เมนูปิด
เลขที่หนังสือ: 0702/6032
วันที่: 25 มิถุนายน 2558
เรื่อง: ภาษีมูลค่าเพิ่ม กรณีภาระภาษีและความรับผิดในการเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม
ข้อกฎหมาย : -
ข้อหารือ           โครงการก่อสร้างอาคารโรงผลิตน้ำดื่มบรรจุขวด มีวัตถุประสงค์เพื่อผลิตน้ำดื่มบรรจุขวดเพื่อขายและแจกจ่ายให้ประชาชนหรือหน่วยงานที่ร้องขอในโอกาสต่างๆ เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์เสริมสร้างภาพลักษณ์ขององค์กรฯ ซึ่งจะดำเนินการก่อสร้างในพื้นที่ขององค์กรฯ โดยจะมีค่าใช้จ่ายในการดำเนินโครงการ ได้แก่ ค่าก่อสร้างอาคารโรงผลิตน้ำดื่ม ค่าจัดหาและติดตั้งระบบผลิตน้ำบรรจุขวดด้วยระบบ RO และกำจัดเชื้อโรคด้วยแสง UV ค่าจัดซื้อบรรจุภัณฑ์ขวด และค่าจ้างผลิตฉลากโลโก้ องค์กรฯ ขอทราบว่า
          (1)ภาษีซื้อจากค่าใช้จ่ายในการดำเนินโครงการดังกล่าว จะนำไปหักออกจากภาษีขายได้หรือไม่
          (2)กรณีองค์กรฯ แจกน้ำดื่มบรรจุขวดให้แก่ประชาชนหรือหน่วยงานที่ร้องขอในโอกาสต่างๆ นั้น จะต้องนำส่งภาษีขายหรือไม่ อย่างไร
          1.โครงการตู้น้ำดื่มหยอดเหรียญเพื่อชุมชน (CSR) มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมประชาชนผู้มีรายได้น้อยในชุมชนให้ได้ดื่มน้ำสะอาดในราคาถูก เพื่อส่งเสริมการพัฒนาชุมชนให้แข็งแรง และเพื่อให้ องค์กรฯ มีส่วนร่วมกับรัฐบาลและกระทรวงมหาดไทยในการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม โดยมีเป้าหมายที่จะติดตั้งตู้น้ำดื่มหยอดเหรียญจำนวน 100 ตู้ ในพื้นที่ให้บริการขององค์กรฯ สาขาในจังหวัดปริมณฑล 4 จังหวัด และชุมชนภาคีเครือข่ายที่มีความสัมพันธ์ที่ดีกับรัฐบาล กระทรวงมหาดไทยและ องค์กรฯ ซึ่งจะดำเนินการติดตั้งบริเวณชุมชนหน้าโรงเรียน ที่ว่าการอำเภอ เทศบาล องค์การบริหารส่วนตำบล และส่วนราชการอื่นในพื้นที่ให้บริการขององค์กรฯ โรงเรียนรัฐบาลและเอกชน ในการดำเนินโครงการดังกล่าว องค์กรฯ จะส่งมอบให้เป็นทรัพย์สินของเจ้าของพื้นที่โครงการและให้หน่วยงานที่รับมอบตู้น้ำดื่มหยอดเหรียญดังกล่าวเป็นผู้ดูแลจัดเก็บรายได้ ซึ่งองค์กรฯ จะไม่มีรายได้จากการดำเนินโครงการดังกล่าว แต่จะมีค่าใช้จ่ายในการดำเนินโครงการ ได้แก่ ค่าจ้างผลิตตู้น้ำดื่มหยอดเหรียญพร้อมติดตั้งตามพื้นที่โครงการ ค่าจัดทำคู่มือแนะนำการใช้งาน การบำรุงรักษาและการจัดเก็บรายได้องค์กรฯ ขอทราบว่า
               (1)ภาษีซื้อจากค่าใช้จ่ายในการดำเนินโครงการดังกล่าว จะนำไปหักออกจากภาษีขายได้หรือไม่
               (2)เมื่อองค์กรฯ ติดตั้งตู้น้ำดื่มหยอดเหรียญแล้ว จะส่งมอบให้เป็นทรัพย์สินของเจ้าของพื้นที่โครงการองค์กรฯ จะต้องนำส่งภาษีขายหรือไม่ อย่างไร
