ประกาศอธิบดีกรมสรรพากร
เกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ 127)
เรื่อง กำหนดการยื่นแบบแสดงรายการภาษี การชำระภาษี และสถานที่ยื่นแบบแสดงรายการภาษี
--------------------------------
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 11 มาตรา 68 และมาตรา 69 แห่งประมวลรัษฎากร อธิบดีกรมสรรพากรกำหนดการยื่นแบบแสดงรายการภาษี การชำระภาษีและสถานที่ยื่นแบบแสดงรายการภาษี สำหรับการยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้นิติบุคคลผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตไว้ดังต่อไปนี้
ข้อ 1 กำหนดให้การยื่นรายการข้อมูลตามแบบแสดงรายการภาษีดังต่อไปนี้ผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ทางเว็บไซต์ (Web Site) ของกรมสรรพากร www.rd.go.th เป็นการยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้ของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล ตามมาตรา 68 และมาตรา 69 แห่งประมวลรัษฎากร
(1) ภ.ง.ด.50 ใช้สำหรับบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายไทยหรือตั้งขึ้นตามกฎหมายของต่างประเทศและกระทำกิจการในประเทศไทย ตามมาตรา 66 วรรคหนึ่ง แห่งประมวลรัษฎากร
(2) ภ.ง.ด.52 ใช้สำหรับบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายของต่างประเทศ และกระทำกิจการในที่อื่น ๆ รวมทั้งในประเทศไทย ตามมาตรา 66 วรรคสอง แห่งประมวลรัษฎากร ซึ่งกระทำกิจการขนส่งผ่านประเทศต่าง ๆ ตามมาตรา 67 แห่งประมวลรัษฎากร
(3) ภ.ง.ด.55 ใช้สำหรับมูลนิธิหรือสมาคมที่ประกอบกิจการซึ่งมีรายได้แต่ไม่รวมถึงมูลนิธิหรือสมาคมที่รัฐมนตรีประกาศกำหนด ตามมาตรา 47(7)(ข) แห่งประมวลรัษฎากร
การยื่นแบบแสดงรายการภาษีตามวรรคหนึ่ง มิให้ใช้กับการยื่นแบบแสดงรายการภาษีเกินกำหนดเวลาตามที่กำหนดในข้อ 3
ข้อ 2 บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่มีความประสงค์จะยื่นแบบแสดงรายการภาษีตามข้อ 1 จะต้องยื่นคำขอยื่นแบบแสดงรายการภาษีผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตต่ออธิบดีกรมสรรพากรและต้องได้รับอนุมัติแล้ว มีสิทธิยื่นรายการข้อมูลตามแบบแสดงรายการภาษีผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ทางเว็บไซต์ (Web Site) ของกรมสรรพากร www.rd.go.th โดยให้ถือเป็นสถานที่ยื่นแบบแสดงรายการภาษีได้อีกแห่งหนึ่ง
ข้อ 3 การยื่นแบบแสดงรายการภาษีผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ให้ยื่นได้ภายในหนึ่งร้อยห้าสิบวันนับแต่วันสุดท้ายของรอบระยะเวลาบัญชี โดยไม่เว้นวันหยุดราชการ กรณีวันสุดท้ายของการยื่นแบบแสดงรายการภาษีตรงกับวันหยุดราชการให้ยื่นได้ภายในวันทำการถัดไป และให้ยื่นแบบแสดงรายการภาษีได้ภายในเวลา 22.00 นาฬิกา ของแต่ละวัน
ข้อ 4 บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลต้องชำระภาษี (ถ้ามี) พร้อมกับการยื่นแบบแสดงรายการภาษีผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต การชำระภาษีดังกล่าวจะต้องใช้วิธีการโอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารของกรมสรรพากร ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Payment)
ข้อ 5 ให้ผู้อำนวยการกองคลัง กรมสรรพากรเป็น "เจ้าหน้าที่รับชำระเงินภาษีอากร" เพื่อรับชำระเงินภาษี
ข้อ 6 การเสียภาษีเงินได้ตามประกาศนี้ให้ถือว่าเป็นการสมบูรณ์ เมื่อได้มีการยื่นแบบแสดงรายการภาษีผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต โดยได้โอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารของกรมสรรพากร และได้รับใบเสร็จรับเงินของกรมสรรพากรตามจำนวนเงินซึ่ง "เจ้าหน้าที่รับชำระเงินภาษีอากร" ตามข้อ 5 ได้ลงลายมือชื่อรับเงินแล้ว
การลงลายมือชื่อตามวรรคหนึ่งจะจัดพิมพ์ขึ้นด้วยระบบคอมพิวเตอร์ก็ได้
ข้อ 7 บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลตามข้อ 1 ต้องยื่นบัญชีงบดุล บัญชีทำการ และบัญชีกำไรขาดทุน บัญชีรายรับ รายจ่าย หรือบัญชีรายรับก่อนหักรายจ่ายที่มีบุคคลตามมาตรา 3 สัตต แห่งประมวลรัษฎากร ตรวจสอบและรับรองในรอบระยะเวลาบัญชี แล้วแต่กรณี ตามมาตรา 69 แห่งประมวลรัษฎากร ภายในหนึ่งร้อยห้าสิบวันนับแต่วันสุดท้ายของรอบระยะเวลาบัญชี ณ สำนักงานสรรพากรพื้นที่สาขาในเขตท้องที่ที่สถานประกอบการตั้งอยู่ กรณีวันสุดท้ายของการยื่นบัญชีดังกล่าวตรงกับวันหยุดราชการให้ยื่นได้ภายในวันทำการถัดไป
(แก้ไขเพิ่มเติมโดยประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ 296) ใช้บังคับสำหรับรอบระยะเวลาบัญชีที่มีวันสุดท้ายแห่งกำหนดเวลาในการยื่นบัญชีดังกล่าว ในหรือหลังวันที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559 เป็นต้นไป )
ข้อ 8 ประกาศนี้ให้ใช้บังคับสำหรับการยื่นรายการตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2546 เป็นต้นไป
ประกาศ ณ วันที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2546
ศุภรัตน์ ควัฒน์กุล
(นายศุภรัตน์ ควัฒน์กุล)
อธิบดีกรมสรรพากร