เมนูปิด

คำพิพากษาฎีกาที่ 4273/2530 
เรื่อง หน้าที่นำสืบ , พยานหลักฐานที่นำสืบได้ , ส่งสำเนาพยานเอกสาร 
กฎหมายที่เกี่ยวข้อง ประมวลรัษฎากร
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทำสัญญากู้เบิกเงินเกินบัญชีและบันทึกต่อ อายุสัญญานั้น ตามเอกสารท้ายฟ้องไว้กับโจทก์ เมื่อคำให้การของจำเลยไม่มี ข้อความใดปฏิเสธว่าจำเลยไม่ได้ทำสัญญา หรือบันทึกต่ออายุสัญญาดังกล่าว จึงฟังได้ว่าจำเลยได้ทำสัญญาและบันทึกต่ออายุสัญญา ตามเอกสารท้ายฟ้อง ดังกล่าว กรณีจึงไม่ต้องอาศัยพยานเอกสารทั้ง 2 ฉบับที่มิได้ปิดอากรแสตมป์ ตามกฎหมายมาประกอบการพิจารณาอีก
ศาลย่อมมีดุลพินิจที่จะรับฟังเอกสารที่คู่ความส่งเป็นพยาน โดยไม่ได้ส่ง สำเนาเอกสารนั้นให้แก่อีกฝ่ายหนึ่งได้ โดยอาศัยหลักตามประมวลกฎหมาย วิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 87 เมื่อเอกสารที่โจทก์อ้างส่ง โดยไม่ได้ส่ง สำเนาให้แก่จำเลยนั้นจำเลยไม่ได้ปฏิเสธความถูกต้องแท้จริง ทั้งยังเป็น พยานหลักฐานอันสำคัญ ซึ่งเกี่ยวกับประเด็นข้อสำคัญในคดีด้วยแล้ว เพื่อ ประโยชน์แห่งความยุติธรรมศาลย่อมรับฟังพยานเอกสารได้
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 90 บัญญัติให้คู่ความ ส่งสำเนาเอกสารให้แก่อีกฝ่ายหนึ่งนั้น ในกรณีที่มีการระบุพยานเพิ่มเติม หมายความถึงให้ส่งสำเนาเอกสารนั้นให้คู่ความอีกฝ่ายหนึ่งก่อนวันที่ทำการนำ สืบถึงพยานเอกสารนั้นจริง ๆ ไม่น้อยกว่า 3 วันมิได้หมายความถึงก่อนวันทำ การสืบพยานครั้งแรกของคดี

 

ปรับปรุงล่าสุด: 23-01-2021