และมีอายุการใช้งานประมาณ 8 ปี ซึ่งได้หักค่าเสื่อมราคาหมดแล้ว โดยได้ขายไปในราคา 7,000,000 บาท และได้นำเงินได้จากการขายเรือลำเก่ามาซื้อเรือลำใหม่ชื่อเรือ B มีขนาด 1,794

ตันกรอส ซึ่งมีอายุการใช้งานได้อีก 15 ปี และได้นำไปจดทะเบียนเป็นเรือไทย เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2547 และต่อมาในวันที่ 12 พฤษภาคม 2547 บริษัทฯ ได้ยื่นหนังสือที่ 038/2547 ลงวันที่ 11 พฤษภาคม 2547 แจ้งการขายเรือเก่าเพื่อซื้อเรือใหม่ เพื่อขอยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลต่ออธิบดีกรมสรรพากร ซึ่งเป็นการแจ้งให้อธิบดีทราบภายในกำหนดเวลาไม่เกิน 30 วัน นับแต่วันจดทะเบียนเรือใหม่เป็นเรือไทย ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขตามพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 299) พ.ศ.2539 แล้ว จึงขอให้ยกเว้นภาษีเงินได้จากการขายเรือลำเดิม

ที่ขายไป กรณีดังกล่าวจึงไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขตามมาตรา 4(2) แห่งพระราชกฤษฎีกา ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการลดอัตราและยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 299) พ.ศ.2539 บริษัทฯ จึงไม่ได้รับสิทธิยกเว้นภาษีเงินได้ สำหรับเงินได้จากการขายเรือลำเก่าที่เกิดขึ้นในรอบระยะเวลาบัญชีปี 2547