เมนูปิด


          2. กรณีภาษีเงินได้นิติบุคคล เนื่องจากสำนักงานฯ เป็นหน่วยงานของรัฐและเป็น

นิติบุคคลภายใต้การกำกับดูแลของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร จัดตั้งขึ้นตามพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งสำนักงานฯ โดยอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 221 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และมาตรา 5 แห่งพระราชบัญญัติองค์การมหาชน พ.ศ. 2542 จึงมีฐานะเป็น

หน่วยงานของรัฐและเป็นนิติบุคคลตามมาตรา 6 แห่งพระราชบัญญัติองค์การมหาชน พ.ศ. 2542 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อวางแผนและกำหนดนโยบายพัฒนาอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ของประเทศ ส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ สนับสนุนการพัฒนาซอฟต์แวร์ การค้นคว้าวิจัย และการถ่ายทอดเทคโนโลยี จึงไม่เข้าลักษณะเป็นบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลตามมาตรา 39 แห่งประมวลรัษฎากร

จึงไม่มีหน้าที่ต้องเสียภาษีเงินได้นิติบุคคล และไม่มีหน้าที่ต้องยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้นิติบุคคล

เลขที่หนังสือ: กค 0706/พ./3340
วันที่: 26 เมษายน 2548
เรื่อง: ภาษีมูลค่าเพิ่ม กรณีการได้รับเงินอุดหนุน เงินบริจาค และรายรับจากการดำเนินการ
ประเด็นปัญหา: มาตรา 77/1(10) มาตรา 77/2
           สำนักงาน ส. ได้เคยมีหนังสือหารือกรมสรรพากร กรณีสำนักงานฯ มีรายรับจากค่าธรรมเนียม ค่าบำรุง ค่าตอบแทน ค่าบริการ และรายรับจากการดำเนินกิจการโดยการเรียกเก็บค่าใช้พื้นที่จากผู้ใช้บริการ ซึ่งรายรับทุกประเภทดังกล่าวสำนักงานฯ จะนำไปใช้ในการดำเนินงานโดยไม่นำส่งกระทรวงการคลังตามกฎหมายว่าด้วยเงินคงคลัง และกฎหมายว่าด้วยวิธีการงบประมาณ สำนักงานฯ มีหน้าที่ต้องจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มหรือไม่ และกรมสรรพากรได้ตอบข้อหารือแล้วตามหนังสือที่ กค 0706/พ./12697 ลงวันที่ 22 ธันวาคม 2546 สรุปสาระสำคัญว่า กรณีเงินค่าธรรมเนียม ค่าบำรุง ค่าตอบแทน ค่าบริการ และรายรับจากการดำเนินกิจการโดยการเรียกเก็บค่าใช้พื้นที่จากผู้ใช้บริการ ซึ่งรายรับทุกประเภทดังกล่าวสำนักงานฯ จะนำไปใช้ในการดำเนินงานโดยไม่นำส่งกระทรวงการคลังตามกฎหมายว่าด้วยเงินคงคลัง และกฎหมายว่าด้วยวิธีการงบประมาณ ดังนั้น เงินที่สำนักงานฯ ได้รับจึงเข้าลักษณะเป็นประโยชน์หรือค่าตอบแทนที่ได้รับจากการให้บริการตามมาตรา 77/1(10) แห่งประมวลรัษฎากร กรณีดังกล่าวไม่เข้าลักษณะเป็นการให้บริการของกระทรวง ทบวง กรม ซึ่งส่งรายรับทั้งสิ้นให้แก่รัฐโดยไม่หักรายจ่ายอันจะได้รับการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มตามมาตรา 81(1)(ท) แห่งประมวลรัษฎากร แต่อยู่ในบังคับต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม ตามมาตรา 77/2 แห่งประมวลรัษฎากร หากสำนักงานฯ มีรายรับจากค่าธรรมเนียม ค่าบำรุง ค่าตอบแทน ค่าบริการ และรายรับจากการดำเนินกิจการ เกินกว่า 1,200,000 บาทต่อปี สำนักงานฯ มีหน้าที่เสียภาษีมูลค่าเพิ่ม โดยสำนักงานฯ ต้องยื่นคำขอจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มตามมาตรา 85/1 แห่งประมวลรัษฎากร แต่เนื่องจากสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ได้ทักท้วงว่า สำนักงานฯ เป็นองค์การมหาชนซึ่งเป็นองค์การภาครัฐรูปแบบใหม่ที่มุ่งจะสร้างหน่วยงานบริการสาธารณะรูปแบบอื่นนอกเหนือจากส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจ โดยดำเนินภารกิจที่มิได้มีลักษณะของการค้ากำไร จึงไม่อยู่ในบังคับต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม สำนักงานฯ จึงขอให้กรมสรรพากรพิจารณาทบทวนการตอบข้อหารือตามการทักท้วงของ สตง. และหารือเพิ่มเติมว่า สำนักงานฯ มีหน้าที่ต้องนำรายได้ที่ได้รับมาเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลหรือไม่ อย่างไร
แนววินิจฉัย          1. กรณีภาษีมูลค่าเพิ่ม เนื่องจากสำนักงานฯ มีรายรับจากค่าธรรมเนียม ค่าบำรุง ค่าตอบแทน ค่าบริการ ค่าเช่าพื้นที่จัดแสดงนิทรรศการ ค่าจัดอบรมสัมมนา ค่าเช่าห้องฝึกอบรม/คอมพิวเตอร์ ซึ่งรายรับทุกประเภทดังกล่าวสำนักงานฯ จะนำไปใช้ในการดำเนินงานโดยไม่นำส่งกระทรวงการคลังตามกฎหมายว่าด้วยเงินคงคลัง และกฎหมายว่าด้วยวิธีการงบประมาณ ตามมาตรา 11 แห่งพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งสำนักงานฯ เงินที่สำนักงานฯ ได้รับจึงเข้าลักษณะเป็นประโยชน์หรือค่าตอบแทนที่ได้รับจากการให้บริการตามมาตรา 77/1(10) แห่งประมวลรัษฎากร กรณีดังกล่าวไม่เข้าลักษณะเป็นการให้บริการของกระทรวง ทบวง กรม ซึ่งส่งรายรับทั้งสิ้นให้แก่รัฐโดยไม่หักรายจ่ายอันจะได้รับการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มตามมาตรา 81(1)(ท) แห่งประมวลรัษฎากร แต่อยู่ในบังคับต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม ตามมาตรา 77/2 แห่งประมวลรัษฎากร
เลขตู้: 68/33387

 

 

 

ปรับปรุงล่าสุด: 22-05-2020