เมนูปิด

คำพิพากษาฎีกาที่ 3927/2532 
นายเจริญ ปานทองโจทก
กรมสรรพากรกับพวกจำเลย
กฎหมายที่เกี่ยวข้องประมวลรัษฎากร มาตรา 40, 42 ทวิ, บัญชีอัตราภาษีการค้า ประเภทการค้าที่ 5
ส. ได้จ่ายค่าตอบแทนเกี่ยวกับกิจการระเบิดหินและโม่หินให้แก่ภริยาโจทก์ การที่โจทก์ก็ดี ส.ก็ดี เบิกความเป็นทำนองว่าเงินจำนวนดังกล่าวเป็นค่าเช่าที่ดิน และใช้หนี้เงินยืม เมื่อ การกู้ยืมเงินกันเป็นจำนวนล้านบาทโดยมิได้มีหลักฐานอย่างใด กรณีจึงเป็นเรื่องผิดปกติธรรมดาไม่มีน้ำหนักที่จะรับฟัง เงินจำนวนดังกล่าวจึงเป็นรายได้ที่โจทก์และภริยาจะต้องเสียภาษีตามกฎหมาย
โจทก์อ้างว่าจำเลยประเมินเงินได้ของโจทก์เกี่ยวกับเงินเดือนและค่าเช่าบ้านเกินความจริงไป เมื่อปรากฏว่ากรณีเงินเดือนโจทก์ไม่ได้นำเงินที่ทางราชการออกค่าภาษีแทนให้มาคำนวณ เป็นรายได้เพื่อเสียภาษีด้วย และได้ทำการหักค่าใช้จ่ายเกินกว่าที่ประมวลรัษฎากรได้กำหนดไว้ ส่วนกรณีค่าเช่าบ้านโจทก์ได้เสียภาษีโรงเรือนไว้สูงกว่าที่ได้ยื่นแบบเสียภาษีเงินได้ เจ้าพนักงานประเมินจึงถือจำนวนที่โจทก์ยื่นเสียภาษีโรงเรือนไว้เป็นเกณฑ์ในการประเมินภาษีการประเมิน ของจำเลยในส่วนนี้จึงชอบแล้ว
จำเลยส่งแบบแจ้งการประเมินภาษีเงินได้ปี พ.ศ. 2515 ถึง พ.ศ. 2519 รวม 5 ฉบับ ให้กับโจทก์โดยส่งวันที่เดียวกัน เฉพาะแบบแจ้งการประเมินปี พ.ศ. 2518 เท่านั้น ไม่มีรายการครบถ้วนดังแบบแจ้งการประเมินฉบับอื่น เนื่องจากเจ้าหน้าที่ของจำเลยพลั้งเผลอพิมพ์รายการ ขาดตกบกพร่องไป โจทก์ย่อมเข้าใจได้โดยง่ายว่าข้อความในรายการดังกล่าวย่อมเป็นทำนองเดียวกัน ที่ระบุไว้เหมือนๆ กันในปีอื่น และต่อมาเมื่อโจทก์มาให้ถ้อยคำต่อเจ้าพนักงานประเมิน แสดงให้เห็นว่าโจทก์ทราบและเข้าใจแบบแจ้งการประเมินดังกล่าวเป็นอย่างดีจนถึงกับยินยอมรับชำระภาษีเพิ่มเติม ดังนั้นการที่เจ้าหน้าที่พลั้งเผลอพิมพ์รายการขาดตกบกพร่องไปบ้าง ก็ไม่เป็นเหตุทำให้โจทก์ไม่เข้าใจหรือเสียหายอย่างใด ดังนี้ข้อบกพร่องดังกล่าวจึงไม่เห็นเหตุทำให้การประเมินภาษีเงินได้ของ ปี พ.ศ. 2518 เป็นการไม่ชอบ
ส. ได้จ่ายค่าตอบแทนเกี่ยวกับกิจการระเบิดหินและโม่หินให้แก่ภริยาโจทก์ โจทก์และภริยาจึงมีหน้าที่ต้องเสียภาษีการค้า การที่เจ้าพนักงานประเมินทำการประเมินเรียกเก็บภาษีการค้าประเภทการค้า 5 ตามบัญชีอัตราภาษีการค้าแห่งประมวลรัษฎากรซึ่งระบุ ได้แก่ การให้เช่า ทรัพย์สินที่มิใช่อสังหาริมทรัพย์ เป็นการถูกต้องแล้ว

 

ปรับปรุงล่าสุด: 31-01-2021