เมนูปิด

          บริษัทฯ เป็นนิติบุคคลประเภทบริษัทจำกัด ประกอบธุรกิจด้านการให้บริการสินเชื่อบุคคลและสินเชื่อเช่าซื้อแก่บุคคลทั่วไป โดยบริษัทฯ ได้เช่าอาคารซึ่งมีค่าเช่าทั้งที่น้อยกว่าและมากกว่า 1,000,000 บาท จึงขอหารือเกี่ยวกับการชำระอากร ดังนี้


          1.กรณีตราสารมีมูลค่าตั้งแต่ 1,000,000 บาทขึ้นไป จะต้องชำระอากรเป็นตัวเงินแทนการใช้แสตมป์ปิดทับใช่หรือไม่


          2.กรณีตราสารมีมูลค่าตั้งแต่ 1,000,000 บาทขึ้นไป และบริษัทฯ ใช้แสตมป์ปิดทับแทนการชำระอากรเป็นตัวเงินตามจำนวนอากรที่ต้องเสียและขีดฆ่าตั้งแต่วันทำตราสาร บริษัทฯ จะต้องนำตราสารดังกล่าวไปชำระอากรเป็นตัวเงินและชำระเงินเพิ่มอีกหรือไม่ อย่างไร และจะนำแสตมป์ดังกล่าวไปใช้กับตราสารอื่นได้หรือไม่


          3.กรณีตราสารมีมูลค่าตั้งแต่ 1,000,000 บาทขึ้นไป และบริษัทฯ ใช้แสตมป์ปิดทับแทนการชำระอากรเป็นตัวเงินตามจำนวนอากรที่ต้องเสียและขีดฆ่าตั้งแต่วันทำตราสาร ตราสารดังกล่าวจะใช้เป็นพยานหลักฐานในคดีแพ่งได้หรือไม่

          1. กรณีตาม 1. ตราสารการเช่าที่ดิน โรงเรือน สิ่งปลูกสร้าง เข้าลักษณะเป็นตราสารที่อยู่ในบังคับต้องเสียอากรแสตมป์ตามลักษณะตราสาร 1. แห่งบัญชีอัตราอากรแสตมป์ และกรณีตราสารดังกล่าวมีค่าเช่าตั้งแต่ 1,000,000 บาทขึ้นไป ตราสารนั้นเข้าลักษณะเป็นตราสารที่กฎหมายกำหนดให้ชำระอากรเป็นตัวเงินแทนการปิดแสตมป์อากร ตามข้อ 2 (1) (ก) ของประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับอากรแสตมป์ (ฉบับที่ 37)เรื่อง กำหนดวิธีการชำระอากรเป็นตัวเงินแทนการปิดแสตมป์อากรสำหรับตราสารบางลักษณะ ลงวันที่ 2ธันวาคม พ.ศ. 2538 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับอากรแสตมป์ (ฉบับที่ 54)เรื่อง กำหนดวิธีการชำระอากรเป็นตัวเงินแทนการปิดแสตมป์อากรสำหรับตราสารบางลักษณะ ลงวันที่ 29ธันวาคม พ.ศ. 2557 โดยผู้ให้เช่าเป็นผู้มีหน้าที่ต้องเสียอากร


          2.กรณีตาม 2. บริษัทฯ ทำตราสารการเช่าที่ดิน โรงเรือน สิ่งปลูกสร้าง ที่อยู่ในบังคับต้องชำระอากรเป็นตัวเงินแทนการปิดแสตมป์อากร แต่ได้ชำระอากรโดยใช้แสตมป์ปิดทับแทนการชำระอากรเป็นตัวเงินตามจำนวนที่ต้องเสียและขีดฆ่าตั้งแต่วันทำตราสารถือว่า ตราสารดังกล่าวมิได้ปิดแสตมป์บริบูรณ์ ตามมาตรา 103แห่งประมวลรัษฎากร บริษัทฯ มีหน้าที่ต้องชำระอากรเป็นตัวเงินแทนการปิดแสตมป์อากร ตามหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับอากรแสตมป์ (ฉบับที่ 37)ฯ ลงวันที่ 2 ธันวาคมพ.ศ. 2538 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับอากรแสตมป์ (ฉบับที่ 54)ฯ ลงวันที่ 29ธันวาคม พ.ศ. 2557 และต้องเสียเงินเพิ่มอากร ตามมาตรา 113 และมาตรา 114 แห่งประมวลรัษฎากรอย่างไรก็ตาม หากตราสารนั้นได้ชำระอากรโดยวิธีปิดแสตมป์ลงบนตราสารดังกล่าวแล้ว และบริษัทฯนำตราสารดังกล่าวไปชำระอากรเป็นตัวเงินพร้อมกับเงินเพิ่มอากร ให้เสียเงินเพิ่มอากรร้อยละ 1.5 ต่อเดือนหรือเศษของเดือนของเงินอากรนับแต่วันที่ต้องชำระอากร ตามคำสั่งกรมสรรพากรที่ ท.ป.84/2542เรื่อง หลักเกณฑ์การลดเงินเพิ่มอากร ตามมาตรา 113 และมาตรา 114 แห่งประมวลรัษฎากร ลงวันที่ 27กันยายน พ.ศ. 2542 สำหรับค่าอากรหรือค่าเพิ่มอากรที่เสียเกินไป ให้ทำคำร้องเป็นหนังสือยื่นต่อพนักงานเจ้าหน้าที่เพื่อขอคืนค่าอากรหรือค่าเพิ่มอากรที่เกินไปนั้นภายใน 6 เดือน นับแต่วันเสียอากรหรือค่าเพิ่มอากรตามมาตรา 122 แห่งประมวลรัษฎากร


          3.กรณีตาม 3. บริษัทฯ ใช้แสตมป์ปิดทับลงบนตราสารแทนการชำระอากรเป็นตัวเงิน ถือว่าตราสารดังกล่าวมิได้ปิดแสตมป์บริบูรณ์ ตามมาตรา 103 (3) แห่งประมวลรัษฎากร บริษัทฯ จะใช้ต้นฉบับคู่ฉบับ คู่ฉีก หรือสำเนาตราสารนั้นเป็นพยานหลักฐานในคดีแพ่งไม่ได้ จนกว่าจะได้ปิดแสตมป์บริบูรณ์ตามมาตรา 118 แห่งประมวลรัษฎากร

เลขที่หนังสือ: 0702/2709 วันที่: 30 มีนาคม 2559 เรื่อง: อากรแสตมป์ กรณีการชำระอากรสำหรับตราสารการเช่าที่ดิน โรงเรือน สิ่งปลูกสร้างที่มีค่าเช่าตั้งแต่1,000,000 บาทขึ้นไป ข้อกฎหมาย : มาตรา 103 มาตรา 113 มาตรา 114 มาตรา 118 และมาตรา 122 แห่งประมวลรัษฎากร ข้อหารือแนววินิจฉัยเลขตู้: 79/40071

 

 

ปรับปรุงล่าสุด: 22-05-2020