เมนูปิด

เลขที่หนังสือ: กค 0811/30022
วันที่: 5 มกราคม 2543
เรื่อง: ภาษีเงินได้นิติบุคคล กรณีการนำผลขาดทุนสุทธิมาหักเป็นรายจ่าย
ข้อกฎหมาย: มาตรา 65 ตรี (12)
ข้อหารือ: บริษัทฯ จดทะเบียนในประเทศไทยมีผลประกอบการดังนี้
ปี 2540 มีผลขาดทุนสุทธิ 1,300 ล้านบาท
ปี 2541 มีผลกำไรสุทธิ 400 ล้านบาท
คงเหลือขาดทุนสะสม 900 ล้านบาท
บริษัทฯ มีเงินสำรองทั่วไปที่ได้กันไว้จากการจัดสรรกำไรสุทธิของปีก่อนส่วนที่เกินสำรอง
ตามกฎหมายจำนวน 1,000 ล้านบาท และจะขออนุมัติจากผู้ถือหุ้นให้โอนเงินสำรองทั่วไปดังกล่าวมาหัก
ผลขาดทุนสะสมคงเหลือจำนวน 900 ล้านบาท
บริษัทฯ ขอหารือว่า ในการคำนวณกำไรสุทธิเพื่อเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลจากผล
ประกอบการในปี 2542 และปีต่อ ๆ ไปนั้น บริษัทฯ มีสิทธินำผลขาดทุนสุทธิที่เกิดจากการประกอบการใน
ปี 2540 จำนวน 900 ล้านบาทมาหักออกจากกำไรที่ได้จากการประกอบการในปี 2542 และปีต่อ ๆ ไป
แต่ไม่เกิน 5 ปี ตามมาตรา 65 ตรี (12) แห่งประมวลรัษฎากรได้หรือไม่
แนววินิจฉัย: 1. บริษัทฯ จดทะเบียนในประเทศไทยมีหน้าที่ต้องเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลจากกำไรสุทธิ
ตามมาตรา 65 แห่งประมวลรัษฎากร ซึ่งเป็นกำไรทางภาษีอากรก่อนการจัดสรรเงินสำรองและจ่าย
เงินปันผล ดังนั้นเงินสำรองที่จัดสรรไว้ตามกฎหมายหรือเงินสำรองทั่วไปส่วนที่เกินสำรองตามกฎหมาย
จำนวน 1,000 ล้านบาทข้างต้น จึงเป็นส่วนหนึ่งของกำไรสุทธิที่ได้เสียภาษีเงินได้นิติบุคคลไปแล้ว
2. การที่บริษัทฯ จะนำเงินสำรองทั่วไปมาหักผลขาดทุนสะสมคงเหลือจำนวน 900 ล้าน
บาท ทำให้มีกำไร 100 ล้านบาท จึงเป็นเพียงกำไรทางบัญชีเท่านั้น ส่วนในทางภาษีอากร บริษัทฯ
ยังคงมีผลขาดทุนสะสมจำนวน 900 ล้านบาทเช่นเดิม
ดังนั้น ในการคำนวณกำไรสุทธิเพื่อเสียภาษีเงินได้นิติบุคคล บริษัทฯ จึงมีสิทธินำผลขาดทุน
สะสม จำนวน 900 ล้านบาท มาหักออกจากกำไรสุทธิที่เกิดขึ้นในรอบระยะเวลาบัญชีปี 2542 และปีต่อ ๆ
ไปได้ แต่ไม่เกิน 5 ปีตามมาตรา 65 ตรี (12) แห่งประมวลรัษฎากร
เลขตู้: 63/28783

 


 

 

ปรับปรุงล่าสุด: 22-05-2020