เมนูปิด

เลขที่หนังสือ:  กค 0706/3980
วันที่: 9 พฤษภาคม 2549
เรื่อง: ภาษีธุรกิจเฉพาะ กรณีขอยกเว้นภาษีธุรกิจเฉพาะ
ข้อกฎหมาย: มาตรา 91/2(6) แห่งประมวลรัษฎากร
ข้อหารือ:             บริษัท ค. จำกัด ได้ขอประนอมหนี้กับธนาคารฯ ซึ่งมีมูลหนี้ประมาณ 1,200 ล้านบาท และบริษัทฯ ได้ลงนามในสัญญาประนอมหนี้กับธนาคารฯ เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2548 แล้ว แต่ธนาคารฯ ยังมิได้ส่งสัญญาประนอมหนี้ให้แก่บริษัทฯ ในการตกลงประนอมหนี้ บริษัทฯ จะนำที่ดินของโครงการชำระหนี้ โดยจะจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินใน "โครงการ" ที่เหลือทั้งหมดและที่ดินในส่วนที่เป็นพื้นที่ทะเลสาบ พื้นที่ถนน พื้นที่โรงเรียนอนุบาล พื้นที่บ่อบำบัดน้ำเสีย พื้นที่สวนสาธารณะ ซึ่งเป็นสาธารณูปโภคทรัพย์ส่วนกลางในโครงการให้กับธนาคารฯ อันเป็นการชำระหนี้เสร็จสิ้น ซึ่งทางราชการได้ประเมินราคาที่ดินในโครงการที่เป็นแปลงขายในราคาตารางวาละ 10,000 บาท สำหรับที่ดินถนนซึ่งเป็นทรัพย์ส่วนกลางได้ประเมินในราคาตารางวาละ 5,000 บาท แต่เนื่องจากที่ดินมีจำนวน 392 แปลง และจะต้องดำเนินการถอนการขอเฉลี่ยระหว่างธนาคารกับเจ้าหนี้ของบริษัทฯ จึงไม่สามารถดำเนินการจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินในโครงการให้กับธนาคารฯ ได้ทันภายในปี 2548 ต่อมาบริษัทฯ จะจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินตีชำระหนี้ให้กับธนาคารฯ ในปี 2549 บริษัทฯ จะต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะเป็นเงินจำนวน 20,000,000 บาท เพราะได้รับแจ้งจากสำนักงานที่ดินจังหวัดว่า การได้รับสิทธิประโยชน์ยกเว้นภาษีธุรกิจเฉพาะสิ้นสุดในปี 2548 บริษัทฯ จึงหารือดังนี้
             1. กรณีราคาประเมินที่ดินทรัพย์ส่วนกลางที่เป็นทะเลสาบ โรงเรียนอนุบาล บ่อบำบัดน้ำเสีย สวนสาธารณะ ควรจะมีราคาประเมินเท่าใด ซึ่งยังไม่มีคำยืนยันจากกรมธนารักษ์ วินิจฉัยไว้เป็นบรรทัดฐาน ดังนั้น ในการจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินทะเลสาบ โรงเรียนอนุบาล บ่อบำบัดน้ำเสีย สวนสาธารณะ จะใช้ราคาประเมินเท่ากับที่ดินแปลงที่เป็นถนนในราคาตารางวาละ 5,000 บาท หรือจะคิดราคาประเมินเท่ากับที่ดินแปลงขายในราคาประเมินตารางวาละ 10,000 บาท ซึ่งที่ดินที่เป็นทะเลสาบ โรงเรียนอนุบาล บ่อบำบัดน้ำเสีย สวนสาธารณะ บริษัทฯไม่สามารถขายในเชิงพาณิชย์ได้ และในความเป็นจริงมูลค่าของที่ดินส่วนที่เป็นถนนมีมูลค่าการตลาดสูงกว่าที่ดินในส่วนที่เป็นทะเลสาบ โรงเรียนอนุบาล บ่อบำบัดน้ำเสีย สวนสาธารณะ จึงขอทราบว่า การกำหนดราคาประเมินที่ดินของโครงการ ในส่วนที่เป็นทะเลสาบ โรงเรียนอนุบาล บ่อบำบัดน้ำเสีย สวนสาธารณะ ควรจะมีราคาประเมินเท่าใด 
