เมนูปิด
เลขที่หนังสือ: 0702/699
วันที่: 30 มกราคม 2560
เรื่อง: ภาษีเงินได้นิติบุคคลและภาษีธุรกิจเฉพาะ กรณีการรับซื้อลูกหนี้ด้อยคุณภาพจากสถาบันการเงิน
ข้อกฎหมาย : มาตรา 78/2(1)80 82(2) 89(2) และ 89/1 แห่งประมวลรัษฎากร
ข้อหารือ           บริษัท บริหารสินทรัพย์ อ. (บริษัทฯ) ได้หารือเกี่ยวกับภาษีเงินได้นิติบุคคล และภาษีธุรกิจเฉพาะ กรณีการรับซื้อลูกหนี้ด้อยคุณภาพจากสถาบันการเงินมีข้อเท็จจริงสรุปได้ดังนี้
               1.บริษัทฯ ประกอบกิจการรับซื้อหนี้ด้อยคุณภาพ (NPL) จากสถาบันการเงิน โดยรับโอนสิทธิเรียกร้องในลูกหนี้มาบริหารจัดการต่อ โดยรายได้เกิดจากส่วนต่างจากการบริหารจัดการลูกหนี้ NPL ที่รับโอนมา ในแต่ละรายจากการปรับโครงสร้างหนี้ หรือ ปิดบัญชี หรือดำเนินคดีทางกฎหมาย การดำเนินธุรกิจดังกล่าว บริษัทฯ อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของธนาคารแห่งประเทศไทย
               2.เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2558 บริษัทฯ รับซื้อหนี้ด้อยคุณภาพมาจาก ธนาคาร ท. จำกัด(มหาชน) (ธนาคารฯ) ในราคา 784,032,140 บาท ซึ่งประกอบไปด้วยสัญญาเงินกู้แบบมีหลักประกันจำนวน 409 สัญญา โดยแต่ละสัญญามีสัดส่วนของเงินต้นและดอกเบี้ยค้างชำระไม่เท่ากัน
               3.ต่อมาเมื่อวันที่ 18 เมษายน 2559 นายส. ซึ่งเป็นลูกหนี้รายหนึ่งในกลุ่มลูกหนี้ 409 สัญญา ได้ชำระเงินทั้งสิ้น 2,200,000 บาท โดยภาระหนี้เดิม คือ 2,519,152 บาท ในจำนวนนี้ เป็นเงินต้น 2,197,059 บาท และดอกเบี้ยค้างชำระจำนวน 322,093 บาท ราคาที่บริษัทฯ ซื้อมา คือ 1,724,322 บาท บริษัทฯ จึงนำส่วนต่างของเงินที่ได้รับจากลูกหนี้กับราคาที่บริษัทฯ ซื้อมา รวมคำนวณภาษีเงินได้นิติบุคคล เป็นจำนวน 475,678 บาท (2,200,000 - 1,724,322) และนำรายรับจำนวนดังกล่าวยื่นเสียภาษีธุรกิจเฉพาะของเดือนพฤษภาคม 2559 เป็นเงิน 15,697.37 บาท อนึ่ง สาเหตุที่นายส. มาชำระเงินให้แก่บริษัทฯ ไม่ครบจำนวนหนี้เดิม คือ ชำระเพียงจำนวน 2,200,000 บาท เพราะนายส. ต้องการจะปิดบัญชี บริษัทฯ จึงให้ส่วนลดเป็นจำนวนเงิน 319,152 บาท
               4. ในการจ่ายเงินเพื่อซื้อหนี้ด้อยคุณภาพ บริษัทฯ ได้จ่ายชำระโดยการออกตั๋วสัญญาใช้เงินให้กับธนาคารฯ และบริษัทฯ ให้ธนาคาร ก. เป็นผู้รับรองโดยการอาวัลตั๋วสัญญาใช้เงินให้กับบริษัทฯ โดยตั๋วสัญญาใช้เงินมีกำหนดเวลา 89 วัน คือ ตั้งแต่วันที่ 14 ธันวาคม 2558 ถึงวันที่ 11 มีนาคม 2559 บริษัทฯ จ่ายค่าธรรมเนียมอาวัลเป็นเงิน 1,433,812.20 บาท และทยอยตัดค่าธรรมเนียมดังกล่าวเป็นรายจ่ายตามอายุสัญญาของตั๋วสัญญาใช้เงิน โดยถือตามเกณฑ์สิทธิในการคำนวณภาษีเงินได้นิติบุคคล บริษัทฯ จึงขอหารือว่า บริษัทฯ ได้ปฏิบัติถูกต้องหรือไม่ อย่างไร
แนววินิจฉัย           1. กรณีที่บริษัทฯ ได้รับชำระหนี้จากนาย ส. รายได้ทั้งจำนวนดังกล่าวซึ่งประกอบด้วยเงินต้นและดอกเบี้ยรับถือเป็นรายได้จากการประกอบกิจการที่บริษัทฯ ต้องนำมารวมคำนวณภาษีเงินได้นิติบุคคลตามมาตรา 65 แห่งประมวลรัษฎากร และบริษัทฯ ต้องนำดอกเบี้ยรับดังกล่าวมาเสียภาษีธุรกิจเฉพาะตามมาตรา 91/8 แห่งประมวลรัษฎากร
          2. กรณีที่บริษัทฯ ชำระค่าธรรมเนียมอาวัลตั๋วสัญญาใช้เงินตามจำนวนราคาหนี้ด้อยคุณภาพที่บริษัทฯ รับซื้อมาจากธนาคารฯ บริษัทฯ ต้องคำนวณค่าธรรมเนียมดังกล่าวเป็นรายจ่ายในแต่ละรอบระยะเวลาบัญชีที่ค่าธรรมเนียมถึงกำหนดชำระตามเกณฑ์สิทธิ ทั้งนี้ ตามมาตรา 65 แห่งประมวลรัษฎากร
เลขตู้: 80/40305

 

ปรับปรุงล่าสุด: 22-05-2020