เมนูปิด

เลขที่หนังสือ: กค 0811/พ.07856
วันที่: 5 สิงหาคม 2542
เรื่อง: ภาษีมูลค่าเพิ่ม กรณีขอยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มของโครงการตามแผนงานเงินกู้เพื่อการท่องเที่ยวและส่งเสริมการสร้างงาน
ข้อกฎหมาย: มาตรา 80/1(4)
ข้อหารือ: จากวิกฤตการณ์ทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในประเทศไทยได้ส่งผลกระทบให้เกิดปัญหา
การว่างงานในประเทศเพิ่มสูงขึ้นอย่างน่าเป็นห่วงและอาจนำไปสู่ปัญหาสังคมในด้านต่าง ๆ ตามมา
ดังนั้น เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างเร่งด่วน กระทรวงการคลังจึงได้ทาบทามขอรับการสนับสนุนเงินกู้
จากต่างประเทศเพื่อดำเนินงานโครงการลงทุนเพื่อสังคม โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อแก้ปัญหาการว่างงาน
โดยการสร้างโอกาสในการสร้างรายได้ให้แก่บุคคลผู้ได้รับผลกระทบจากวิกฤตการณ์ดังกล่าวในการนี้
ททท. ได้ประสานงานกับหน่วยราชการต่าง ๆอีก 8 หน่วยงานจัดทำโครงการด้านการท่องเที่ยวตาม
แนวทางและนโยบายดังกล่าวข้างต้น เป็นแผนงานเงินกู้เพื่อการท่องเที่ยวและส่งเสริมการสร้างงาน
ภายใต้โครงการลงทุนเพื่อสังคม (SIP) ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2541 อนุมัติให้
ททท. เป็นหน่วยประสานการดำเนินโครงการ (PIU) ของแผนงานดังกล่าว รวมวงเงินงบประมาณทั้ง
แผนงานประมาณ 2,948.64 ล้านบาท
แผนงานดังกล่าวใช้เงินกู้จากกองทุนความร่วมมือทางเศรษฐกิจโพ้นทะเลแห่งประเทศญี่ปุ่น
(OECF) โดยในการดำเนินโครงการจะมีสัดส่วนเงินกู้ต่อเงินบาทสมทบร้อยละ 90:10 โดยในส่วนเงินกู้
ผู้ประกอบการจดทะเบียนซึ่งขายสินค้าหรือให้บริการกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ได้รับสิทธิเสีย
ภาษีมูลค่าเพิ่มในอัตราร้อยละ 0 ตามประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 28)
เรื่องกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการขายสินค้าหรือการให้บริการกับกระทรวง ทบวง กรม
ราชการส่วนท้องถิ่นหรือรัฐวิสาหกิจตามโครงการเงินกู้หรือเงินช่วยเหลือจากต่างประเทศ ตามมาตรา
80/1 (4) แห่งประมวลรัษฎากร ลงวันที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2535 ทำให้คงเสียภาษีมูลค่าเพิ่มเฉพาะใน
ส่วนของเงินบาทสมทบดังนั้น ในทางปฏิบัติหากมีการแยกสัดส่วนการคิดภาษีจะก่อให้เกิดปัญหาในเรื่องของ
การออกใบกำกับภาษีของผู้ประกอบการอีกทั้งหน่วยราชการต่าง ๆ ไม่ได้ตั้งงบประมาณสำรองไว้สำหรับ
ภาษีมูลค่าเพิ่มที่จะเกิดขึ้น ทำให้เกิดปัญหาการใช้เงินกู้ได้ไม่เต็มวงเงิน ททท. จึงขอให้พิจารณา
ยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มในส่วนเงินบาทสมทบสำหรับการดำเนินงานโครงการที่อยู่ในแผนงานเงินกู้ฯ
ดังกล่าว นั้น
แนววินิจฉัย: กรณีตามข้อเท็จจริงข้างต้นเฉพาะการชำระค่าสินค้าหรือบริการด้วยเงินกู้จากกองทุน
ความร่วมมือทางเศรษฐกิจโพ้นทะเลแห่งประเทศญี่ปุ่นให้ผู้ประกอบการจดทะเบียนจะได้รับสิทธิเสีย
ภาษีมูลค่าเพิ่มในอัตราร้อยละ 0 ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข ตามมาตรา 80/1 (4) แห่ง
ประมวลรัษฎากร ประกอบกับประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 28)ฯ ลงวันที่
5 มีนาคม พ.ศ. 2535 และส่วนของเงินบาทสมทบซึ่งนำมาชำระค่าสินค้าหรือค่าบริการให้ผู้ประกอบการ
จดทะเบียน ผู้ประกอบการจดทะเบียนต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มในอัตราร้อยละ 10.0 ตามมาตรา 80 แห่ง
ประมวลรัษฎากร (ร้อยละ 7.0 ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2542 ถึงวันที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2544
ตามพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 353) พ.ศ. 2542) ไม่อาจพิจารณายกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม กรณีดังกล่าว
ได้
เลขตู้: 62/28132

 


 

 

ปรับปรุงล่าสุด: 22-05-2020