เมนูปิด

เลขที่หนังสือ: กค 0706/พ./5117
วันที่: 3 มิถุนายน 2546
เรื่อง: ภาษีมูลค่าเพิ่ม กรณีขออนุมัติเปลี่ยนแปลงวิธีปฏิบัติในการเฉลี่ยภาษีซื้อ
ข้อกฎหมาย: ประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 29)ฯ
ข้อหารือ: 1. บริษัทฯ เป็นผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2540
ประกอบกิจการทั้งประเภทที่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มและประเภทที่ไม่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มจากการ
ประกอบกิจการรับจ้างรมยางอัดก้อน ขายส่งไม้ฟืนและผลิตภัณฑ์จากไม้ ส่งออกยางรมควัน ขายยางรม
ควัน และให้บริการขนส่ง สำนักงานตั้งอยู่อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา
2. สำนักงานสรรพากรพื้นที่ได้ตรวจสภาพกิจการ ตรวจปฏิบัติการเฉพาะประเด็นและ
ตรวจปฏิบัติการคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม ปรากฏข้อเท็จจริงดังนี้
2.1 บริษัทฯ ยื่นแบบ ภ.พ.30 โดยไม่แสดงยอดซื้อและภาษีซื้อตั้งแต่เดือนภาษีสิงหาคม
2540 ถึงเดือนภาษีมีนาคม 2543 ตามข้อ 3(2) ของประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับ
ภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 29)ฯ ลงวันที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2535 เนื่องจากบริษัทฯ มีรายได้ประเภทที่ต้อง
เสียภาษีมูลค่าเพิ่มไม่เกินร้อยละ 10 ของรายได้ของกิจการทั้งหมด
2.2 บริษัทฯ ยื่นแบบ ภ.พ.09 แจ้งเปลี่ยนแปลงรายการที่ได้จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม
โดยเพิ่มประเภทของการประกอบการส่งออกยางรมควัน เมื่อวันที่ 18 เมษายน 2543 และหลังจากแจ้ง
เปลี่ยนแปลงรายการที่ได้จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม บริษัทฯ ยื่นแบบ ภ.พ.30 แสดงยอดซื้อและภาษีซื้อใน
อัตราร้อยละ 50 ของยอดซื้อและภาษีซื้อที่ใช้ในกิจการประเภทที่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มและประเภทที่
ไม่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม และขอคืนภาษีตั้งแต่เดือนภาษีเมษายน 2543 ถึงเดือนภาษีธันวาคม 2543 แต่
จากผลการตรวจปฏิบัติการเฉพาะประเด็นและตรวจปฏิบัติการคืนภาษีปรากฏว่า บริษัทฯ ต้องเฉลี่ยภาษีซื้อ
ตามรายได้ของปี 2542 ในอัตราร้อยละ 6.92 ของภาษีซื้อที่ใช้ในกิจการประเภทที่ต้องเสีย
ภาษีมูลค่าเพิ่มและประเภทที่ไม่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม
2.3 บริษัทฯ ได้ยื่นแบบ ภ.พ.30 เพิ่มเติม สำหรับเดือนภาษีเมษายนถึงเดือนภาษีตุลาคม
2543, เดือนภาษีธันวาคม 2543 และเดือนภาษีกุมภาพันธ์ถึงเดือนภาษีเมษายน 2544 เพื่อปรับปรุงการ
เฉลี่ยภาษีซื้อตามผลการตรวจปฏิบัติการ เป็นเงินภาษีจำนวน 929,533.48 บาท และเงินเพิ่มจำนวน
256,149.81 บาท รวมเป็นเงิน 1,185,683.29 บาท
2.4 ตั้งแต่ปี 2543 บริษัทฯ ประกอบกิจการส่งออกยางรมควันซึ่งเป็นกิจการประเภทที่
ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มเพิ่มเติม บริษัทเริ่มมีรายได้สำหรับกิจการประเภทที่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มมากกว่า
ร้อยละ 10 และกิจการประเภทที่ไม่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มน้อยกว่าร้อยละ 90
2.5 บริษัทฯ จึงขออนุมัติเปลี่ยนแปลงวิธีปฏิบัติในการเฉลี่ยภาษีซื้อจากเดิมที่ไม่ได้นำ
ภาษีซื้อทั้งจำนวนไปหักออกจากภาษีขายตามข้อ 3(2) ของประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับ
ภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 29)ฯ ลงวันที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2535 เป็นไม่ถือปฏิบัติตามข้อ 3(2) ของ
ประกาศฉบับดังกล่าว ตั้งแต่ปี 2543 เป็นต้นไป โดยมีเหตุผลว่า บริษัทฯ ประสบปัญหาการ ขาดทุนจาก
ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ
แนววินิจฉัย: อนุมัติให้บริษัทฯ เฉลี่ยภาษีซื้อตามส่วนของรายได้ของปีที่ผ่านมาของแต่ละกิจการ ตาม
หลักเกณฑ์ของข้อ 2(3) ของประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 29)ฯ ลงวันที่
9 มีนาคม พ.ศ. 2535 โดยไม่ต้องปฏิบัติตามข้อ 3(2) ของประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับ
ภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 29)ฯ ลงวันที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2535 ได้ตั้งแต่ปี 2543
เลขตู้: 66/32463

 

 

ปรับปรุงล่าสุด: 22-05-2020