เมนูปิด

เลขที่หนังสือ: กค 0811/6447
วันที่: 22 กรกฎาคม 2545
เรื่อง: ภาษีเงินได้นิติบุคคลหัก ณ ที่จ่าย กรณีการรับจ้างขนส่งสินค้าโดยบริษัทต่างประเทศ
ข้อกฎหมาย: มาตรา 76 ทวิ, อนุสัญญาภาษีซ้อนฯ, คำสั่งกรมสรรพากร ที่ ท.ป.4/2528 ฯ
ข้อหารือ: กรณีบริษัทฯ ว่าจ้าง บริษัท G ของประเทศมาเลเซีย ซึ่งไม่มีสถานประกอบการหรือตัวแทนใน
ประเทศไทย โดยหารือว่าการว่าจ้างกรณีต่าง ๆ ดังต่อไปนี้ จะต้องหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย หรือไม่
และอัตราเท่าใด
1. รับขนสินค้าจากด่านปาดังเบซาร์ไปยังประเทศมาเลเซีย
2. รับขนสินค้าจากโรงงานในหาดใหญ่ไปท่าเรือปีนัง ประเทศมาเลเซีย
3. รับดำเนินการด้านพิธีการและขนส่งสินค้าจากท่าเรือปีนังไปให้ลูกค้าใน ต่างประเทศโดย
จะเรียกเก็บค่าธรรมเนียม
แนววินิจฉัย: กรณี บริษัท G ซึ่งตั้งขึ้นตามกฎหมายของประเทศมาเลเซียได้เข้ามารับจ้างขนส่งสินค้าทางบก
ขาออกจากประเทศไทยไปยังประเทศมาเลเซียนั้น ถือว่า บริษัท G มีผู้ทำการแทนหรือผู้ทำการติดต่อใน
การประกอบกิจการขนส่งในประเทศไทย ซึ่งเป็นเหตุให้ได้รับเงินได้หรือผลกำไรในประเทศไทย บริษัท
G จึงมีหน้าที่ต้องเสียภาษีเงินได้นิติบุคคล ตามมาตรา 76 ทวิ แห่งประมวลรัษฎากร และการเข้ามารับ
จ้างขนส่งประจำ ดังกล่าวถือเป็นสถานธุรกิจประจำที่ บริษัท G ใช้เพื่อประกอบธุรกิจขนส่งใน
ประเทศไทย ซึ่งถือเป็นสถานประกอบการถาวร ตามข้อ 5 ของอนุสัญญาเพื่อการเว้นการเก็บภาษีซ้อน
ระหว่างประเทศไทยกับประเทศมาเลเซีย ดังนั้น เมื่อบริษัทฯ จ่ายเงินค่าขนส่งสินค้าให้กับ บริษัท G จึง
มีหน้าที่ต้องหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย ในอัตราร้อยละ 1.0 สำหรับค่าบริการใน ส่วนของค่าขนส่ง และ
ร้อยละ 3.0 ของค่าบริการอื่น ๆ ทั้งนี้ ตามข้อ 12/1 และข้อ 12/4 ของคำสั่งกรมสรรพากร ที่ ท.ป.
4/2528 เรื่อง สั่งให้ผู้จ่ายเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40 แห่งประมวลรัษฎากร มีหน้าที่หัก
ภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย ลงวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2528 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยคำสั่งกรมสรรพากร ที่
ท.ป.104/2544 ฯ ลงวันที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2544
เลขตู้: 65/31807

 

 

ปรับปรุงล่าสุด: 22-05-2020