เมนูปิด

 

เลขที่หนังสือ: กค 0811/821
วันที่: 29 มกราคม 2545
เรื่อง: ภาษีเงินได้นิติบุคคล ภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่ายและภาษีมูลค่าเพิ่ม กรณีค่าสิทธิประโยชน์ในการจำหน่ายสินค้าในร้านค้าสะดวกซื้อ ค่าธรรมเนียมสินค้าแรกเข้า และค่าตั้งโชว์สินค้า
ข้อกฎหมาย: มาตรา 65, มาตรา 40(8), มาตรา 77/2
ข้อหารือ: บริษัท ซี จำกัด ประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค โดยบริษัทฯ จะจำหน่ายสินค้าให้
กับบริษัท A ซึ่งประกอบกิจการร้านค้าสะดวกซื้อ (Convenience Store) ให้แก่ ผู้บริโภคโดยตรง
บริษัทฯ จะมีการตกลงกับบริษัท A ดังนี้
1. บริษัทฯ ตกลงที่จะเป็นผู้จำหน่ายสินค้า (เฉพาะประเภทที่ระบุในสัญญา) ให้แก่บริษัท A
และบริษัท A จะจำหน่ายสินค้าของบริษัทฯ (เฉพาะประเภทที่ระบุในสัญญา) แต่เพียง ผู้เดียวในร้านค้า
สะดวกซื้อของบริษัท A ให้แก่ผู้บริโภค ซึ่งบริษัท A จะนำสินค้า (เฉพาะประเภทที่ระบุในสัญญา) จาก
แหล่งอื่นมาจำหน่ายไม่ได้ โดยบริษัทฯ จะต้องจ่ายค่าสิทธิประโยชน์ในการจำหน่ายสินค้าในร้านค้าสะดวก
ซื้อ (Exclusive Fee) ให้แก่บริษัท A ตามจำนวนที่ตกลงกัน ซึ่งจะมีการจ่ายเพียงครั้งเดียวตลอด
อายุสัญญา และบริษัทฯ ไม่มีสิทธิเรียกคืนไม่ว่าด้วยเหตุใด ๆ ทั้งสิ้น
2. นอกจากสินค้าตามข้อ 1 แล้ว บริษัทฯ ตกลงที่จะเป็นผู้จำหน่ายสินค้าประเภทอื่นให้แก่
บริษัท A เพื่อบริษัท A จะได้นำสินค้ามาจำหน่ายในร้านค้าสะดวกซื้อของบริษัท A ให้แก่ ผู้บริโภคอีกด้วย
โดยบริษัทฯ จะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมสินค้าแรกเข้า (Entrance Fee) ให้แก่บริษัท A ตามจำนวนที่
ตกลงกัน ซึ่งจะมีการจ่ายเพียงครั้งเดียวตลอดอายุสัญญา และบริษัทฯ ไม่มีสิทธิ เรียกคืนไม่ว่าด้วยเหตุใด ๆ
ทั้งสิ้น ทั้งนี้ การจ่ายค่าธรรมเนียมสินค้าแรกเข้าไม่จำกัดสิทธิของบริษัท A ในการนำสินค้าประเภท
เดียวกันจากแหล่งอื่นมาจำหน่ายในร้านค้าสะดวกซื้อของบริษัท A อีก
3. เมื่อบริษัทฯ ได้มีการจำหน่ายสินค้าให้แก่บริษัท A แล้ว บางครั้งบริษัท A ได้ จัดให้มีการ
วางสินค้าของบริษัทฯ ในชั้นที่อยู่ด้านหน้า หรือพื้นที่ที่ใช้วางสินค้าที่มองเห็นได้ชัดกว่าชั้นวางสินค้าทั่วไป
เพื่อประโยชน์ในการโชว์สินค้าหรือเร่งยอดขายสินค้า โดยบริษัทฯ จะต้องจ่ายค่าตั้งโชว์สินค้าให้แก่บริษัท
A ตามจำนวนที่ตกลงกัน ซึ่งจะคำนวณตามระยะเวลาที่มีการตั้งโชว์ สินค้า และบริษัทฯ ไม่มีสิทธิเรียกคืน
ไม่ว่าด้วยเหตุใด ๆ ทั้งสิ้น
บริษัทฯ จึงขอหารือว่า
1. ค่าตอบแทนที่บริษัทฯ ต้องจ่ายทั้ง 3 กรณีดังกล่าว ถือเป็นรายจ่ายในการประกอบกิจการ
มิใช่รายจ่ายที่มีลักษณะเป็นการลงทุน บริษัทฯ จึงมีสิทธินำมาถือเป็นรายจ่ายในการคำนวณกำไรสุทธิเพื่อ
เสียภาษีเงินได้นิติบุคคลของบริษัทฯ ในรอบระยะเวลาบัญชีที่พึงต้องจ่ายตามเกณฑ์สิทธิในมาตรา 65 แห่ง
ประมวลรัษฎากร สำหรับบริษัท A จะต้องรับรู้รายได้ค่าตอบแทนที่ได้รับทั้ง 3 กรณีดังกล่าวมารวมคำนวณ
เพื่อเสียภาษีเงินได้นิติบุคคล ในรอบระยะเวลาบัญชีที่พึงได้รับตามเกณฑ์สิทธิในมาตรา 65 แห่ง
ประมวลรัษฎากร
2. ค่าตอบแทนที่บริษัทฯ ต้องจ่ายทั้ง 3 กรณีดังกล่าว เข้าลักษณะเป็นเงินได้จากธุรกิจตาม
มาตรา 40(8) แห่งประมวลรัษฎากร ไม่อยู่ในบังคับที่จะต้องหักภาษี ณ ที่จ่าย ตามมาตรา 3 เตรส
แห่งประมวลรัษฎากร ประกอบกับคำสั่งกรมสรรพากร ที่ ท.ป.4/2528 ฯ แต่ประการใด
3. ค่าตอบแทนสิทธิที่จะจำหน่ายสินค้าแต่เพียงผู้เดียว (Exclusive Fee) และ
ค่าธรรมเนียมสินค้าแรกเข้า (Entrance Fee) ไม่ถือเป็นมูลค่าฐานภาษีที่ได้รับจากการขายสินค้าหรือ
