เลขที่หนังสือ | : กค 0811/พ.06519 |
วันที่ | : 6 กรกฎาคม 2542 |
เรื่อง | : ภาษีมูลค่าเพิ่ม กรณีการให้บริการหอพักคุรุสภา |
ข้อกฎหมาย | : มาตรา 77/1, มาตรา 77/2, มาตรา 85, มาตรา 89, มาตรา 89/1, มาตรา 90/2, คำสั่งกรมสรรพากร ที่ ท.ป.37/2534 ฯ |
ข้อหารือ | : องค์การฯ มีฐานะเป็นนิติบุคคลตามพระราชบัญญัติครู พุทธศักราช 2488 เนื่องจากองค์การฯ ได้จัดที่พักให้แก่สมาชิก "หอพักองค์การฯ" โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อจัดเป็นสวัสดิการแก่สมาชิกองค์การฯ ตามที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัติ ไม่ได้เปิดให้บริการแก่บุคคลทั่วไป มีอัตราค่าบำรุงห้องพักตามที่ระเบียบ องค์การฯกำหนด ขอทราบว่า 1. องค์การฯ จะต้องเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลหรือไม่ 2. การประกอบกิจการหอพักเพื่อเป็นสวัสดิการแก่สมาชิกองค์การฯ อยู่ในบังคับที่จะ ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มหรือไม่ หากต้องเสีย องค์การฯ ขอความอนุเคราะห์ต่อกรมสรรพากร เพื่องดเว้น การเรียกเก็บเบี้ยปรับและเงินเพิ่มด้วย |
แนววินิจฉัย | : 1. สำนักงานเลขาธิการองค์การเป็นหน่วยงานหนึ่งในองค์การฯ ซึ่งมีฐานะเป็นนิติบุคคล ตามพระราชบัญญัติ พ.ศ. 2488 ไม่เข้าลักษณะเป็นบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลตามมาตรา 39 แห่ง ประมวลรัษฎากร จึงไม่มีหน้าที่ต้องเสียภาษีเงินได้แต่อย่างใด ดังนั้น รายได้จากค่าเช่าห้องพักตาม ข้อเท็จจริงดังกล่าวองค์การฯ ไม่ต้องนำมาเสียภาษีเงินได้แต่ประการใด 2. การให้บริการเช่าห้องพักของหอพักองค์การฯ ตามข้อเท็จจริงดังกล่าว เข้าลักษณะเป็น การให้บริการตามมาตรา 77/1 (10) แห่งประมวลรัษฎากร จึงอยู่ในบังคับต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม ตาม มาตรา 77/2 (1) แห่งประมวลรัษฎากร 3. เนื่องจากตามข้อเท็จจริง องค์การฯ ได้จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มไว้แล้วในนามของ องค์การค้าขององค์การฯ ซึ่งองค์การค้าขององค์การฯ เป็นหน่วยงานหนึ่งขององค์การฯ กรณีจึงถือว่า องค์การฯ ได้จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มไว้แล้ว ตามข้อเท็จจริงจึงเป็นกรณีองค์การฯ ได้ยื่น แบบแสดงรายการไว้ไม่ถูกต้อง อันเป็นเหตุให้จำนวนภาษีที่ต้องเสียคลาดเคลื่อนไปและจำนวนภาษีขายที่ แสดงไว้คลาดเคลื่อนไป องค์การต้องเสียเบี้ยปรับหนึ่งเท่าของเงินภาษีที่เสียคลาดเคลื่อน ตามมาตรา 89 (3) แห่งประมวลรัษฎากร และเสียเบี้ยปรับหนึ่งเท่าของจำนวนภาษีขายที่แสดงไว้ขาดไป ตาม มาตรา 89 (4) แห่งประมวลรัษฎากร และกรณีมิได้จัดทำใบกำกับภาษี และส่งมอบให้แก่ผู้รับบริการจึง ต้องเสียเบี้ยปรับอีกสองเท่าของจำนวนภาษีตามใบกำกับภาษีตามมาตรา 89 (5) แห่งประมวลรัษฎากร เพราะต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งเดือนหรือปรับไม่เกินห้าพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามมาตรา 90/2 (3) แห่งประมวลรัษฎากร และต้องเสียเงินเพิ่มอีกร้อยละ 1.5 ต่อเดือนหรือเศษของเดือนของ เงินภาษีที่ต้องชำระหรือนำส่งโดยไม่รวมเบี้ยปรับ ตามมาตรา 89/1 แห่งประมวลรัษฎากร เนื่องจากองค์การฯ สำคัญผิดในข้อกฎหมาย และไม่ได้มีเจตนาหลีกเลี่ยงการเสียภาษี จึงให้ลดเบี้ยปรับตามมาตรา 81 (3) และ (4) แห่งประมวลรัษฎากร ลงคงให้เสียในอัตราร้อยละ 2 ของเบี้ยปรับ และให้งดเบี้ยปรับตามมาตรา 89 (5) แห่งประมวลรัษฎากร แต่ทั้งนี้ องค์การฯ ต้องยื่น แบบเพิ่มเติมและชำระภาษีดังกล่าวภายใน 30 วันนับแต่วันที่ได้รับหนังสือนี้ ทั้งนี้ ตามมาตรา 89 วรรคสอง แห่งประมวลรัษฎากรประกอบกับข้อ 7 ของคำสั่งกรมสรรพากร ที่ ท.ป.37/2534 เรื่อง ระเบียบการงดหรือลดเบี้ยปรับภาษีมูลค่าเพิ่มตามมาตรา 89 และภาษีธุรกิจเฉพาะ ตามมาตรา 91/21(6) แห่งประมวลรัษฎากร ลงวันที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2534 สำหรับเงินเพิ่มกรมสรรพากรไม่มี อำนาจพิจารณางดหรือลดให้ได้แต่ประการใด 4. ตามข้อเท็จจริง การจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มขององค์การฯ ยังไม่ถูกต้องเพราะได้ จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มในนามขององค์การค้าขององค์การฯ ซึ่งที่ถูกต้องจะต้องจดทะเบียนในนามของ องค์การที่มีฐานะเป็นนิติบุคคล โดยให้ยื่น ณ ที่ว่าการอำเภอท้องที่ (สำนักงานภาษีสรรพากรพื้นที่) ที่เป็น สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ทั้งนี้ ตามมาตรา 85 แห่งประมวลรัษฎากร ดังนั้น จึงขอให้องค์การฯ ได้โปรดนำ ใบทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (แบบ ภ.พ.20) ที่ได้จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มไว้แล้วนั้น มายื่นต่อสำนักงาน ภาษีสรรพากรพื้นที่ที่สำนักงานใหญ่ขององค์การตั้งอยู่ เพื่อดำเนินการเปลี่ยนแปลงแก้ไขให้ถูกต้องต่อไป |
เลขตู้ | : 62/27981 |