              2. ภาระการเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ ในการจดทะเบียนที่ดินโอนชำระหนี้ให้กับธนาคารฯ ตามสัญญาปรับปรุงโครงสร้างหนี้นั้น บริษัทฯ ไม่มีรายได้จากการจดทะเบียนโอนที่ดินในครั้งนี้ บริษัทฯ ได้รับประโยชน์จากการที่ธนาคารปลดหนี้ให้เท่านั้น บริษัทฯ เป็นผู้จัดสรรที่ดินในโครงการ แต่โครงการหยุดชะงัก เพราะเกิดวิกฤตเศรษฐกิจปี 2540 ทำให้ธนาคารฯ ไม่ปล่อยสินเชื่อให้กับลูกค้าที่ซื้อที่ดินในโครงการของบริษัทฯ ซึ่งมิใช่เกิดจากความผิดของบริษัทฯ ในการจัดสรรที่ดิน บริษัทฯ ได้ลงทุนซื้อที่ดิน ทำเขื่อน ทำถนน ปักเสาไฟฟ้า และสาธารณูปโภค อันจำเป็นในโครงการเสร็จสิ้นแล้ว เงินทุนและทรัพย์สินของบริษัทฯ ได้ใช้ไปในโครงการดังกล่าวเป็นจำนวนมาก แต่ในปัจจุบันนี้บริษัทฯ ต้องรับภาระหนี้จาก ธนาคารฯ ทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยค้างชำระเป็นเงินมากกว่า 1,200 ล้านบาท บริษัทฯ จำเป็นจะต้องจดทะเบียนโอนที่ดินเพื่อชำระหนี้ให้กับธนาคารฯ และบริษัทฯ มิได้ประกอบธุรกิจใด ๆ อันจะทำให้เกิดรายได้ รวมทั้งไม่มีเงินหรือทรัพย์สินอื่นใดที่จะชำระภาษีธุรกิจเฉพาะจำนวน 20,000,000 บาท บริษัทฯ จึงขอยกเว้นภาษีธุรกิจเฉพาะ ในการจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินในโครงการ สำหรับการจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินในปี 2549 เพื่อชำระหนี้
แนววินิจฉัย:             1. กรณีตาม 1. ราคาประเมินที่ดินทรัพย์ส่วนกลางที่เป็นทะเลสาบ โรงเรียนอนุบาล บ่อบำบัดน้ำเสีย สวนสาธารณะ ควรจะมีราคาประเมินเท่าใดนั้น การกำหนดราคาประเมินที่ดินอยู่ในอำนาจความรับผิดชอบของกรมธนารักษ์ ไม่อยู่ในอำนาจความรับผิดชอบของกรมสรรพากรแต่อย่างใด 
              2. กรณีตาม 2. การจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินในปี 2549 เพื่อชำระหนี้ของบริษัทฯ ตามข้อเท็จจริงดังกล่าว เป็นการขายอสังหาริมทรัพย์เป็นทางค้าหรือหากำไรที่อยู่ในบังคับต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะตามมาตรา 91/2(6) แห่งประมวลรัษฎากร ประกอบกับมาตรา 4(5) แห่งพระราชกฤษฎีกา ออกตามความในประมวลรัษฎากรว่าด้วยการขายอสังหาริมทรัพย์เป็นทางค้าหรือหากำไร (ฉบับที่ 342) พ.ศ.2541 ดังนั้น บริษัทฯ จึงมีหน้าที่เสียภาษีธุรกิจเฉพาะโดยไม่มีกฎหมายยกเว้นภาษีธุรกิจเฉพาะแต่อย่างใด
เลขตู้:69/34173

 

 

ปรับปรุงล่าสุด: 22-05-2020