เมนูปิด

ข้อ 21

ศาสตราจารย์ ครู และนักวิจัย

 

                ผู้มีถิ่นที่อยู่ในรัฐผู้ทำสัญญารัฐหนึ่ง ผู้ซึ่งโดยคำเชิญของมหาวิทยาลัย วิทยาลัย หรือ สถาบันอื่น ๆ ซึ่งรัฐผู้ทำสัญญาอีกรัฐหนึ่ง หรือองค์การที่ไม่ค้ากำไร เป็นเจ้าของ ได้เข้ามาอยู่ในอีกรัฐหนึ่ง นั้น เพียงเพื่อความมุ่งประสงค์ในการสอน หรือการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ในสถาบันเช่นว่านั้น เป็นระยะเลาไม่เกิน 2 ปี มิให้ถูกเก็บภาษีในอีกรัฐหนึ่งนั้น สำหรับค่าตอบแทนจากการสอน หรือการวิจัยเช่นว่านั้น

 

 

ข้อ 22

เงินได้ซึ่งมิได้ระบุไว้ชัดแจ้ง

 

                บรรดารายการเงินได้ของผู้มีถิ่นที่อยู่ในรัฐผู้ทำสัญญารัฐหนึ่ง ซึ่ง มิได้ระบุไว้โดยชัดแจ้งในข้อก่อน ๆ แห่งอนุสัญญานี้ อาจเก็บภาษีได้ในรัฐที่เงินได้เกิดขึ้น

 

 

ข้อ 23

วิธีการเก็บภาษีซ้อน

 

                การเก็บภาษีซ้อนให้หลีกเลี่ยงเสียด้วยวิธีดำเนินการดังนี้คือ

 

1.             ในกรณีของประเทศฝรั่งเศส

 

                 ก)            เงินได้อื่นนอกเหนือจากที่ระบุไว้ในอนุวรรค (ข) ข้างล่างนี้ จะได้รับการยกเว้นการเก็บภาษีฝรั่งเศสตามที่ระบุไว้ในอนุวรรค (3) (ข) ของข้อ 2 หากเงินได้ดังกล่าวต้องเสียภาษีไทยตามอนุสัญญาและภายใต้กฎหมายของไทย

 

                 ข)            สำหรับเงินได้ซึ่งระบุไว้ในข้อ 8,10,11,12,16และ 17 ซึ่งต้องเสียภาษีไทยตามบทแห่งข้อต่างๆ นี้ ฝรั่งเศสจะอนุญาติให้ผู้มีถิ่นที่อยู่ในฝรั่งเศสซึ่งได้รับ เงินได้จากประเทศไทย ได้รับเครดิตภาษีมีจำนวนเท่ากับภาษีที่เก็บในประเทศไทยโดยมีเงื่อนไข ว่าในกรณีของเงินปันผลซึ่งระบุไว้ในข้อ 10 เครดิตดังกล่าวเพียงไม่เกินกว่าจำนวนภาษี ฝรั่งเศสซึ่งเก็บจากรายได้นั้น ให้ใช้ได้กับภาษีซึ่งระบุไว้ในอนุวรรค (3)(ข) ของข้อ 2 ในฐานซึ่งเงินได้เช่นว่านั้นรวมอยู่

 

                 ค)            แม้จะมีบทของอนุวรรค (ก) และ (ข)อยู่โดยเหตุของอนุสัญญานี้ภาษีฝรั่งเศส อาจคำนวณจากเงินได้ซึ่งเก็บในฝรั่งเศสในอัตราที่เป็นส่วนสัดอันสมควรกับเงินได้ทั้งสิ้นที่ต้องเสียภาษีตามกฎหมายฝรั่งเศส

 

2.             ในกรณีของประเทศไทย

 

                 ก)            เงินได้นอกเหนือไปจากที่ระบุไว้ในอนุวรรค (ข)ข้างล่างนี้ จะได้รับการยกเว้นภาษีไทยตามที่ระบุไว้ในอนุวรรค (3) (ข) ของข้อ 2 หากเงินได้ดังกล่าวต้องเสีย ภาษีฝรั่งเศสตามอนุสัญญาและภายใต้กฎหมายฝรั่งเศส

