เมนูปิด

เลขที่หนังสือ: กค 0811/14215
วันที่: 30 กันยายน 2541
เรื่อง: อากรแสตมป์ กรณีสัญญาโอนลูกหนี้
ข้อกฎหมาย: มาตรา104
ข้อหารือ: บริษัทเงินทุน ก. จำกัด และบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ ข. จำกัด โดยบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์
ข.ฯ จะโอนกิจการบางส่วนและบริษัทเงินทุน ก.ฯ จะรับโอนกิจการบางส่วนจากบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์
ข.ฯ และบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ ข.ฯ จะขอความเห็นชอบในการโอนกิจการดังกล่าวให้แก่บริษัทเงินทุน
ก.ฯ ต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ผ่านธนาคารแห่งประเทศไทย ทั้งนี้ ตามหมวด 5 ทวิ ของ
พระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจเงินทุน ธุรกิจหลักทรัพย์ และธุรกิจเครดิตฟองซิเอร์ พ.ศ. 2522 ซึ่ง
แก้ไขเพิ่มเติม โดยพระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจเงินทุน ธุรกิจหลักทรัพย์
ธุรกิจเครดิตฟองซิเอร์ พ.ศ. 2522(ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2540 ในการดำเนินการโอนกิจการนั้น
บริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ ข.ฯ จะต้องโอนทรัพย์สินซึ่งเป็นลูกหนี้เงินกู้ยืมของบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ ข.ฯ ที่
มีหลักฐานการกู้ยืมเงินเป็นสัญญากู้ยืมเงินให้แก่บริษัทเงินทุน ก.ฯ และบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ ข.ฯ จะ
โอนลูกหนี้ดังกล่าวให้แก่บริษัทเงินทุน ก.ฯ ด้วยวิธีการโอนสิทธิเรียกร้องตาม
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ตามมาตรา 303 ถึงมาตรา 308 มีรายละเอียดสรุปได้ดังนี้
(1) บริษัทเงินทุน ก.ฯ และบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ ข.ฯ จะทำสัญญาโอนสิทธิเรียกร้อง
(หรืออาจเรียกว่าสัญญาโอนลูกหนี้ก็ได้) เป็นหนังสือเพื่อความถูกต้องสมบูรณ์ในแง่กฎหมาย ตามมาตรา
306 โดยบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ ข.ฯ จะลงนามในสัญญาในฐานะผู้โอน และบริษัทเงินทุน ก.ฯ จะ
ลงนามในสัญญาในฐานะผู้รับโอน
ทั้งนี้ บริษัทเงินทุน ก.ฯ และบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ ข.ฯ ได้รับยกเว้นการบอกกล่าว
การโอนสิทธิเรียกร้องดังกล่าวแก่ ลูกหนี้แห่งสิทธิที่โอน ตามมาตรา 67 ตรี ของพระราชบัญญัติการ
ประกอบธุรกิจเงินทุนฯพ.ศ. 2522
(2) สำหรับหลักประกันการกู้ยืมเงินของลูกหนี้ โดยไม่ว่าจะเป็นการจำนำ จำนองหรือ
ค้ำประกัน จะตกแก่บริษัทเงินทุน ก.ฯ ด้วยผลของประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 305
อย่างไรก็ตาม สำหรับหลักประกันที่เป็นการจำนองที่ดิน บริษัทเงินทุน ก.ฯ และบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์
ข.ฯ จะดำเนินการแก้ไขรายการที่จดทะเบียนหลักประกันต่อกรมที่ดิน โดยแก้ไขชื่อผู้รับจำนองจากเป็น
บริษัทต่อกรมที่ดิน โดยแก้ไขชื่อผู้รับจำนองจากบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ ข.ฯ เป็นบริษัทเงินทุน ก.ฯ ต่อ
กรมที่ดิน
บริษัทเงินทุน ก.ฯ ขอทราบว่า สัญญาโอนสิทธิเรียกร้องตามสัญญากู้ยืมเงิน (หรือสัญญาโอน
ลูกหนี้) ระหว่างบริษัทเงินทุน ก.ฯ ในฐานะผู้รับโอนและบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ ในฐานะผู้โอน ถือเป็น
ตราสารที่ต้องเสียอากรแสตมป์ ตามประมวลรัษฎากรหรือไม่ และหากเป็นตราสารที่ต้องเสียอากรแสตมป์
จะถือเป็นตราสารประเภทใด และเสียอากรแสตมป์ในอัตราเท่าใด
แนววินิจฉัย: สัญญาโอนสิทธิเรียกร้องตามสัญญากู้ยืมเงินระหว่างบริษัทเงินทุน ก.ฯ ในฐานะผู้รับโอนและ
บริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ ข.ฯ ในฐานะผู้โอน โดยไม่มีการกระทำตราสารสัญญากู้ยืมเงินขึ้นมาใหม่ ไม่เข้า
ลักษณะเป็นการโอนใบรับรองหนี้ของบริษัทเงินทุน ก.ฯ ตามลักษณะตราสาร 2. แห่ง
บัญชีอัตราอากรแสตมป์ เพราะไม่ได้เป็นการรับรองหนี้ ตามสัญญากู้ยืมเงินแก่ผู้รับโอนแต่อย่างใด เป็น
เพียงแต่โอนสิทธิเรียกร้องของผู้ให้กู้ที่มีต่อลูกหนี้ผู้กู้ไปให้แก่ผู้รับโอนสิทธิเท่านั้น และไม่เข้าลักษณะ
ตราสารอื่นใด จึงไม่ต้องเสียอากรแสตมป์แต่อย่างใด
เลขตู้: 61/27150

 


 

 

ปรับปรุงล่าสุด: 22-05-2020