เมนูปิด

เลขที่หนังสือ: กค 0811/พ.940
วันที่: 4 กุมภาพันธ์ 2543
เรื่อง: ภาษีมูลค่าเพิ่ม กรณีการชำระภาษีมูลค่าเพิ่มตามโครงการเงินกู้เพื่อพัฒนาคุณภาพบริการของสถานบริการสาธารณสุข
ข้อกฎหมาย: มาตรา 80, มาตรา 80/1 (4)
ข้อหารือ: หน่วยราชการได้ชำระภาษีมูลค่าเพิ่มตามโครงการเงินกู้เพื่อพัฒนาคุณภาพบริการของ
สถานบริการสาธารณสุขภายใต้แผนพัฒนาการสาธารณสุขแห่งชาติ ฉบับที่ 8 สาขาบริการสาธารณสุข สรุป
ได้ดังนี้
1. คณะรัฐมนตรีได้มีมติอนุมัติโครงการเงินกู้เพื่อพัฒนาคุณภาพบริการของสถานบริการ
สาธารณสุขภายใต้แผนพัฒนาการสาธารณสุขแห่งชาติ ฉบับที่ 8 สาขาบริการสาธารณสุข โดยมี
วัตถุประสงค์เพื่อจัดซื้อครุภัณฑ์การแพทย์สำหรับสถานบริการสาธารณสุขทั่วประเทศ เพื่อพัฒนาคุณภาพระบบ
บริการสาธารณสุข การดำเนินโครงการโดยจัดซื้อด้วยวิธีประกวดราคานานาชาติที่จำกัดเฉพาะบริษัทที่
จดทะเบียนในประเทศเดนมาร์ก ผลปรากฏว่าบริษัทที่ชนะการประกวดราคา ได้แก่ บริษัท S ประเทศ
เดนมาร์ก ซึ่งคู่สัญญาได้ลงนามในสัญญาซื้อขาย และกระทรวงการคลังได้ลงนามในสัญญากู้เงินกับธนาคาร
ABN สาขากรุงโคเปนเฮเกน
2. ตามเงื่อนไขสัญญาซื้อขาย ระบุว่า ผู้ซื้อ จะต้องเป็นผู้จ่ายภาษีอากรและค่าธรรมเนียม
ต่าง ๆ ในการนำเข้าครุภัณฑ์ภายใต้สัญญาหลังจากที่ผู้ขายได้ยื่นข้อเปรียบเทียบภาษีของศุลกากรให้แก่ผู้ซื้อ
ทั้งนี้ จะรวมถึงภาษีมูลค่าเพิ่มที่เรียกเก็บจากโรงงานสำหรับครุภัณฑ์ที่ผลิตในประเทศด้วย
จึงหารือว่า กรณีที่บริษัทฯ ซื้อครุภัณฑ์ที่ผลิตในประเทศจากผู้ประกอบการจดทะเบียน เพื่อ
ส่งมอบให้กับหน่วยราชการซึ่งตามเงื่อนไขสัญญาซื้อขายระหว่างบริษัทฯ กับหน่วยราชการ กำหนดให้หน่วย
ราชการ เป็นผู้ชำระภาษีมูลค่าเพิ่มที่เรียกเก็บจากผู้ขายครุภัณฑ์ที่ผลิตในประเทศซึ่งเป็นคู่สัญญากับบริษัทฯ
ในกรณีดังกล่าวหน่วยราชการจะต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มในอัตราใด และจะนำบทบัญญัติมาตรา 80/1 (4)
แห่งประมวลรัษฎากร กรณีการเสียภาษีมูลค่าเพิ่มในอัตราร้อยละ 0 มาใช้ในกรณีดังกล่าวได้หรือไม่
แนววินิจฉัย: กรณีผู้ประกอบการจดทะเบียนขายสินค้าให้กับบริษัทฯ ไม่เข้าลักษณะเป็นการขายสินค้าหรือ
ให้บริการให้แก่กระทรวง ทบวง กรม ราชการส่วนท้องถิ่น หรือรัฐวิสาหกิจ ตามมาตรา 80/1 (4) แห่ง
ประมวลรัษฎากร ดังนั้นการที่บริษัทฯ ซื้อสินค้าจากผู้ประกอบการจดทะเบียน บริษัทฯ จึงมีหน้าที่ต้อง
ชำระภาษีมูลค่าเพิ่มให้แก่ผู้ขายสินค้าในอัตราร้อยละ 7.0 ตามมาตรา 80 แห่งประมวลรัษฎากร
ประกอบกับมาตรา 4 แห่งพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 353) พ.ศ. 2542
เลขตู้: 63/23907

 


 

 

ปรับปรุงล่าสุด: 22-05-2020