้ปฏิบัติตามข้อกำหนดกฎเกณฑ์ใดๆ เกี่ยวกับการนั้นอันเป็นการนอกเหนือไปจาก หรือเป็นภาระหนักกว่าการเก็บภาษีอากร และข้อกำหนดกฎเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งคนชาติของอีกรัฐหนึ่งนั้นถูกหรืออาจถูกบังคับให้เสียหรือให้ปฏิบัติตามในพฤติการณ์เดียวกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คนชาติของรัฐผู้ทำสัญญารัฐหนึ่งซึ่งต้องเสียภาษีในรัฐผู้ทำสัญญาอีกรัฐหนึ่ง ถ้าเป็นผู้มีถิ่นที่อยู่ในรัฐผู้ทำสัญญาอีกรัฐหนึ่งนั้น จักได้รับค่าลดหย่อน การผ่อนผันหรือการหักลดส่วนบุคคลสำหรับการเก็บภาษีอากร ตามสถานภาพของบุคคล ซึ่งรัฐผู้ทำสัญญาอีกรัฐหนึ่งนั้นให้กับผู้มีถิ่นที่อยู่ในรัฐของตน

 

2.             คำว่า "คนชาติ" หมายความว่า

 

               (ก)          บุคคลธรรมดาทั้งปวงที่มีสัญชาติของรัฐผู้ทำสัญญารัฐหนึ่ง

 

               (ข)          นิติบุคคล ห้างหุ้นส่วน และสมาคมทั้งปวง ที่ได้สถานภาพดังกล่าวตามกฎหมายที่ใช้บังคับอยู่ในรัฐผู้ทำสัญญารัฐหนึ่ง

 

3.             ภาษีอากรเก็บจากสถานประกอบการถาวร ซึ่งวิสาหกิจของรัฐผู้ทำสัญญารัฐหนึ่งมีอยู่ในรัฐผู้ทำสัญญาอีกรัฐหนึ่ง จักไม่เรียกเก็บในอีกรัฐหนึ่งนั้น ที่อนุเคราะห์น้อยกว่าภาษีอากรที่เรียกเก็บจากวิสาหกิจของอีกรัฐหนึ่งนั้น ที่ประกอบกิจกรรมอย่างเดียวกัน

 

4.             วิสาหกิจของรัฐผู้ทำสัญญารัฐหนึ่ง ซึ่งผู้มีถิ่นที่อยู่ในรัฐผู้ทำสัญญาอีกรัฐหนึ่งคนเดียวหรือหลายคนเป็นเจ้าของหรือควบคุมทุนอยู่ทั้งหมดหรือแต่บางส่วน ไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อมจักไม่ถูกบังคับในรัฐแรก ให้เสียภาษีอากรใดๆ หรือปฏิบัติตามข้อกำหนดกฎเกณฑ์ใดๆ เกี่ยวกับการนั้น อันเป็นการนอกเหนือไปจากหรือเป็นภาระหนักกว่าภาษีอากรและข้อกำหนดกฎเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งวิสาหกิจอื่นที่คล้ายคลึงกันของรัฐแรกนั้นถูกหรืออาจถูกบังคับให้เสียหรือให้ปฏิบัติตาม

 

5.             ในข้อนี้คำว่า "ภาษีอากร" หมายถึง ภาษีอากรทุกชนิดและทุกลักษณะ

 

 

ข้อ 24

วิธีการเพื่อความตกลงร่วมกัน

 

1.             ในกรณีที่ผู้มีถิ่นที่อยู่ในรัฐผู้ทำสัญญารัฐหนึ่งพิจารณาเห็นว่า การกระทำของรัฐผู้ทำสัญญารัฐหนึ่งรัฐใดหรือทั้งสองรัฐ มีผลหรือจะมีผลให้ตนต้องเสียภาษีอากรโดยไม่เป็นไปตามอนุสัญญานี้ ผู้นั้นอาจยื่นเรื่องราวของตนต่อเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจของรัฐผู้ทำสัญญาซึ่งตนมีถิ่นที่อยู่ แม้ว่าจะมีทางแก้ไขตามกฎหมายแห่งชาติของรัฐเหล่านั้นอยู่แล้วก็ตาม การร้องเรียนจะต้องยื่นภายในสองปีนับแต่วันที่ได้มีการประเมินภาษีหรือวันใดที่ได้หักภาษีไว้ ณ ที่จ่าย แล้วแต่วันใดจะเป็นหลัง

