ประกาศอธิบดีกรมสรรพากร
  เกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ 186)
  เรื่อง  	กำหนดแบบหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย
 
  -------------------------------------------  
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 50 ทวิ แห่งประมวลรัษฎากร ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2521 อธิบดีกรมสรรพากรกำหนดแบบหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย เพื่อให้ผู้มีหน้าที่หักภาษี ณ ที่จ่าย ใช้ออกให้แก่ผู้ถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย ดังต่อไปนี้
                         ข้อ 1 หนังสือรับรองการหักภาษี  ณ ที่จ่าย ที่ผู้จ่ายมีหน้าที่หักภาษี  ณ ที่จ่าย สำหรับการจ่ายเงินได้พึงประเมิน ตามข้อ 17/1 ของข้อ 2  ของกฎกระทรวง ฉบับที่ 144 (พ.ศ. 2522) ออกตามความในประมวลรัษฎากรว่าด้วยภาษีเงินได้ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยกฎกระทรวง  ฉบับที่ 273 (พ.ศ. 2553) ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยภาษีเงินได้ ต้องออกให้แก่ผู้ถูกหักภาษี  ณ ที่จ่าย และผู้มีหน้าที่หักภาษี ณ ที่จ่าย จำนวนสามฉบับมีข้อความตรงกันนั้น อย่างน้อยต้องมีข้อความตามแบบท้ายประกาศนี้ 
                           หนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย ตามวรรคหนึ่ง ต้องมีข้อความแต่ละฉบับ ดังนี้
                                     (1) ฉบับที่ 1 หนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย / สำเนาใบเสร็จรับเงิน มีข้อความว่า สำหรับผู้ถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย (ผู้ขาย) ใช้แสดงพร้อมแบบแสดงรายการนำเข้า ส่งออกอัญมณีที่ยังมิได้เจียระไนต่อเจ้าหน้าที่ศุลกากร เพื่อผ่านพิธีการศุลกากรขาออก ขณะเดินทางออกนอกประเทศไทย
                                     (2) ฉบับที่ 2 สำเนาหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย / สำเนาใบเสร็จรับเงิน มีข้อความว่า  สำหรับผู้ถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย (ผู้ขาย) เก็บไว้เป็นหลักฐาน
                                     (3) ฉบับที่ 3 สำเนาหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย / ใบเสร็จรับเงิน มีข้อความว่า สำหรับผู้หักภาษี ณ ที่จ่าย (ผู้ซื้อ) เก็บไว้เป็นหลักฐาน
                           ผู้มีหน้าที่ออกหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย ต้องจัดทำสำเนาคู่ฉบับไว้ เพื่อใช้เป็นหลักฐานสำหรับออกใบแทนในกรณีที่หนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย ที่ออกให้แก่ผู้ถูกหักภาษี ณ ที่จ่ายแล้ว แต่ชำรุด สูญหาย โดยการออกใบแทนให้ใช้วิธีถ่ายเอกสารหรือพิมพ์เอกสารจากเครื่องคอมพิวเตอร์ ในกรณีจัดทำหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่ายด้วยระบบคอมพิวเตอร์ และมีข้อความว่า ใบแทน 
                           หนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย จะต้องมีหมายเลขลำดับของหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย และหมายเลขลำดับของเล่ม เว้นแต่ในกรณีที่ไม่ได้จัดทำหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่ายเป็นเล่มจะไม่มีหมายเลขลำดับของเล่มก็ได้ 
                           การลงชื่อของผู้มีหน้าที่หักภาษี ณ ที่จ่าย ในหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย จะใช้วิธีประทับลายมือชื่อผู้มีหน้าที่หักภาษี ณ ที่จ่ายด้วยตรายาง หรือจะพิมพ์ลายมือชื่อผู้มีหน้าที่หักภาษี ณ ที่จ่าย โดยเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ได้มีการเก็บลายมือชื่อไว้ (SCAN) ก็ได้
ข้อ 2 หนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่ายตามข้อ 1 ต้องทำเป็นภาษาไทยหรือภาษาอังกฤษ แต่ถ้าทำเป็นภาษาต่างประเทศอื่นต้องมีคำแปลภาษาไทยกำกับ ส่วนตัวเลขให้ใช้เลขไทยหรืออารบิค
ข้อ 3 ผู้ใดประสงค์จะทำหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่ายเป็นอย่างอื่นนอกจากที่กล่าวในข้อ 1 และข้อ 2 ต้องยื่นคำขออนุมัติจากอธิบดีกรมสรรพากรก่อน และเมื่อได้รับอนุมัติจากอธิบดีกรมสรรพากรแล้ว ให้ปฏิบัติตามนั้นได้
ข้อ 4 การออกหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่ายตามข้อ 1 ข้อ 2 และข้อ 3 ให้ถือเป็นการออกใบรับตามมาตรา 105 แห่งประมวลรัษฎากร
                         ข้อ 5 ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 31 พฤษภาคม  พ.ศ.  2553  ถึงวันที่ 31  ธันวาคม  พ.ศ.  2554 
ประกาศ ณ วันที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2553
  วินัย  วิทวัสการเวช
  (นายวินัย วิทวัสการเวช)
  อธิบดีกรมสรรพากร