 

                 ข)            สำหรับเงินได้ซึ่งระบุไว้ในข้อ8,10,11,12,16 และ 17 ซึ่งต้องเสียภาษีฝรั่งเศสตามบท แห่งข้อเหล่านี้ ประเทศไทยจะอนุญาตให้ผู้มีถิ่นที่อยู่ในประเทศไทย ซึ่งได้รับเงินได้จากฝรั่งเศส ได้ รับเครดิตจากภาษีไทย เครดิตดังกล่าวจะคิดจากจำนวนภาษีซึ่ง ชำระให้กับประเทศฝรั่งเศส แต่จะ ต้องไม่เกินส่วนของภาษีไทยซึ่งรายได้สุทธิจากแหล่งต่าง ๆ ภายในประเทศ ฝรั่งเศสจะต้องเสีย ภาษีในประเทศไทย ในการกำหนดรายได้สุทธิทั้งสิ้นนั้น ผลขาดทุนซึ่งเกิด ขึ้นในประเทศใดๆ จะไม่นำมารวมพิจารณาด้วย

 

                 ค)            แม้จะมีบทของอนุวรรค (ก) และ(ข) โดยเหตุของอนุสัญญานี้ ภาษีไทย อาจคำนวณจากเงินได้ซึ่งเกิดขึ้นในประเทศไทยในอัตราที่สมควรกับเงินได้ทั้งหมดที่เกิดขึ้นตามกฎหมายไทย

 

 

ข้อ 24

การไม่เลือกประติบัติ

 

1.             คนชาติของรัฐผู้ทำสัญญารัฐหนึ่ง จะต้องไม่ถูกบังคับ ในรัฐผู้ทำสัญญาอีกรัฐหนึ่งให้เสียภาษีอากรใด ๆ หรือไห้ปฏิบัติตามข้อกำหนดกฎเกณฑ์ใด ๆ เกี่ยวกับการนั้น อันเป็นการนอก เหนือไปจาก หรือเป็นภาระหนักกว่าการเก็บภาษีอากร และข้อกำหนดกฎเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องซึ่งคนชาติของอีกรัฐหนึ่งนั้น ถูกหรืออาจถูกบังคับให้เสียหรือให้ปฏิบัติตามในพฤติการณ์เดียวกัน

 

2.             คำว่า "คนชาติ" หมายความว่า

 

                 ก)            บุคคลธรรมดาทั้งปวงที่มีสัญชาติของรัฐผู้ทำสัญญารัฐหนึ่ง

 

                 ข)            นิติบุคคล ห้างหุ้นส่วน และสมาคมทั้งปวงที่ได้ สถานภาพดังกล่าวตามกฎหมายที่ใช้บังคับอยู่ในรัฐผู้ทำสัญญารัฐหนึ่ง

 

3.             ภาษีอากรเก็บจากสถานประกอบการถาวร ซึ่งวิสาหกิจของรัฐ ผู้ทำสัญญารัฐหนึ่ง มีอยู่ในรัฐผู้ทำสัญญาอีกรัฐหนึ่ง จะต้องไม่เรียกเก็บในอีกรัฐหนึ่ง โดยเป็นการอนุเคราะห์น้อยกว่าภาษีอากร ที่เรียกเก็บจากวิสาหกิจของอีกรัฐหนึ่งนั้นที่ ประกอบกิจกรรมอย่างเดียวกัน

 

                บทนี้ มิให้แปลความเป็นการผูกพันรัฐผู้ทำสัญญารัฐหนึ่งรัฐใด ในอันที่จะให้ค่าลดหย่อนการผ่อนผันหรือการหักลดส่วนบุคคล แก่ผู้มีถิ่นที่อยู่ในรัฐผู้ทำสัญญา อีกรัฐหนึ่ง เพื่อการเก็บภาษีอากรตามสถานะของบุคคล หรือตามความรับผิดชอบทางครอบครัว ซึ่งรัฐนั้นให้แก่ผู้มีถิ่นที่อยู่ในรัฐของตน

