เมนูปิด

คำพิพากษาฎีกาที่1761/2557 
ห้างหุ้นส่วนจำกัด ศรีวิทย์ โฮลดิ้ง เซลล์ แอนด์ เซอร์วิสโจทก์
กรมสรรพากรจำเลย
เรื่อง ภาษีอากร
กฎหมายที่เกี่ยวข้องประมวลรัษฎากร มาตรา 77/1(10) มาตรา 77/2(1) มาตรา 89(2) และ มาตรา 89/1
โจทก์ประกอบกิจการรับติดตั้งโทรศัพท์และอุปกรณ์สื่อสารให้แก่หน่วยงานราชการ เจ้าพนักงานประเมินสำนักงานสรรพากรพื้นที่ขอนแก่น ตรวจสอบพบว่า ระหว่างเดือนภาษีมกราคมถึงเดือนภาษีตุลาคม 2549 โจทก์มีเงินได้จากการรับจ้าง ถือเป็นการให้บริการตามมาตรา 77/1(10) แห่งประมวลรัษฎากร อยู่ในบังคับต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มตามมาตรา 77/2(1) แห่งประมวลรัษฎากร แต่โจทก์มิได้นำรายรับดังกล่าวมายื่นแบบแสดงรายการภาษีมูลค่าเพิ่ม เมื่อเจ้าพนักงานประเมินแจ้งจำนวนเงินภาษีมูลค่าเพิ่มที่ต้องชำระเพิ่มเติมและกำหนดวันให้ไปยื่นเสียภาษีเอง โจทก์ไม่ปฏิบัติตามโดยมิได้ชี้แจงเหตุขัดข้อง เจ้าพนักงานประเมินจึงมีหนังสือแจ้งการประเมินภาษีมูลค่าเพิ่มเดือนภาษีมกราคม 2549 เดือนภาษีกรกฎาคม 2549 ถึงเดือนภาษีตุลาคม 2549 พร้อมเบี้ยปรับและเงินเพิ่มรวมเป็นเงินจำนวน 1,165,499.85 บาท โจทก์อุทธรณ์การประเมินขอให้งดหรือลดเบี้ยปรับและเงินเพิ่ม คณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์มีคำวินิจฉัยให้ลดเบี้ยปรับลงคงเรียกเก็บเพียงร้อยละ 50 ของเบี้ยปรับตามกฎหมาย คงเหลือภาษีที่ต้องชำระพร้อมเบี้ยปรับและเงินเพิ่มทั้งสิ้นจำนวน 800,142.28 บาท แต่โจทก์ไม่เห็นด้วย ศาลภาษีอากรกลางพิพากษาให้ยกฟ้อง ให้โจทก์ใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนจำเลย โดยกำหนดค่าทนายความ 3,000.- บาท โจทก์อุทธรณ์ต่อศาลฎีกา กรณีโจทก์อุทธรณ์การประเมินขอให้งดหรือลดเบี้ยปรับและเงินเพิ่มต่อคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ ซึ่งคณะกรรมการฯ มีคำวินิจฉัยให้ลดเบี้ยปรับลงคงเรียกเก็บเพียงร้อยละ 50 ของเบี้ยปรับตามกฎหมาย คงเหลือภาษีที่ต้องชำระพร้อมเบี้ยปรับและเงินเพิ่มทั้งสิ้นจำนวน 800,142.28 บาท แต่โจทก์ยังไม่เห็นด้วย ศาลฎีกาแผนกคดีภาษีอากรเห็นว่า ข้ออ้างของโจทก์เป็นเรื่องเกี่ยวกับการดำเนินการบริหารงาน ซึ่งเป็นเรื่องภายในของโจทก์ การที่โจทก์ประกอบธุรกิจกับหน่วยงานราชการย่อมต้องทราบดีอยู่แล้วว่า มีรายรับที่ต้องยื่นแบบแสดงรายการภาษีมูลค่าเพิ่ม แต่โจทก์มิได้ยื่นแบบแสดงรายการภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับเดือนภาษีกรกฎาคม 2549 เดือนภาษีกันยายน 2549 ถึงเดือนภาษีตุลาคม 2549 ภายในเวลาที่กฎหมายกำหนด การที่คณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์เชื่อว่า โจทก์ไม่มีเจตนาหลีกเลี่ยงภาษีและให้ความร่วมมือในการตรวจสอบด้วยดี จึงลดเบี้ยปรับลงคงเรียกเก็บเพียงร้อยละ 50 ของเบี้ยปรับ ตามกฎหมาย ตามข้อ 5(3)(ข) ของคำสั่งกรมสรรพากรที่ ท.ป.81/2542 ลงวันที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2542 นับว่าเป็นคุณแก่โจทก์มากแล้ว กรณีไม่มีเหตุที่จะงดหรือลดเบี้ยปรับหรือเงินเพิ่มมากไปกว่าที่คณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์มีคำวินิจฉัยอุทธรณ์ที่ศาลภาษีอากรกลางพิพากษามานั้น ศาลฎีกาแผนกคดีภาษีอากรเห็นพ้องด้วยในเหตุผล อุทธรณ์ของโจทก์ฟังไม่ขึ้น พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์ให้เป็นพับ

 

ปรับปรุงล่าสุด: 16-02-2021