เมนูปิด

เลขที่หนังสือ: กค 0706/5182
วันที่:19 มิถุนายน 2549
เรื่อง:ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา กรณีได้รับเงินรางวัล ของขวัญ ค่าสมนาคุณ การประกาศเกียรติคุณ
ข้อกฎหมาย:มาตรา 40(2)(8) มาตรา 42(11) มาตรา 39 เงินได้พึงประเมิน และมาตรา 9 ทวิ แห่งประมวลรัษฎากร
ข้อหารือ:              สถาบันฯ มีฐานะเป็นนิติบุคคลตามมาตรา 6 มีหน้าที่ส่งเสริมความรู้ในทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีหรือสาขาวิชาอื่นที่เกี่ยวข้องกับการวิจัยวิทยาศาสตร์พื้นฐานและวิทยาศาสตร์ประยุกต์ โดยสนับสนุนให้มีการศึกษาหรือค้นคว้าทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีรวมทั้งพัฒนาผลของการศึกษาหรือการค้นคว้าเพื่อนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมของประเทศในด้านอุตสาหกรรม เกษตรกรรม ธุรกิจ สิ่งแวดล้อม ตลอดจนให้บริการแก่ผู้ลงทุนทั้งหลายที่รัฐและเอกชนให้ความสำคัญ สถาบันฯ จึงให้เงินรางวัล ของขวัญ ค่าสมนาคุณหรือการประกาศเกียรติคุณตามข้อบังคับสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย ว่าด้วยการให้รางวัลหรือค่าสมนาคุณหรือการมอบประกาศเกียรติคุณแก่ผู้ปฏิบัติงาน พ.ศ. 2545
              สถาบันฯ ขอทราบว่า เงินรางวัล ของขวัญ ค่าสมนาคุณ การประกาศเกียรติคุณที่พนักงานของสถาบันฯ หรือ บุคคลภายนอกได้รับเป็นเงินได้ที่ได้รับยกเว้นไม่ต้องรวมคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้ ใช่หรือไม่
แนววินิจฉัย:             1. เงินรางวัล ของขวัญ หรือผลประโยชน์ตอบแทนที่สถาบันฯ จ่ายให้กับผู้ปฏิบัติงานวิจัยหรืองานวรรณกรรม ตามผลสำเร็จของงานที่ได้นำไปใช้ประโยชน์แล้วในอัตราร้อยละของส่วนแบ่งที่สถาบันฯ ได้รับไม่เข้าลักษณะเป็นรางวัลเพื่อการศึกษาหรือค้นคว้าในวิทยาการที่ได้รับยกเว้นไม่ต้องรวมคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้ตามมาตรา 42(11) แห่งประมวลรัษฎากร โดยมีหน้าที่ต้องนำมารวมคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้ ดังนี้
             (1) กรณีจ่ายให้พนักงานของสถาบันฯ ถือเป็นประโยชน์เพิ่มอันเข้าลักษณะเป็นเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 39 แห่งประมวลรัษฎากร และถือเป็นเงินได้เนื่องจากการจ้างแรงงานตามมาตรา 40(1) แห่งประมวลรัษฎากร
             (2) กรณีจ่ายให้บุคคลภายนอกซึ่งมิใช่พนักงานของสถาบันฯ เป็นเงินได้พึงประเมินจากการรับทำงานให้ ตามมาตรา 40(2) แห่งประมวลรัษฎากร
             (3) กรณีผู้ปฏิบัติงานตาม (2) ได้ทำการวิจัยร่วมกับผู้อื่น หรือมีลูกจ้างหรือมีสำนักงาน และมีค่าใช้จ่ายในการบริหารงานจำนวนมากซึ่งรวมค่าใช้จ่ายทั้งปีแล้วสูงกว่าร้อยละ 40 ของเงินที่ได้รับ เข้าลักษณะเป็นเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40(8) แห่งประมวลรัษฎากร ซึ่งจะหักค่าใช้จ่ายได้ตามความจำเป็นและสมควรตามมาตรา 8 ทวิแห่งพระราชกฤษฎีกา ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการกำหนดค่าใช้จ่ายที่ยอมให้หักจากเงินได้พึงประเมิน (ฉบับที่ 11) พ.ศ. 2502
             2. เงินค่าสมนาคุณที่สถาบันฯ จ่ายให้ผู้ปฏิบัติงานวิจัยและพัฒนาหรือถ่ายทอดเทคโนโลยีหรือบริการ ไม่ว่าจะเป็นพนักงานของสถาบันฯ หรือบุคคลภายนอกตามจำนวนที่สถาบันฯ มีข้อตกลงหรือสัญญากับผู้ให้ทุนหรือผู้ขอรับบริการ เป็นการจ่ายเมื่อมีการทำงานตามที่ผู้ให้ทุนหรือผู้ขอรับบริการกำหนด เงินได้ดังกล่าวจึงมิใช่รางวัลเพื่อการศึกษาหรือค้นคว้าในวิทยาการที่จะได้รับยกเว้นไม่ต้องรวมคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้ตามมาตรา 42(11) แห่งประมวลรัษฎากร แต่เข้าลักษณะเป็นเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40(8) แห่งประมวลรัษฎากร
             3. กรณีสถาบันฯ มอบการประกาศนียบัตรเกียรติคุณหรือโล่ประกาศเกียรติคุณหรือโล่ประกาศคุณงามความดีหรือเข็มกลัด ไม่ว่าจะทำด้วยวัสดุที่มีค่า เช่น ทองคำ เงิน หรือวัสดุอื่นใดหรือไม่ ให้พนักงานที่ทำคุณประโยชน์หรือสร้างชื่อเสียงแก่สถาบันฯ หรือปฏิบัติงานเป็นแบบอย่างที่ดี หรือกรณีพนักงานที่มีอายุการปฏิบัติงานครบตามระยะเวลาที่กำหนดหรือพนักงานได้ปฏิบัติงานจนครบเกษียณอายุและมีคุณสมบัติตามที่กำหนดหรือมอบให้บุคคลภายนอกซึ่งเป็นผู้ที่ได้ให้การสนับสนุนหรือช่วยเหลือสถาบันฯ ด้านต่างๆ ถือเป็นประโยชน์ที่พนักงานหรือบุคคลภายนอกได้รับซึ่งอาจคิดคำนวณได้เป็นเงิน อันเข้าลักษณะเป็นเงินได้พึงประเมิน ตามมาตรา 39 แห่งประมวลรัษฎากรพนักงานของสถาบันฯ หรือบุคคลภายนอก จึงต้องตีราคาทรัพย์สินหรือประโยชน์ในวันที่ได้รับดังกล่าว เป็นเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 9 ทวิ แห่งประมวลรัษฎากร และมีหน้าที่ต้องเสียภาษีเงินได้ตาม 1.(1) หรือ 1.(2) หรือ 1.(3) แล้วแต่กรณี
เลขตู้:69/34302

 

 

ปรับปรุงล่าสุด: 22-05-2020