การให้บริการ ไม่อยู่ในบังคับต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม แต่อย่างใด ส่วนค่าตอบแทนจากการตั้งโชว์ สินค้า
ถือเป็นมูลค่าจากการให้บริการตามมาตรา 77/1(10) แห่งประมวลรัษฎากร จึงอยู่ในบังคับต้องเสีย
ภาษีมูลค่าเพิ่มตามมาตรา 77/2(1) แห่งประมวลรัษฎากร
4. บริษัท A จะต้องนำค่าตอบแทนที่ได้รับทั้ง 3 กรณีดังกล่าว มารวมคำนวณเพื่อเสีย
ภาษีเงินได้นิติบุคคลในรอบระยะเวลาบัญชีที่พึงได้รับตามเกณฑ์สิทธิในมาตรา 65 แห่งประมวลรัษฎากร
แนววินิจฉัย: 1. ภาษีเงินได้นิติบุคคล ค่าสิทธิประโยชน์ในการจำหน่ายสินค้าในร้านค้าสะดวกซื้อ
ค่าธรรมเนียมสินค้าแรกเข้า และค่าตั้งโชว์สินค้า ถือเป็นรายจ่ายเพื่อหากำไรหรือเพื่อกิจการโดยเฉพาะ
บริษัทฯ มีสิทธินำมาหักเป็นรายจ่ายในการคำนวณกำไรสุทธิได้ทั้งจำนวนในรอบระยะเวลาบัญชีที่จ่าย
เงินได้นั้น และบริษัท A ต้องนำเงินค่าตอบแทนทั้ง 3 กรณีดังกล่าวที่ได้รับจากบริษัทฯ มารวมคำนวณเป็น
รายได้เพื่อคำนวณกำไรสุทธิหรือขาดทุนสุทธิตามมาตรา 65 แห่งประมวลรัษฎากร
2. ภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย ค่าสิทธิประโยชน์ในการจำหน่ายสินค้าในร้านค้าสะดวกซื้อและ
ค่าธรรมเนียมสินค้าแรกเข้า เข้าลักษณะเป็นเงินได้จากการให้รางวัลหรือประโยชน์ ใด ๆ เนื่องจาก
การส่งเสริมการขาย เมื่อบริษัทฯ จ่ายเงินค่าสิทธิประโยชน์และค่าธรรมเนียมดังกล่าวให้แก่บริษัท A
บริษัทฯ มีหน้าที่ต้องหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่ายในอัตราร้อยละ 3.0 ตามข้อ 12/2 ของคำสั่งกรมสรรพากร
ที่ ท.ป.4/2528 เรื่อง สั่งให้ผู้จ่ายเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40 แห่งประมวลรัษฎากร มีหน้าที่หัก
ภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย ลงวันที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2528 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดย คำสั่งกรมสรรพากร ที่
ท.ป.101/2544 ฯ ลงวันที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2544 สำหรับค่าตั้งโชว์สินค้า เข้าลักษณะเป็นเงินได้
จากการให้บริการตามมาตรา 40(8) แห่งประมวลรัษฎากร เมื่อบริษัทฯ จ่ายเงินค่าตั้งโชว์สินค้าให้แก่
บริษัท A บริษัทฯ มีหน้าที่ต้องหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่ายในอัตราร้อยละ 3.0 ตามข้อ 12/1 ของ
คำสั่งกรมสรรพากร ที่ ท.ป.4/2528 ฯ ลงวันที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2528 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดย
คำสั่งกรมสรรพากร ที่ ท.ป.104/2544 ฯ ลงวันที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2544
3. ภาษีมูลค่าเพิ่ม กรณีบริษัทฯ จ่ายค่าสิทธิประโยชน์ในการจำหน่ายสินค้าในร้านค้าสะดวกซื้อ
และค่าธรรมเนียมสินค้าแรกเข้าให้แก่บริษัท A เนื่องจากการจ่ายเงินดังกล่าว มิได้มีผลทำให้บริษัท A
ต้องให้บริการอื่นใดแก่บริษัทฯ ต่อไป ดังนั้น การจ่ายเงินค่าสิทธิประโยชน์และ ค่าธรรมเนียมดังกล่าวไม่
เข้าลักษณะเป็นค่าตอบแทนจากการขายสินค้าหรือการให้บริการตามมาตรา 77/1 แห่งประมวลรัษฎากร
จึงไม่อยู่ในบังคับต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม ตามมาตรา 77/2 แห่งประมวลรัษฎากร สำหรับกรณีบริษัทฯ
จ่ายค่าตั้งโชว์สินค้าให้แก่บริษัท A เข้าลักษณะเป็นค่าตอบแทนจากการให้บริการตามมาตรา 77/1(10)
แห่งประมวลรัษฎากร บริษัท A มีหน้าที่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มตามมาตรา 77/2(1) แห่ง
ประมวลรัษฎากร ดังนั้น บริษัท A ต้องนำเงินค่าตั้งโชว์ สินค้ามารวมคำนวณเป็นมูลค่าของฐานภาษีตาม
มาตรา 79 แห่งประมวลรัษฎากร
เลขตู้: 65/31239


 

ปรับปรุงล่าสุด: 22-05-2020