เมนูปิด

เลขที่หนังสือ: กค 0706/6729
วันที่: 22 กรกฎาคม 2546
เรื่อง: ภาษีเงินได้ และภาษีมูลค่าเพิ่ม กรณีบริจาคเงิน ทรัพย์สินและสินค้าให้โรงเรียนนานาชาติ
ข้อกฎหมาย: มาตรา 47(7)(ข), พระราชกฤษฎีกา (ฉบับที่ 239)ฯ พ.ศ. 2534
ข้อหารือ: โรงเรียนนานาชาติได้จัดตั้งขึ้นและบริหารงานโดยมูลนิธิการศึกษานานาชาติที่ออกโดยอาศัย
อำนาจตามความในมาตรา 18 แห่งพระราชบัญญัติโรงเรียนเอกชน พ.ศ. 2525 เป็นสถานศึกษาที่ตั้งขึ้น
ตามกฎหมายว่าด้วยโรงเรียนเอกชนประเภทโรงเรียนเฉพาะกาลระดับอนุบาล - มัธยมศึกษาตอนปลาย
เนื่องจากใบเสร็จรับเงินของโรงเรียนฯ ได้หมายเหตุว่า "* โรงเรียนนานาชาติ เป็นสถานศึกษาที่ตั้ง
ขึ้นตามกฎหมายว่าด้วยโรงเรียนเอกชน ผู้บริจาคสามารถนำไปลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาและ
ภาษีเงินได้นิติบุคคลประจำปีได้ ตามประกาศกระทรวงการคลังว่าด้วยภาษีเงินได้และภาษีมูลค่าเพิ่ม
(ฉบับที่ 2) ข้อ 2 ทวิ" และ "* พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2542 หมวด 8 ทรัพยากรและ
การลงทุนเพื่อการศึกษา มาตรา 58(2)"
โรงเรียนฯ ขอหารือว่า
1. กรณีบุคคลธรรมดา และบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล บริจาคเงิน ทรัพย์สินหรือสินค้าให้
แก่โรงเรียนฯ บุคคลธรรมดาสามารถนำไปหักลดหย่อนในการคำนวณเงินได้สุทธิประจำปีเพื่อเสีย
ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาและบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลสามารถนำไปถือเป็นรายจ่ายในการคำนวณ
กำไรสุทธิเพื่อเสียภาษีเงินได้นิติบุคคล ได้หรือไม่
2. กรณีบุคคลธรรมดาและบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่เป็นผู้ประกอบการจดทะเบียน
ภาษีมูลค่าเพิ่ม ได้บริจาคสินค้าหรือทรัพย์สินให้แก่โรงเรียนฯ จะได้รับยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือไม่
3. ใบเสร็จรับเงินของโรงเรียนฯ ที่หมายเหตุดังกล่าวมีข้อมูลที่เป็นสาระสำคัญสมบูรณ์
ครบถ้วน เพียงพอที่จะใช้เป็นหลักฐานนำไปหักลดหย่อนหรือถือเป็นรายจ่าย และยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มได้
หรือไม่ หากยังไม่ถูกต้องครบถ้วนสมบูรณ์ ขอให้แนะนำเพื่อปรับปรุงและปฏิบัติให้ถูกต้องด้วย
แนววินิจฉัย: กรณีโรงเรียนนานาชาติเป็นโรงเรียนเอกชนจัดตั้งขึ้นโดยมูลนิธิการศึกษานานาชาติ เข้า
ลักษณะเป็นสถานศึกษาที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายว่าด้วยโรงเรียนเอกชน โดยบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลหรือ
นิติบุคคลอื่นตามข้อ 2 ทวิ แห่งประกาศกระทรวงการคลัง ว่าด้วยภาษีเงินได้และภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่
2) เรื่อง กำหนดองค์การ สถานสาธารณกุศล สถานพยาบาล และสถานศึกษา ตามมาตรา 47(7)(ข)
แห่งประมวลรัษฎากร และมาตรา 3(4)(ข) แห่งพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร
ว่าด้วยการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 239) พ.ศ. 2534 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชกฤษฎีกาออก
ตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 254) พ.ศ. 2535 ลงวันที่ 12
ตุลาคม พ.ศ. 2535 ดังนั้น
1. กรณีบุคคลธรรมดาบริจาคเงินให้แก่โรงเรียนฯ บุคคลธรรมดามีสิทธินำเงินบริจาคมาหัก
เป็นค่าลดหย่อนในการคำนวณเงินได้สุทธิเพื่อเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาตามมาตรา 47(7)(ข) แห่ง
ประมวลรัษฎากร และกรณีบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลบริจาคเงินหรือทรัพย์สินให้แก่โรงเรียนฯ
บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล มีสิทธินำมาหักเป็นรายจ่ายในการคำนวณกำไรสุทธิเพื่อเสีย
ภาษีเงินได้นิติบุคคลตามมาตรา 65 ตรี (3) แห่งประมวลรัษฎากร
2. กรณีบุคคลธรรมดาและบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่เป็นผู้ประกอบการจดทะเบียน
ภาษีมูลค่าเพิ่ม บริจาคสินค้าให้โรงเรียนฯ ได้รับยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มตามมาตรา 3(4)(ข) แห่ง
พระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 239)
พ.ศ. 2534 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากรว่าด้วย
การยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 254) พ.ศ. 2535
เลขตู้: 66/32569

 

 

ปรับปรุงล่าสุด: 22-05-2020