เมนูปิด

เลขที่หนังสือ: กค 0811/2849
วันที่: 10 เมษายน 2543
เรื่อง: ภาษีธุรกิจเฉพาะ กรณีขายอสังหาริมทรัพย์
ข้อกฎหมาย: มาตรา 91/2 (6), มาตรา 56
ข้อหารือ: นาง ส. ได้รับหนังสือเรียกเก็บภาษีธุรกิจเฉพาะจากสรรพากรอำเภอ เป็นจำนวนเงิน
6,128 บาท ซึ่งนาง ส. ได้ชำระแล้วบางส่วน โดย นาง ส. ได้ชี้แจงข้อเท็จจริงว่า เมื่อวันที่ 9
มีนาคม 2535 นาง ส. และบิดาได้ร่วมกันซื้อที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างเป็นทาวน์เฮ้าส์ 2 ชั้น นาง ส. ได้
ย้ายชื่อเข้าไปอยู่ในทะเบียนบ้านตั้งแต่วันที่ 25 มีนาคม 2535 ต่อมาเมื่อวันที่ 9 (ตามโฉนดเป็นวันที่ 6)
มิถุนายน 2537 นาง ส. และบิดา ได้ยินยอมให้นาง อ.ซึ่งเป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมายของ บิดา และ
เป็นพี่สาวของ นาง ส. เข้าถือกรรมสิทธิ์รวมในอสังหาริมทรัพย์ดังกล่าวโดยไม่มีค่าตอบแทนซึ่งได้ระบุไว้
ในโฉนดที่ดินแล้ว ซึ่ง นาง ส. มีความเห็นว่า กรณีที่ นาง ส. มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านตั้งแต่วันที่ 25
มีนาคม 2535 เป็นระยะเวลา 2 ปี 3 เดือน จึงยินยอมให้ นาง อ. พี่สาวเข้าถือกรรมสิทธิ์รวมใน
โฉนดโดยไม่มีค่าตอบแทน ควรได้รับยกเว้นไม่ต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะในส่วนที่เป็นของ นาง ส.ตาม
มาตรา 4(6)(ค) แห่งพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 342) พ.ศ.2541 และกรณีที่ บิดา โอนกรรมสิทธิ
หรือสิทธิครอบครองในอสังหาริมทรัพย์ โดยไม่มีค่าตอบแทนให้แก่ นาง อ. บุตรโดยชอบด้วยกฎหมาย ก็
ควรได้รับการยกเว้นไม่ต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ สำหรับส่วนของ บิดาของนาง ส. ตามมาตรา 4(6)
(ง) แห่งพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 342) พ.ศ.2541 นาง ส. จึงขออุทธรณ์คำสั่งเรียกเก็บเงิน
ภาษีธุรกิจเฉพาะของสรรพากรอำเภอ
แนววินิจฉัย: 1. ตามข้อเท็จจริง นาง ส. และ บิดาได้ซื้อบ้านและที่ดิน เมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2535
โฉนดพร้อมบ้าน โดยมิได้มีการแบ่งหรือกำหนดส่วนของการถือกรรมสิทธิ์ว่าของใคร ตอนใด เป็นจำนวน
เนื้อที่เท่าใดให้ชัดเจน กรณีจึงถือว่าเป็นเจ้าของรวมกันและมีส่วนเท่ากันตามมาตรา 1357 แห่ง
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
2. กรณี นาง ส. และ บิดาได้ยินยอมให้ นาง อ. เข้าถือกรรมสิทธิ์รวมในโฉนดที่ดิน
ดังกล่าว เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2537 จึงเป็นการขายอสังหาริมทรัพย์ที่ได้กระทำภายใน 5 ปี นับแต่วันที่
ได้มาซึ่งอสังหาริมทรัพย์นั้น ตามมาตรา 3(6) แห่งพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 244) พ.ศ.2534 เข้า
ลักษณะเป็นการขายอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นทางค้าหรือหากำไร อยู่ในบังคับต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะตาม
มาตรา 91/2(6) แห่งประมวลรัษฎากร และเนื่องจาก นาง ส.และ บิดา ได้ร่วมกันซื้อและร่วมกัน
ยินยอมให้ นาง อ. เข้าถือกรรมสิทธิ์รวมในอสังหาริมทรัพย์ดังกล่าว จึงเข้าลักษณะเป็นห้างหุ้นส่วนสามัญ
หรือคณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคล มีหน้าที่ต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะในฐานะห้างหุ้นส่วนสามัญหรือ
คณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคล ซึ่งเป็นหน่วยภาษีแยกต่างหากจากบุคคลธรรมดาตามมาตรา 56 แห่ง
ประมวลรัษฎากร จึงไม่ได้รับการยกเว้นการเสียภาษีธุรกิจเฉพาะจากกรณีนี้ นาง ส. มีชื่ออยู่ใน
ทะเบียนบ้านเกินกว่า 1 ปี หรือกรณีที่ บิดาโอนกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองอสังหาริมทรัพย์ดังกล่าว ให้
แก่ นาง อ. บุตรโดยชอบด้วยกฎหมาย ถือเป็นเหตุส่วนตัวของบุคคลให้ห้างหุ้นส่วนสามัญหรือคณะบุคคลที่
มิใช่บุคคลไม่อาจนำมาใช้เป็นประโยชน์แก่ห้างหุ้นส่วนสามัญหรือคณะบุคคล ที่มิใช่นิติบุคคลนั้นได้
เลขตู้: 63/29145

 


 

 

ปรับปรุงล่าสุด: 22-05-2020