คำพิพากษาฎีกาที่6925/2555 | |
นางสมลักษณ์ อุดมเดชาณัติ | โจทก์ |
กรมสรรพากร | จำเลย |
เรื่อง เงินที่ได้รับจากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ และการให้ดอกเบี้ยแก่ผู้ได้รับคืนเงินภาษีอากร | |
กฎหมายที่เกี่ยวข้องประมวลรัษฎากร มาตรา 4 ทศ มาตรา 42(17) มาตรา 48(5) | |
ประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ 52) (ฉบับที่ 151) (ฉบับที่ 158) | |
กฎกระทรวง ฉบับที่ 161 (พ.ศ.2526)ฯ | |
พ.ร.บ.จัดตั้งศาลภาษีและวิธีพิจารณาคดีภาษีอากร พ.ศ.2528 มาตรา 29 | |
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 142(5) มาตรา 246 | |
ตามข้อ 16 ของข้อบังคับการประปาส่วนภูมิภาค ว่าด้วยการกำหนดตำแหน่ง อัตราเงินเดือน การบรรจุ การแต่งตั้งการเลื่อนขั้นเงินเดือน การถอดถอน ระเบียบการลงโทษและการอุทธรณ์การลงโทษของพนักงาน พ.ศ.2522 กำหนดให้พนักงานพ้นจากตำแหน่งเมื่ออายุหกสิบปีบริบูรณ์ โจทก์ออกจากงานก่อนกำหนดดังกล่าว ตามประกาศการประปาส่วนภูมิภาค เรื่อง โครงการเกษียณอายุก่อนกำหนดประจำปี 2548 เป็นการเลิกสัญญาจ้างกันโดยความตกลงของทั้งสองฝ่ายที่เป็นลายลักษณ์อักษรในภายหลัง อันมีผลให้กำหนดเวลาทำงานตามสัญญาจ้างแรงงานสิ้นสุดลง จึงมิใช่เป็นการลาออกก่อนอายุครบหกสิบปีบริบูรณ์ในกรณีปกติ ถือได้ว่าโจทก์ออกจากงานเพราะสิ้นกำหนดเวลาทำงานตามสัญญาจ้างแรงงานที่เป็นลายลักษณ์อักษร ตามหลักเกณฑ์ กรณีเกษียณอายุในข้อ 1(1) ของประกาศอธิบดีกรมสรรพากรเกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ 52) แล้ว เมื่อขณะออกจากงานโจทก์มีอายุ 58 ปี และเข้าเป็นสมาชิกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพมาแล้วไม่น้อยกว่า 5 ปี เงินได้ที่โจทก์ได้จากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพย่อมได้รับยกเว้นไม่ต้องรวมคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ตามความในข้อ 2(36) แห่งกฎกระทรวง ฉบับที่ 126 (พ.ศ.2509) ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร และประกาศอธิบดีกรมสรรพากรเกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ 52) ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยประกาศอธิบดีกรมสรรพากรเกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ 151) และ (ฉบับที่ 158) ตามลำดับตามมาตรา 4 ทศ แห่งประมวลรัษฎากร กำหนดให้ผู้ได้รับคืนเงินภาษีอากรมีสิทธิได้รับดอกเบี้ยตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่กำหนดโดยกฎกระทรวง ซึ่งข้อ 1 ของกฎกระทรวง ฉบับที่ 161 (พ.ศ.2526) ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการให้ดอกเบี้ยแก่ผู้ได้รับคืนภาษีอากร ระบุว่า ดอกเบี้ยที่จะให้แก่ผู้ได้รับคืนเงินภาษีอากร ให้คิดดังต่อไปนี้ (1) กรณีคืนเงินภาษีอากรที่ถูกหักไว้ ณ ที่จ่าย ให้เริ่มคิดดอกเบี้ยตั้งแต่วันถัดจากวันครบระยะเวลาสามเดือน นับแต่...(ข) วันยื่นคำร้องขอคืนเงินภาษีอากร ถ้าผู้ได้รับเงินคืนภาษีอากรไม่ต้องยื่นแบบแสดงรายการเกี่ยวกับเงินภาษีอากรที่ถูกหักไว้ ณ ที่จ่าย ดังนี้ เมื่อโจทก์เป็นผู้ไม่มีหน้าที่เสียภาษีได้ยื่นคำร้องขอคืนเงินภาษีอากรในวันที่2 กรกฎาคม 2550 จึงครบระยะเวลาสามเดือนนับแต่วันยื่นคำร้องขอคืนเงินภาษีอากรในวันที่ 2 ตุลาคม 2550 โจทก์ย่อมมีสิทธิได้รับดอกเบี้ยนับตั้งแต่วันที่ 3 ตุลาคม 2550 เป็นต้นไป ที่ศาลภาษีอากรกลางกำหนดดอกเบี้ยให้โจทก์ตั้งแต่วันที่ 2 กรกฎาคม 2550 ซึ่งเป็นวันที่โจทก์ยื่นคำร้องขอคืนภาษีนั้น เป็นการไม่ชอบ ปัญหานี้แม้ไม่มีคู่ความฝ่ายใดยกขึ้นอุทธรณ์ แต่เป็นปัญหาข้อกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน ศาลฎีกาแผนกคดีภาษีอากรมีอำนาจหยิบยกขึ้นวินิจฉัยได้ ตามมาตรา 29 แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลภาษีอากรและวิธีพิจารณาคดีภาษีอากร พ.ศ.2528 ประกอบมาตรา 142 (5) และมาตรา 246 แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง |