เมนูปิด

เลขที่หนังสือ: กค 0811(กม.12)/467
วันที่: 14 พฤศจิกายน 2543
เรื่อง: ภาษีมูลค่าเพิ่มและภาษีธุรกิจเฉพาะ กรณีเงินมัดจำ
ข้อกฎหมาย: มาตรา 91/1(4), มาตรา 91/12(6)
ข้อหารือ: บริษัท ก. จำกัด (ผู้จะซื้อ) ได้ทำสัญญาจะซื้อจะขายที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างกับบริษัท ข.
จำกัด (ผู้จะขาย) เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2541 ในราคา 120 ล้านบาท โดยผู้จะซื้อได้วางเงินมัดจำ
เป็นตั๋วสัญญาใช้เงินจำนวน 15 ล้านบาท ถึงกำหนดชำระวันที่ 25 พฤศจิกายน 2541 และเงินมัดจำ
ดังกล่าวไม่ถือเป็นส่วนหนึ่งของราคาค่าที่ดิน ถ้าผู้จะซื้อไม่ชำระค่าที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างภายในวันที่ 25
พฤศจิกายน 2541 ให้ผู้จะขายริบเงินมัดจำดังกล่าวได้ ปรากฏว่า บริษัท ก. จำกัด ไม่ชำระค่าที่ดิน
พร้อมสิ่งปลูกสร้างตามกำหนด บริษัท ข. จำกัด จึงริบเงินมัดจำดังกล่าว โดยบริษัท ก. จำกัด ได้จ่าย
เป็นเช็คลงวันที่ 28 ธันวาคม 2541 จำนวน 15 ล้านบาท ให้แก่ บริษัท ข. จำกัด จึงหารือว่า
1. บริษัท ข. จำกัด ต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะสำหรับเงินมัดจำที่ริบได้จำนวน 15 ล้านบาท
2. กรณีที่บริษัท ข. จำกัด มีหน้าที่ต้องยื่นแบบเพื่อเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ บริษัทฯ จะต้องยื่น
แบบเพื่อเสียภาษีธุรกิจเฉพาะในเดือนที่ได้รับตั๋วสัญญาใช้เงินหรือเดือนที่ได้รับเงินตามตั๋วสัญญาใช้เงิน
แนววินิจฉัย: 1. กรณีตาม 1. คำว่า “ขาย” ตามมาตรา 91/1(4) แห่งประมวลรัษฎากร หมายความ
รวมถึงสัญญาจะขาย ขายฝาก แลกเปลี่ยน ให้ ให้เช่าซื้อหรือจำหน่ายจ่ายโอนไม่ว่าจะมีประโยชน์
ตอบแทนหรือไม่ เมื่อบริษัท ข. จำกัด ทำสัญญาจะขายที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างให้กับบริษัท ก. จำกัด จึง
ถือเป็นการขายตามมาตรา 91/1(4) แห่งประมวลรัษฎากร แม้ต่อมาจะไม่มีการทำสัญญาซื้อขายกันก็ตาม
เงินมัดจำดังกล่าวจึงเป็นเงินที่ได้รับเนื่องจากการทำสัญญาจะซื้อจะขาย เป็น “รายรับ” ตามมาตรา
91/1(1) แห่งประมวลรัษฎากร บริษัท ข. จำกัด จึงมีหน้าที่นำเงินมัดจำดังกล่าวมายื่นแบบเพื่อเสีย
ภาษีธุรกิจเฉพาะ ตามมาตรา 91/2(6) แห่งประมวลรัษฎากร
2. กรณีตาม 2. บริษัท ข. จำกัด จะต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะในเดือนที่ตั๋วสัญญาใช้เงินถึง
กำหนดชำระ ไม่ว่าจะได้รับเงินหรือไม่ก็ตาม
เลขตู้: 64/30015

 


 

 

ปรับปรุงล่าสุด: 22-05-2020