เมนูปิด
เลขที่หนังสือ: กค 0702/3122
วันที่: 2 พฤษภาคม 2554
เรื่อง: ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาและภาษีเงินได้นิติบุคคล กรณีการหักเงินบริจาค
ข้อกฎหมาย: มาตรา 3(4)(ข) มาตรา 47(7)(ข) และมาตรา 65 ตรี (3) แห่งประมวลรัษฎากร
ข้อหารือ          มูลนิธิฯ ได้รับการประกาศกำหนดเป็นสถานสาธารณกุศล และได้ทำกิจกรรมสาธารณกุศลส รวมถึงให้ความร่วมมือกับองค์กรต่างๆ เพื่อประโยชน์สาธารณกุศล โดยได้รับเงินบริจาคจากบุคคลทั่วไปที่สนับสนุนการทำกิจกรรมดังกล่าว และเพื่อให้การดำเนินงานของมูลนิธิฯ เป็นไปโดยชอบด้วยกฎหมาย จึงขอทราบว่า
          1. มูลนิธิฯ สามารถรับเงินบริจาคและออกใบเสร็จรับเงินให้แก่บุคคลทั่วไปที่สนับสนุนกิจกรรมสาธารณประโยชน์ เพื่อนำไปใช้เป็นหลักฐานในการหักลดหย่อนเงินบริจาคได้หรือไม่
          2. หากไม่สามารถดำเนินการได้ตามข้อ 1. มีแนวทางใดที่จะทำให้การดำเนินกิจกรรมของมูลนิธิฯ เป็นแนวทางที่ถูกต้องและเหมาะสม
แนววินิจฉัย          1. มูลนิธิฯ ได้รับการประกาศกำหนดให้เป็นองค์การหรือสถานสาธารณกุศลตามข้อ 3 ของประกาศกระทรวงการคลัง ว่าด้วยภาษีเงินได้และภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 2) เรื่อง กำหนดองค์การ สถานสาธารณกุศล สถานพยาบาล และสถานศึกษาตามมาตรา 47 (7) (ข) แห่งประมวลรัษฎากร และมาตรา 3 (4) (ข) แห่งพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 239) พ.ศ. 2534 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 254) พ.ศ. 2535 ลงวันที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2535 ดังนั้น การบริจาคให้กับมูลนิธิฯ ผู้บริจาคมีสิทธิหักลดหย่อนในการคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา หรือถือเป็นรายจ่ายในการคำนวณภาษีเงินได้นิติบุคคลได้ ดังนี้
               1.1 กรณีบุคคลธรรมดา เฉพาะการบริจาคเป็นเงินให้แก่มูลนิธิฯ ผู้บริจาคมีสิทธิ นำเงินบริจาคไปหักลดหย่อนในการคำนวณเงินได้สุทธิเพื่อเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาได้เท่าที่บริจาคแต่ต้องไม่เกินร้อยละ 10 ของเงินที่เหลือหลังจากหักลดหย่อนตามมาตรา 47 (1) (2) (3) (4) (5) หรือ (6) แห่งประมวลรัษฎากร แล้ว ทั้งนี้ ตามมาตรา 47 (7) (ข) แห่งประมวลรัษฎากร
               1.2 กรณีบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล บริจาคเงินหรือทรัพย์สินให้แก่มูลนิธิฯ เข้าลักษณะเป็นรายจ่ายเพื่อการกุศลสาธารณะ บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลมีสิทธินำเงินหรือทรัพย์สิน ที่บริจาคมาหักเป็นรายจ่ายในการคำนวณกำไรสุทธิเพื่อเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลในส่วนที่ไม่เกินร้อยละ 2 ของกำไรสุทธิ ตามมาตรา 65 ตรี (3) แห่งประมวลรัษฎากร
          2. หลักฐานการบริจาคเงินหรือทรัพย์สินตาม 1. ให้ใช้บันทึกหรือหนังสือใดๆ ที่เป็นหลักฐานแสดงได้ว่าบริจาคเมื่อใด ผู้ใดบริจาค บริจาคแก่ผู้ใดและจำนวนเงินเท่าใด
เลขตู้: 73/37714

 

ปรับปรุงล่าสุด: 22-05-2020