เมนูปิด

ข้อ 6

เงินได้จากอสังหาริมทรัพย์

 

1.             เงินได้จากอสังหาริมทรัพย์ อาจเก็บภาษีได้ในรัฐผู้ทำสัญญาซึ่งทรัพย์สินนั้นตั้งอยู่

 

2.             คำว่า "อสังหาริมทรัพย์" ให้นิยามตามกฎหมายของรัฐผู้ทำสัญญาซึ่งทรัพย์สินนั้นตั้งอยู่ คำนี้ไม่ว่าในกรณีใด ให้รวมถึงทรัพย์สินอันเป็นอุปกรณ์ของอสังหาริมทรัพย์ สัตว์เลี้ยง และเครื่องมือที่ใช้ในการเกษตร และการป่าไม้ สิทธิที่อยู่ในบังคับบทกฎหมายทั่วไปว่าด้วยทรัพย์สินที่เป็นที่ดิน สิทธิเก็บกินในอสังหาริมทรัพย์ และสิทธิที่จะได้รับชำระตามจำนวนที่เปลี่ยนแปลงได้ หรือจำนวนตายตัวเป็นค่าตอบแทนในการทำงาน หรือสิทธิในการทำงานในขุมแร่ แหล่งแร่ และทรัพยากรธรรมชาติอย่างอื่น เรือกำปั่น เรือ และอากาศยานไม่ให้ถือว่าเป็นอสังหาริมทรัพย์

 

3.             บทของวรรค 1 ให้ใช้บังคับแก่เงินได้ อันเนื่องมาจากการใช้โดยตรง การให้เช่าหรือการใช้อสังหาริมทรัพย์ในลักษณะอื่น

 

4.             บทของวรรค 1 และวรรค 3 ให้ใช้บังคับแก่เงินได้ จากอสังหาริมทรัพย์ของวิสาหกิจและแก่เงินได้จากอสังหาริมทรัพย์ซึ่งใช้เพื่อให้บริการวิชาชีพด้วย

 

 

ข้อ 7

กำไรจากธุรกิจ

 

1.             กำไรของวิสาหกิจของรัฐผู้ทำสัญญารัฐหนึ่งให้เก็บภาษีได้เฉพาะในรัฐนั้น เว้นไว้แต่ว่าวิสาหกิจนั้นประกอบธุรกิจในรัฐผู้ทำสัญญาอีกรัฐหนึ่ง โดยผ่านทางสถานประกอบการถาวรซึ่งตั้งอยู่ในอีกรัฐหนึ่งนั้น ถ้าวิสาหกิจนั้นประกอบธุรกิจดังกล่าวแล้ว กำไรของวิสาหกิจอาจเก็บภาษีได้ในอีกรัฐหนึ่ง แต่ต้องเก็บจากกำไรเพียงเท่าที่พึงถือว่าเป็นของสถานประกอบการถาวรนั้นเท่านั้น

 

2.             ในกรณีที่วิสาหกิจของรัฐผู้ทำสัญญารัฐหนึ่งประกอบธุรกิจในรัฐผู้ทำสัญญาอีกรัฐหนึ่ง โดยผ่านทางสถานประกอบการถาวรซึ่งตั้งอยู่ในรัฐนั้น ให้ในแต่ละรัฐผู้ทำสัญญาถือว่ากำไรเป็นของสถานประกอบการถาวรนั้น ในส่วนที่พึงคาดหวังได้ว่าสถานประกอบการถาวรนั้นจะได้รับ ถ้าหากว่าสถานประกอบการถาวรนั้นเป็นวิสาหกิจอันแยกต่างหากและประกอบกิจกรรมเช่นเดียวกัน หรือคล้ายคลึงกัน ภายใต้ภาวะเช่นเดียวกันหรือคล้ายคลึงกัน และติดต่ออย่างเป็นอิสระโดยแท้จริง กับวิสาหกิจซึ่งตนเป็นสถานประกอบการถาวรนั้น

 

3.             ในการกำหนดกำไรของสถานประกอบการถาวร ให้ยอมให้หักค่าใช้จ่ายซึ่งมีขึ้นเพื่อสถานประกอบการถาวรนั้น รวมทั้งค่าใช้จ่ายในการบริหารและการจัดการทั่วไป ไม่ว่าจะมีขึ้นในรัฐผู้ทำสัญญาที่สถานประกอบการถาวรนั้นตั้งอยู่หรือที่อื่น

 

4.             มิให้กำไรใดๆ เป็นของสถานประกอบการถาวร โดยเหตุผลเพียงว่า สถานประกอบการถาวรนั้นซื้อของหรือสินค้าเพื่อวิสาหกิจ

 