 

2.             ถ้าข้อคัดค้านนั้นปรากฏแก่เจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจ ว่ามีเหตุผลสมควรและถ้าตนไม่สามารถที่จะหาทางแก้ไขที่เหมาะสมได้เอง เจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจจักพยายามแก้ไขกรณีนั้น โดยความตกลงร่วมกันกับเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจของรัฐผู้ทำสัญญาอีกรัฐหนึ่ง เพื่อการเว้นการเก็บภาษีซ้อนอันไม่เป็นไปตามอนุสัญญานี้

 

3.             เจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจของรัฐผู้ทำสัญญาทั้งสองรัฐจักพยายามแก้ไขข้อยุ่งยากหรือข้อสงสัยใดๆ อันเกิดขึ้นเกี่ยวกับการตีความหรือการใช้บังคับโดยความตกลงร่วมกัน เจ้าหน้าที่ดังกล่าวยังอาจหารือกันเพื่อขจัดการเก็บภาษีซ้อนในบรรดากรณีที่มิได้บัญญัติในอนุสัญญานี้ด้วย

 

4.             เจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจของรัฐผู้ทำสัญญาทั้งสองรัฐ อาจติดต่อกันโดยตรงเพื่อให้มีความตกลงตามความหมายแห่งวรรคก่อนๆ

 

 

ข้อ 25

การแลกเปลี่ยนข้อสนเทศ

 

1.             เจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจของรัฐผู้ทำสัญญาทั้งสองรัฐจักแลกเปลี่ยนข้อสนเทศอันจำเป็นแก่การปฏิบัติตามอนุสัญญานี้ และตามกฎหมายภายในของรัฐผู้ทำสัญญาเกี่ยวกับภาษีอากรที่อยู่ในขอบข่ายของอนุสัญญานี้ เท่าที่ภาษีอากรตามกฎหมายดังกล่าวสอดคล้องกับอนุสัญญานี้ ข้อสนเทศใดๆ ที่ได้แลกเปลี่ยนกันจัดถือว่าเป็นความลับและจักไม่เปิดเผยแก่บุคคลหรือเจ้าหน้าที่ใดๆ นอกจากผู้เกี่ยวข้องกับการประเมินหรือการเก็บภาษีอากรซึ่งอยู่ในขอบข่ายของอนุสัญญานี้

 

2.             ไม่มีกรณีใดที่จักแปลความบทบัญญัติของวรรค 1 เป็นการตั้งข้อผูกพันบังคับของรัฐผู้ทำสัญญารัฐใดรัฐหนึ่งให้

 

               (ก)          ดำเนินมาตรการด้านบริหารโดยขัดกับกฎหมายหรือวิธีปฏิบัติด้านบริหารของรัฐผู้ทำสัญญารัฐนั้น หรือของรัฐผู้ทำสัญญาอีกรัฐหนึ่ง

 

               (ข)          ให้รายละเอียดอันมิอาจจัดหาได้ตามกฎหมายหรือตามทางการบริหารตามปกติของรัฐผู้ทำสัญญารัฐนั้น หรือของรัฐผู้ทำสัญญาอีกรัฐหนึ่ง

 

               (ค)          ให้ข้อสนเทศซึ่งจะเปิดเผยความลับทางการค้า ธุรกิจ อุตสาหกรรม การพาณิชย์ หรือวิชาชีพ หรือกรรมวิธีการค้า หรือข้อสนเทศซึ่งหากเปิดเผยจะเป็นการขัดกับความสงบเรียบร้อยของสาธารณชน

 

ปรับปรุงล่าสุด: 08-12-2011