เมนูปิด

คำพิพากษาฎีกาที่1809/2540 
ห้างหุ้นส่วนจำกัด ปัญจทรัพย์พานิช หรือโชคชัยปัญจทรัพย์ (มหาชน)โจทก์

กรมสรรพากร กับพวก

จำเลย
กฎหมายที่เกี่ยวข้อง ประมวลรัษฎากร มาตรา 30(2), 65 ตรี(3) (4) (6) (9) (13) (18), 87 ตรี,

ประเภทการค้า 11 (ค้าอสังหาริมทรัพย์)

โจทก์ประกอบธุรกิจค้าอสังหาริมทรัพย์ จัดสรรที่ดิน โดยขายที่ดินและที่ดินพร้อมบ้านให้แก่บุคคลทั่วไป ขายทั้งเงินสดและเงินผ่อนโดยวิธีให้เช่าซื้อ โจทก์ใช้บัญชีเกณฑ์สิทธิสำหรับภาษีเงินได้นิติบุคคล จากพยานหลักฐานปรากฏว่าโจทก์ลงบัญชีรายวัน บัญชีเงินสด และบัญชีลูกหนี้ไม่ตรงกัน ไม่เป็นไปตามเกณฑ์สิทธิ เมื่อเปรียบเทียบกับสัญญาซื้อขายที่ดินที่ได้จากกรมที่ดิน รายการบัญชีไม่ตรงกับ วัน เดือนปี ที่ซื้อขาย เจ้าพนักงานประเมินได้ตรวจสอบรายละเอียดทุกรายการ หากปรากฏชื่อผู้ซื้อตรงกับบัญชีหรือมีข้อมูลตรงกัน จะตัดออกไม่ทำการประเมิน เมื่อตรวจทุกรายการไม่มีการประเมินซ้ำซ้อนกัน พบว่าโจทก์ยื่นเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลไม่ตรงตามความจริง โดยแสดงรายรับขาดไปจำนวนมาก และพบว่ามีรายจ่ายต้องห้ามหลายรายการ การประเมินภาษีอากรของเจ้าพนักงานประเมิน และคำวินิจฉัยอุทธรณ์ของคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ชอบด้วยกฎหมายแล้ว
การประเมินภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาหัก ณ ที่จ่าย โจทก์รับว่าไม่ได้หักภาษีไว้ และยินยอมให้เจ้าพนักงานประเมินทำการประเมินภาษีในอัตราร้อยละ 3 ถือว่าโจทก์พอใจการประเมินแล้ว จะอุทธรณ์ต่อศาลอีกมิได้ กรณีเป็นปัญหาความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชน ศาลหยิบยกขึ้นวินิจฉัยเองได้ และเงินเพิ่มมาตรา 22 ศาลพิจารณาลดได้
กรณีภาษีการค้า ไม่ว่าเจ้าพนักงานประเมินจะออกหมายเรียกตรวจสอบไต่สวนหรือไม่ จะต้องทำการประเมินภาษีการค้าภายในกำหนดเวลา ตามมาตรา 88 ทวิ คือ ห้าปี หรือสิบปี แล้วแต่กรณีทั้งสิ้น เมื่อเจ้าพนักงานประเมินภาษีการค้าโจทก์ สำหรับปี 2517 ถึง 2521 พ้นกำหนดเวลาห้าปี นับแต่วันสุดท้ายแห่งกำหนดเวลายื่นแบบแสดงรายการการค้า จึงไม่ชอบ

 

ปรับปรุงล่าสุด: 07-02-2021