5.             เพื่อความมุ่งประสงค์แห่งวรรคก่อนๆ กำไรที่จะพึงถือว่าเป็นของสถานประกอบการถาวรให้กำหนดตามวิธีเดียวกันปีต่อปี เว้นไว้แต่จะมีเหตุผลอันสมควรและเพียงพอที่จะใช้วิธีอื่น

 

6.             ในกรณีที่กำไรรวมไว้ซึ่งรายการเงินได้ ซึ่งแยกอยู่ในบังคับของข้ออื่นแห่งอนุสัญญานี้ มิให้บทของข้ออื่นเหล่านั้นถูกกระทบกระเทือนโดยบทของข้อนี้

 

 

ข้อ 8

การขนส่งทางเรือและทางอากาศ

 

1.             กำไรจากการดำเนินการเดินอากาศยานในการจราจรระหว่างประเทศ ให้เก็บภาษีได้เฉพาะในรัฐผู้ทำสัญญา ที่สถานจัดการใหญ่ตั้งอยู่

 

2.             กำไรจากการดำเนินการเดินเรือในการจราจรระหว่างประเทศ โดยวิสาหกิจที่มีสถานจัดการใหญ่อยู่ในรัฐผู้ทำสัญญารัฐหนึ่ง อาจเก็บภาษีได้ในรัฐผู้ทำสัญญาอีกรัฐหนึ่ง แต่ให้ลดภาษีที่ตั้งบังคับเก็บในอีกรัฐหนึ่งนั้นลงร้อยละ 50 ของภาษี

 

3.             ถ้าสถานจัดการใหญ่ของวิสาหกิจเดินเรือ ตั้งอยู่บนเรือนั้น ให้ถือว่าสถานจัดการใหญ่ตั้งอยู่ในรัฐผู้ทำสัญญา ซึ่งถิ่นฐานท่าเรือของเรือนั้น ตั้งอยู่ หรือ ถ้าไม่มีถิ่นฐานท่าเรือ ให้ถือว่าตั้งอยู่ในรัฐผู้ทำสัญญาซึ่งผู้ดำเนินการเดินเรือเป็นผู้มีถิ่นที่อยู่

 

4.             ในทำนองเดียวกัน บทของวรรค 1 และวรรค 2 ให้ใช้บังคับเกี่ยวกับการเข้ารวมกลุ่มหรือการร่วมธุรกิจการเดินเรือหรืออากาศยาน โดยวิสาหกิจเช่นว่านั้นซึ่งดำเนินการขนส่งทางเรือ หรือทางอากาศด้วย

 

ข้อ 9

วิสาหกิจในเครือเดียวกัน

                ในกรณีที่

 

                ก)                  วิสาหกิจของรัฐผู้ทำสัญญารัฐหนึ่งเข้าร่วมโดยทางตรงหรือโดยทางอ้อมในการจัดการ การควบคุมหรือร่วมทุนของวิสาหกิจของรัฐผู้ทำสัญญาอีกรัฐหนึ่ง หรือ

 

                ข)            บุคคลเดียวกันเข้าร่วมโดยทางตรงหรือโดยทางอ้อมในการจัดการ การควบคุมหรือร่วมทุนของวิสาหกิจของรัฐผู้ทำสัญญารัฐหนึ่ง และวิสาหกิจของรัฐผู้ทำสัญญาอีกรัฐหนึ่ง

 

                และในแต่ละกรณีได้มีการวางหรือตั้งบังคับเงื่อนไข ระหว่างวิสาหกิจทั้งสอง ในด้านความสัมพันธ์ทางการพาณิชย์หรือการเงิน ซึ่งแตกต่างไปจากเงื่อนไขอันพึงมีระหว่างวิสาหกิจอิสระ กำไรใดๆ ซึ่งควรจะมีแก่วิสาหกิจหนึ่ง หากมิได้มีเงื่อนไขเหล่านั้น แต่มิได้มีขึ้นโดยเหตุแห่งเงื่อนไขเหล่านั้น อาจรวมเข้าเป็นกำไรของวิสาหกิจนั้นและเก็บภาษีได้ตามนั้น

 

 

ข้อ 10

เงินปันผล

 

1.             เงินปันผลที่บริษัทซึ่งเป็นผู้มีถิ่นที่อยู่ในรัฐผู้ทำสัญญารัฐหนึ่ง จ่ายให้แก่ผู้มีถิ่นที่อยู่ในรัฐผู้ทำสัญญาอีกรัฐหนึ่ง อาจเก็บภาษีได้ในรัฐอีกรัฐหนึ่งนั้น

 

2.             อย่างไรก็ตาม เงินปันผลเช่นว่านั้น อาจเก็บภาษีในรัฐผู้ทำสัญญาซึ่งบริษัทที่จ่ายเงินปันผลเป็นผู้มีถิ่นที่อยู่ได้ตามกฎหมายของรัฐนั้น แต่ถ้าผู้รับเงินปันผลเป็นบริษัทโดยไม่รวมถึงห้างหุ้นส่วนซึ่งถือหุ้นอยู่โดยตรงอย่างน้อยร้อยละ 25 ของเงินทุนของบริษัทแรก ภาษีที่เก็บจะต้องไม่เกิน