          2.โครงการ PWA น้ำดื่มโรงเรียน (CSR) มีวัตถุประสงค์เพื่อให้นักเรียนในโรงเรียนภาคีเครือข่ายได้ดื่มน้ำเย็นจากตู้น้ำเย็นไร้สารตะกั่ว นักเรียนจะได้ดื่มน้ำสะอาด ปลอดภัย และได้มาตรฐานน้ำดื่ม โดยจะดำเนินการติดตั้งตู้น้ำเย็นเชื่อมด้วยอาร์กอน (ไร้สารตะกั่ว) พร้อมเครื่องกรองน้ำให้แก่โรงเรียนรัฐบาลและเอกชนในเขตพื้นที่ให้บริการขององค์กรฯ 74 จังหวัด ในการดำเนินโครงการดังกล่าวองค์กรฯ จะส่งมอบให้เป็นทรัพย์สินของโรงเรียน ซึ่งองค์กรฯ จะไม่มีรายได้จากการดำเนินโครงการดังกล่าว แต่จะมีค่าใช้จ่ายในการดำเนินการโครงการ ได้แก่ ค่าจ้างผลิตตู้น้ำเย็นพร้อมติดตั้งตามพื้นที่โครงการ ค่าประชาสัมพันธ์โครงการ ค่าจัดพิธีการส่งมอบตู้น้ำเย็น และค่าจัดทำของที่ระลึกโครงการ องค์กรฯ ขอทราบว่า
               (1)ภาษีซื้อจากค่าใช้จ่ายในการดำเนินโครงการดังกล่าว จะนำไปหักออกจากภาษีขายได้หรือไม่
               (2)เมื่อองค์กรฯ ติดตั้งตู้น้ำเย็นในโรงเรียนและส่งมอบให้เป็นทรัพย์สินของโรงเรียนแล้ว จะต้องนำส่งภาษีขายหรือไม่ อย่างไร
แนววินิจฉัย           1.กรณีองค์กรฯ จัดทำโครงการตาม 1. โดยมีภาษีซื้อที่เกิดจากการก่อสร้างอาคารโรงผลิตน้ำดื่ม ค่าจัดหาและติดตั้งระบบผลิตน้ำบรรจุขวดด้วยระบบ RO และกำจัดเชื้อโรคด้วยแสง UV ค่าจัดซื้อบรรจุภัณฑ์ขวด และค่าจ้างผลิตฉลากโลโก้ องค์กรฯ ซึ่งเป็นภาษีซื้อจากค่าใช้จ่ายในการดำเนินโครงการดังกล่าว เข้าลักษณะเป็นภาษีซื้อที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับการประกอบกิจการของ องค์กรฯ ดังนั้น องค์กรฯ จึงมีสิทธินำภาษีซื้อนั้น มาหักออกจากภาษีขายในการคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่มได้ ตามมาตรา 82/3 แห่งประมวลรัษฎากร กรณีองค์กรฯ แจกน้ำดื่มบรรจุขวดให้แก่ประชาชนหรือหน่วยงานที่ร้องขอในโอกาสต่างๆ โดยไม่คิดค่าตอบแทน เข้าลักษณะเป็นการขายสินค้าตามมาตรา 77/1(8) แห่งประมวลรัษฎากร องค์กรฯ มีหน้าที่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มจากมูลค่าน้ำดื่มบรรจุขวดที่นำไปแจกจ่ายดังกล่าว ซึ่งความรับผิดในการเสียภาษีมูลค่าเพิ่มเกิดขึ้นเมื่อส่งมอบสินค้าตามมาตรา 78(1) แห่งประมวลรัษฎากร และเมื่อ องค์กรฯ จำหน่าย จ่าย โอนสินค้า โดยไม่มีค่าตอบแทน และไม่ได้เรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจากผู้ซื้อสินค้าตามมาตรา 82/4 แห่งประมวลรัษฎากร องค์กรฯ ก็ไม่จำต้องออกใบกำกับภาษีในกรณีดังกล่าว และในการลงรายการในรายงานภาษีขายให้ลงรายการตามมูลค่าสินค้าที่ได้รับหรือพึงได้รับ โดยจัดให้มีเอกสารประกอบการลงรายการในรายงานภาษีขาย ซึ่งเอกสารดังกล่าวต้องมีปริมาณและมูลค่าสินค้าเพื่อคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่ม และให้ลงรายงานภายใน 3 วันทำการนับแต่วันที่ความรับผิดในการเสียภาษีมูลค่าเพิ่มเกิดขึ้น ทั้งนี้ ตามข้อ 7(6) ของประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 89) เรื่อง กำหนดแบบ หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข เกี่ยวกับการจัดทำรายงาน การลงรายการในรายงาน การเก็บใบกำกับภาษีและเอกสารหลักฐานอื่นที่ใช้ประกอบการลงรายงานภาษีซื้อ ตามมาตรา 87 และมาตรา 87/3 วรรคสอง แห่งประมวลรัษฎากร ลงวันที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2542
