1.บริษัทฯ ได้ทำสัญญาจ้างเหมาออกแบบควบคู่การก่อสร้างระบบบำบัดน้ำทิ้งกับบริษัท ช. จำกัด มูลค่างาน 37,100,000 บาท ซึ่งในการทำสัญญาต้องมีการปิดแสตมป์อากรทุกครั้ง บริษัทฯ จึงได้ดำเนินการซื้อแสตมป์อากรมาปิดทับลงบนสัญญา พร้อมทั้งลงลายมือชื่อในสัญญาและส่งสัญญาคู่ฉบับไปให้บริษัท ช. จำกัดผู้ว่าจ้างตามกำหนดระยะเวลา แต่บริษัท ช. จำกัด แจ้งให้บริษัทฯ ไปดำเนินการแก้ไข เนื่องจากสัญญาจ้างทำของที่มีมูลค่างานตั้งแต่ 1,000,000 บาทขึ้นไปต้องชำระอากรเป็นตัวเงินโดยใช้แบบ อ.ส.4 และสลักหลังตราสารแทนการซื้อแสตมป์มาปิดทับ

          2.บริษัทฯ ชี้แจงว่า บริษัทฯ ไม่ได้ทำสัญญาในลักษณะนี้มาเป็นเวลานาน จึงไม่ทราบว่ากรมสรรพากรได้มีการเปลี่ยนแปลงหลักเกณฑ์การเสียอากรแสตมป์ บริษัทฯ จึงขอความอนุเคราะห์ให้การปิดแสตมป์ทับกระดาษครั้งนี้เป็นการปิดแสตมป์บริบูรณ์แล้วตามกฎหมาย หากไม่สามารถถือว่าการปิดแสตมป์ทับกระดาษแทนการชำระอากรเป็นตัวเงินได้ ก็ขอให้งดหรือลดเงินเพิ่มกรณีบริษัทชำระอากรเป็นตัวเงินเกินกำหนดเวลา

          กรณีที่บริษัทฯ ได้ทำสัญญาจ้างเหมาออกแบบควบคู่การก่อสร้างระบบบำบัดน้ำทิ้งกับบริษัท ช. จำกัด มูลค่างาน 37,100,000 บาท เข้าลักษณะเป็นการจ้างทำของ ตามลักษณะแห่งตราสาร 4. แห่งบัญชีอัตราอากรแสตมป์ และมีสินจ้างตั้งแต่ 1,000,000 บาทขึ้นไป ซึ่งเป็นตราสารที่กฎหมายกำหนดให้ผู้รับจ้างเป็นผู้มีหน้าที่ชำระอากรเป็นตัวเงินแทนการปิดแสตมป์อากร ตามข้อ 2 (3) (ก) และข้อ 3 (3) ของประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับอากรแสตมป์ (ฉบับที่ 37) เรื่อง กำหนดวิธีการชำระอากรเป็นตัวเงินแทนการปิดแสตมป์อากร สำหรับตราสารบางลักษณะ ลงวันที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2538 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับอากรแสตมป์ (ฉบับที่ 54) เรื่อง กำหนดวิธีการชำระอากรเป็นตัวเงินแทนการปิดแสตมป์อากร สำหรับตราสารบางลักษณะ ลงวันที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2557 การที่บริษัทฯซึ่งเป็นผู้รับจ้างชำระอากรโดยการปิดแสตมป์อากรทับลงบนตราสารจ้างทำของ จึงถือว่าตราสารดังกล่าวยังมิได้ปิดแสตมป์บริบูรณ์ ตามมาตรา 103 แห่งประมวลรัษฎากร บริษัทฯ จึงมีหน้าที่ต้องนำตราสารดังกล่าวไปชำระอากรเป็นตัวเงินแทนการปิดแสตมป์อากรตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในประกาศอธิบดีกรมสรรพากรฉบับดังกล่าว พร้อมกับชำระเงินเพิ่มอากรร้อยละ 1.5 ต่อเดือนหรือเศษของเดือนของเงินอากร นับแต่วันที่ต้องชำระอากร ตามคำสั่งกรมสรรพากรที่ ท.ป.84/2542 เรื่อง หลักเกณฑ์การลดเงินเพิ่มอากร ตามมาตรา 113 และมาตรา 114 แห่งประมวลรัษฎากร ลงวันที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2542 จึงไม่อาจอนุมัติให้การชำระอากรโดยการปิดแสตมป์อากรทับลงบนตราสารจ้างทำของดังกล่าวเป็นการปิดแสตมป์บริบูรณ์ตามมาตรา 103 แห่งประมวลรัษฎากร ตามที่ร้องขอได้อย่างไรก็ดี สำหรับค่าอากรแสตมป์ที่บริษัทฯ ชำระโดยวิธีปิดแสตมป์ลงบนตราสารจ้างทำของดังกล่าว บริษัทฯ มีสิทธิทำคำร้องเป็นหนังสือเพื่อขอคืนค่าอากรภายใน 6 เดือน นับแต่วันเสียอากร ตามมาตรา 122 แห่งประมวลรัษฎากร