 

                ก)            ร้อยละ 15 ถ้าบริษัทที่จ่ายเงินปันผลนั้นดำเนินกิจการอุตสาหกรรม

 

                ข)            ร้อยละ 20 ในกรณีอื่นๆ

 

3.             ในข้อนี้

 

                ก)            คำว่า "เงินปันผล" ตามที่ใช้ในข้อนี้ หมายถึงเงินได้จากหุ้น สิทธิในหุ้น โดยมิต้องลงทุน หุ้นเหมืองแร่ หุ้นของผู้ก่อตั้งหรือสิทธิอื่นๆ ซึ่งมิใช่สิทธิเรียกร้องหนี้อันมีส่วน ในผลกำไร รวมทั้งเงินได้จากสิทธิอื่นๆ ในบรรษัทอันมีลักษณะทำนองเดียวกับเงินได้จากหุ้นตามกฎหมายภาษี อากรของรัฐ ซึ่งบริษัทที่ทำการแบ่งให้เป็นผู้มีถิ่นที่อยู่

 

                ข)            คำว่า "กิจการอุตสาหกรรม" หมายถึง

 

                               (1)          กิจการใดๆที่เกี่ยวกับ

 

                                              (ก)          การหัตถกรรม การประกอบ และการแปรสภาพ

 

                                              (ข)          การก่อสร้าง วิศวกรรมโยธา และการต่อเรือ

 

                                              (ค)          การผลิตกระแสไฟฟ้า พลังน้ำ แก๊ส หรือการประปา หรือ

 

                                              (ง)          การเกษตร การป่าไม้ และการประมง และการทำสวน และ

 

                               (2)          กิจการอื่นใด ซึ่งมีสิทธิได้รับเอกสิทธิที่ให้ตามกฎหมายของประเทศไทย ว่าด้วยการส่งเสริมการลงทุน เพื่อกิจการอุตสาหกรรม

 

                               (3)          กิจการอื่นใด ซึ่งเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจของประเทศไทยอาจจะประกาศให้เป็น "กิจการอุตสาหกรรม" เพื่อความมุ่งประสงค์ของข้อนี้

 

4.             มิให้ใช้บทของวรรค 1 และวรรค 2 บังคับ ถ้าหากผู้รับเงินปันผลซึ่งเป็นผู้มี ถิ่นอยู่ในรัฐผู้ทำสัญญาอีกรัฐหนึ่งที่บริษัทจ่ายเงินปันผลเป็นผู้มีถิ่นที่อยู่ ซึ่งสถานประกอบการถาวรอันเกี่ยวข้องในประการสำคัญกับการถือหุ้น หรือมีทุนอันเป็นเหตุแห่งการจ่ายเงิน ปันผลนั้น ทั้งนี้มีเงื่อนไขว่าตามกฎหมายของอีกรัฐหนึ่งนั้น เงินปันผลนั้นเก็บภาษีในฐานะเป็นส่วน หนึ่งของกำไรของสถานประกอบการถาวรนั้น ในกรณีเช่นว่านั้นให้ใช้บทของข้อ 7 บังคับ

 

5.             ในกรณีที่มีการชำระภาษีล่วงหน้า ในส่วนที่เกี่ยวกับเงินปันผล ซึ่งบริษัทซึ่งเป็นผู้มีถิ่นที่อยู่ในประเทศฝรั่งเศส จ่ายให้แก่ผู้มีถิ่นที่อยู่ในประเทศไทย ผู้มีถิ่นที่อยู่ในประเทศไทยนั้นทีสิทธิได้รับคืนเงินภาษีที่ชำระล่วงหน้านั้น ภายใต้เงื่อนไขการหัก ภาษี ณ ที่จ่าย ของจำนวนเงินภาษีที่จะได้คืนนั้นตามกฎหมายภายในประเทศ และตามบทของวรรค 2 ของข้อนี้

 

6.             ในกรณีที่บริษัท ซึ่งเป็นผู้มีถิ่นที่อยู่ในรัฐผู้ทำสัญญารัฐหนึ่งมีสถาน ประกอบการถาวรอยู่ในรัฐผู้ทำสัญญาอีกรัฐหนึ่ง กำไรของสถานประกอบการถาวรนั้นจะถูกตั้งบังคับภาษี หัก ณ ที่จ่ายตามกฎหมายของรัฐผู้ทำสัญญาอีกรัฐหนึ่งได้ในอัตราไม่เกินร้อยละ 25

 

ปรับปรุงล่าสุด: 08-12-2011