          2.กรณีองค์กรฯ จัดทำโครงการตาม 2. และ 3. นั้น มีภาระภาษีมูลค่าเพิ่มดังนี้
               2.1ภาษีซื้อจากค่าใช้จ่ายในการดำเนินโครงการตามข้อเท็จจริง หากไม่ได้เป็นไปเพื่อประโยชน์ในการประกอบกิจการขายน้ำประปา องค์กรฯ ย่อมไม่มีสิทธินำภาษีซื้อดังกล่าว ไปหักออกจากภาษีขายในการคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่มได้ เนื่องจากต้องห้ามตามมาตรา 82/5(3) แห่งประมวลรัษฎากร ประกอบกับข้อ 4 ของประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 17) เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขเกี่ยวกับภาษีซื้อที่ไม่ให้นำไปหักในการคำนวณภาษี ตามมาตรา 82/5(1) (2) (3) และ (4) แห่งประมวลรัษฎากร ลงวันที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2534
               2.2กรณีองค์กรฯ ติดตั้งตู้น้ำดื่มหยอดเหรียญแล้วส่งมอบให้เป็นทรัพย์สินของเจ้าของพื้นที่โครงการตามโครงการที่ 2 โดยไม่คิดค่าตอบแทน และกรณีองค์กรฯ ติดตั้งตู้น้ำเย็นในโรงเรียนและส่งมอบให้เป็นทรัพย์สินของโรงเรียนตามโครงการที่ 3 โดยไม่คิดค่าตอบแทนนั้น เข้าลักษณะเป็นการขายสินค้าตามมาตรา 77/1(8) แห่งประมวลรัษฎากร องค์กรฯ มีหน้าที่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มจากมูลค่าตู้น้ำดื่มหยอดเหรียญและตู้น้ำเย็นในโรงเรียนดังกล่าว โดยความรับผิดในการเสียภาษีมูลค่าเพิ่มเกิดขึ้นเมื่อส่งมอบสินค้า ตามมาตรา 78(1) แห่งประมวลรัษฎากร และเมื่อองค์กรฯ จำหน่าย จ่าย โอนสินค้า โดยไม่มีค่าตอบแทน และไม่ได้เรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจากผู้ซื้อสินค้าตามมาตรา 82/4 แห่งประมวลรัษฎากร องค์กรฯ ก็ไม่จำต้องออกใบกำกับภาษีในกรณีดังกล่าว และในการลงรายการในรายงานภาษีขายให้ลงรายการตามมูลค่าสินค้าที่ได้รับหรือพึงได้รับ โดยจัดให้มีเอกสารประกอบการลงรายการในรายงานภาษีขาย ซึ่งเอกสารดังกล่าวต้องมีปริมาณและมูลค่าสินค้าเพื่อคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่ม และให้ลงรายงานภายใน 3 วันทำการนับแต่วันที่ความรับผิดในการเสียภาษีมูลค่าเพิ่มเกิดขึ้น ทั้งนี้ ตามข้อ 7(6) ของประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 89)ฯ ลงวันที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2542 อย่างไรก็ดี หากปรากฏข้อเท็จจริงว่า องค์กรฯ ได้ส่งมอบตู้น้ำดื่มหยอดเหรียญหรือตู้น้ำเย็นให้แก่
          (1)สถานพยาบาลและสถานศึกษาของทางราชการ
          (2)องค์การ สถานสาธารณกุศล สถานพยาบาลหรือสถานศึกษาอื่นที่รัฐมนตรีประกาศกำหนดในราชกิจจานุเบกษา การส่งมอบทรัพย์สินดังกล่าวย่อมเข้าลักษณะเป็นการบริจาคสินค้า ซึ่งได้รับยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม ตามมาตรา 81(1)(น) แห่งประมวลรัษฎากร ประกอบกับมาตรา 3(4)(ก) และ (ข) แห่งพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 239) พ.ศ. 2534
เลขตู้: 78/39749

 

ปรับปรุงล่าสุด: 22-05-2020