 

4.             วิสาหกิจของรัฐผู้ทำสัญญารัฐหนึ่ง ซึ่งผู้มีถิ่นที่อยู่ในรัฐ ผู้ทำสัญญาอีกรัฐหนึ่ง คนเดียวหรือหลายคนเป็นเจ้าของหรือควบคุมทุนอยู่ทั้งหมด หรือแต่บางส่วน ไม่ว่า โดยตรงหรือทางอ้อม จะต้องไม่ถูกบังคับในรัฐแรกให้เสียภาษีอากรใด ๆ หรือปฏิบัติตามข้อกำหนดกฎเกณฑ์ใด ๆ ที่เกี่ยวกับการนั้น อันเป็นการนอกเหนือไปจาก หรือเป็นภาระหนักกว่าภาษีอากร และข้อกำหนดกฎเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งวิสาหกิจอื่นที่คล้ายคลึงกับของรัฐแรกนั้น ถูกหรืออาจถูกบังคับให้เสียหรือให้ปฏิบัติตาม

 

5.             ในข้อนี้ คำว่า "ภาษีอากร" หมายความว่า ภาษีอากรทุกชนิดทุกลักษณะ

 

 

ข้อ 25

วิธีการเพื่อความตกลงร่วมกัน

 

1.             ในกรณีที่ผู้มีถิ่นที่อยู่ในรัฐผู้ทำสัญญารัฐหนึ่ง พิจารณาเห็นว่า การกระทำของรัฐผู้ทำสัญญารัฐหนึ่งรัฐใดหรือทั้งสองรัฐ มีผลหรือจะมีผลให้ต้องเสียภาษีอากร โดย ไม่เป็นไปตามอนุสัญญานี้ ผู้นั้นอาจยื่นเรื่องราวของตนต่อเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจ ของรัฐผู้ทำสัญญา ซึ่งตนมีถิ่นที่อยู่ แม้จะมีทางแก้ไขตามกฎหมายแห่งชาติของรัฐเหล่านั้นอยู่แล้วก็ตาม

 

2.             ถ้าข้อคัดค้านนั้น ปรากฏแก่เจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจว่ามีเหตุผล สมควร และถ้าตนไม่สามารถที่จะหาทางแก้ไขที่เหมาะสมได้เอง ให้เจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจพยายามแก้ไขกรณีนั้น โดยความตกลงร่วมกันกับเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจของรัฐผู้ทำสัญญาอีกรัฐหนึ่งเพื่อการเว้นการเก็บภาษีซ้อน อันไม่ เป็นไปตามอนุสัญญานี้

 

3.             ให้เจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจของรัฐผู้ทำสัญญาทั้ง 2 รัฐ พยายาม แก้ไขซึ้งข้อยุ่งยาก อันเกิดขึ้นเกี่ยวกับการตีความหรือการใช้อนุสัญญานี้ โดยความตกลงร่วมกัน เจ้าหน้าที่ดังกล่าวยังอาจหารือกันเพื่อขจัดการเก็บภาษีซ้อน ในบรรดากรณีที่มิได้บัญญัติไว้ในอนุสัญญานี้

 

4.             เจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจของรัฐผู้ทำสัญญาทั้ง 2 รัฐ อาจติดต่อกันโดยตรง เพื่อให้มีความตกลงตามความหมายแห่งวรรคก่อน ๆ เมื่อเห็นเป็นการสมควรที่จะแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันด้วย วาจาเพื่อให้มีความตกลงกัน การแลกเปลี่ยนความคิดเห็นนั้น อาจกระทำโดยทางคณะกรรมการอันประกอบก้วยผู้แทนของเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจ ของรัฐผู้ทำสัญญาทั้งสองรัฐ

 

5.             เจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจ จะกำหนดวิธีการใช้อนุสัญญานี้

 

ปรับปรุงล่าสุด: 08-12-2011