เมนูปิด

 

เลขที่หนังสือ: กค 0811/7653
วันที่: 2 สิงหาคม 2544
เรื่อง: ภาษีเงินได้นิติบุคคล กรณีดอกเบี้ยเงินกู้ยืมเพื่อซื้อหลักทรัพย์
ข้อกฎหมาย: มาตรา 3
ข้อหารือ: บริษัทฯ ประกอบกิจการนายหน้าและตัวแทน ในการประกอบกิจการบริษัทฯ ได้กู้ยืมเงินจาก
ผู้ให้กู้เพื่อนำไปลงทุนซื้อหลักทรัพย์ ซึ่งมีทั้งหลักทรัพย์ที่มิได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์และหลักทรัพย์ที่
จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ การที่บริษัทฯ ได้กู้ยืมเงินดังกล่าว บริษัทฯ จะต้องชำระดอกเบี้ยให้แก่
ผู้ให้กู้ตามสัญญา บริษัทฯ จึงหารือว่า ดอกเบี้ยเงินกู้เพื่อนำไปลงทุนซื้อหลักทรัพย์ตามกรณีดังกล่าวจะถือ
เป็นรายจ่ายในการประกอบกิจการของบริษัทฯ หรือถือเป็นส่วนหนึ่งของมูลค่าต้นทุนของหลักทรัพย์ที่ซื้อมา
แนววินิจฉัย: กรณีบริษัทฯ ได้ซื้อหุ้นมาเพื่อการลงทุนหาผลประโยชน์อันเข้าลักษณะเป็นทรัพย์สิน ราคาหุ้นที่
บริษัทฯ ได้ซื้อมาดังกล่าวถือเป็นต้นทุนของทรัพย์สินนั้น
ส่วนดอกเบี้ยจากการกู้ยืมเงินเพื่อนำมาซื้อหุ้นดังกล่าว หากการซื้อหุ้นเป็นส่วนหนึ่งของการ
ดำเนินธุรกิจการค้าหรือวิชาชีพหรือเกี่ยวเนื่องโดยตรงต่อทรัพย์สินที่ก่อให้เกิดรายได้ดอกเบี้ยจากการกู้ยืม
เงินดังกล่าวเกิดขึ้นในรอบระยะเวลาบัญชีใด ให้บริษัทฯ ปฏิบัติดังนี้
1. ดอกเบี้ยเงินกู้ยืมที่เกิดขึ้นก่อนวันที่ทรัพย์สินนั้นอยู่ในสภาพพร้อมที่จะใช้ได้ตามประสงค์ ให้
ถือเป็นต้นทุนของทรัพย์สินหรือรายจ่ายอันมีลักษณะเป็นการลงทุน
2. ดอกเบี้ยเงินกู้ยืมที่เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ทรัพย์สินนั้นอยู่ในสภาพพร้อมที่จะใช้ได้ตามประสงค์ ให้
ได้รับสิทธิยกเว้นภาษี โดยบริษัทฯ จะต้องไม่นำดอกเบี้ยเงินกู้ยืมดังกล่าวไปรวมคำนวณเป็นต้นทุนของ
ทรัพย์สินหรือรายจ่ายอันมีลักษณะเป็นการลงทุน หรือไม่หักเป็นรายจ่ายในการคำนวณกำไรสุทธิเพื่อเสีย
ภาษีเงินได้นิติบุคคลอีก ทั้งนี้ ตามมาตรา 3 แห่งพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร
ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 375) พ.ศ. 2543 และตามประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับ
ภาษีเงินได้ (ฉบับที่ 92) เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการยกเว้นภาษีเงินได้สำหรับ
ดอกเบี้ยเงินกู้ยืมเพื่อซื้อหรือให้ได้มาซึ่งทรัพย์สินของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล ลงวันที่ 16 มีนาคม
พ.ศ. 2544
อนึ่ง วันที่ทรัพย์สินดังกล่าวอยู่ในสภาพพร้อมที่จะใช้ได้ตามประสงค์นั้น คือวันที่บริษัทฯ
มีกรรมสิทธิ์ในหุ้นดังกล่าว
เลขตู้: 64/30736


 

ปรับปรุงล่าสุด: 22-05-2020