เมนูปิด

เลขที่หนังสือ: กค 0702/2495
วันที่: 20 พฤษภาคม 2551
เรื่อง: ภาษีเงินได้นิติบุคคลและภาษีมูลค่าเพิ่ม กรณีรายได้ค่าธรรมเนียมแรกเข้าที่สมาคมได้รับ
ข้อกฎหมาย: มาตรา 65 ทวิ และมาตรา 77/2 แห่งประมวลรัษฎากร
ข้อหารือ         1. สมาคมฯ จัดตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 5 กันยายน 2527 ตามพระราชบัญญัติสมาคมการค้า พ.ศ. 2509 และได้จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2536 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยส่งเสริมให้ ประเทศไทยได้รับการคัดเลือกเป็นสถานที่สำหรับการจัดประชุม นิทรรศการระดับนานาชาติ เพื่อก่อให้ เกิดรายได้ขึ้นในประเทศไทย
         2. สมาชิกกองทุนมี 3 ประเภทคือ
              2.1 สมาชิกสามัญ ได้แก่ นิติบุคคลที่ประกอบกิจการเกี่ยวข้องกับการขายหรือให้บริการ แก่ผู้เข้าร่วมประชุม นิทรรศการระดับนานาชาติ และมีคุณสมบัติตรงตามข้อกำหนดของสมาคมฯ ส่วนใหญ่ เป็นผู้ประกอบการโรงแรมและบริษัททัวร์
              2.2 สมาชิกสมทบ ได้แก่ นิติบุคคลที่ประกอบกิจการ หรือมีส่วนส่งเสริมเกี่ยวกับ การประชุมระดับนานาชาติ
              2.3 สมาชิกกิตติมศักดิ์ ได้แก่ ผู้ทรงคุณวุฒิ หรือ นิติบุคคลที่มีอุปการคุณแก่สมาคมฯ
         3. รายได้ของสมาคมฯ ประกอบด้วย
              3.1 ค่าธรรมเนียมแรกเข้า และค่าบำรุงสมาคมรายปี
              3.2 รายได้จากการจัดงาน Trade Show ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ ซึ่งการจัดงาน Trade Show ดังกล่าว เป็นการจัดนิทรรศการหรืองานแสดงสินค้าสำหรับผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องกับ การจัดประชุมทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ โดยสมาคมฯ จะทำหน้าที่ในการจัดหาพื้นที่ เพื่อบริการ แก่สมาชิกที่ต้องการนำเสนอธุรกิจของตนในงานดังกล่าว รวมทั้งเป็นตัวกลางในการติดต่อประสานงานกับ ผู้จัดนิทรรศการหรืองานแสดงสินค้านั้น เพื่อจัดหาลูกค้าให้แก่สมาชิกเพื่อเจรจาธุรกิจ
              3.3 รายได้จากการจัดงาน Road Show ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ โดยสมาคมฯ จะเป็นตัวกลางในการติดต่อประสานงานกับสำนักงานทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศเพื่อจัดเตรียมพื้นที่ในการจัดงานดังกล่าว และเชิญลูกค้าจากที่ต่างๆ เพื่อให้สมาชิกนำเสนอธุรกิจของตนพร้อมทั้งเจรจาธุรกิจ
              3.4 เงินสนับสนุนจากสำนักงานส่งเสริมการประชุมและนิทรรศการ (สสปน.)
              3.5 รายได้จากการขายบัตรจัดสัมมนาแก่สมาชิก หรือสมาคมต่างๆ
              3.6 ดอกเบี้ยรับ
              3.7 รายได้เบ็ดเตล็ดอื่นๆ
         4. สมาคมฯ ได้ยื่นแบบ ภ.ง.ด.55 สำหรับรอบระยะเวลาบัญชี 2548 ไว้แล้ว โดยแสดงยอดเงินได้ จากดอกเบี้ยรับ และค่าสินไหมทดแทนจากอุบัติเหตุ ส่วนการยื่นแบบแสดงรายการภาษีมูลค่าเพิ่ม (ภ.พ.30) นั้น สมาคมฯ ได้นำเฉพาะรายได้จากการขายบัตรจัดสัมมนาแก่สมาชิก หรือสมาคม มาแสดงรายการเพื่อ ชำระภาษีในแบบ ภ.พ.30 เพียงประเภทเดียว โดยมิได้นำรายได้ค่าธรรมเนียมแรกเข้าค่าบำรุงสมาคม และ รายได้จากการจัดงาน Trade Show และ Road Show ในประเทศไทยมารวมคำนวณเพื่อเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม แต่อย่างใด
แนววินิจฉัย         1. ภาษีเงินได้นิติบุคคล
              กรณีสมาคมฯ ที่ประกอบกิจการมีรายได้เข้าลักษณะตามคำนิยาม "บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล" ตามที่กำหนดในมาตรา 39 แห่งประมวลรัษฎากร เมื่อสมาคมฯ มิได้รับการประกาศกำหนด ให้เป็นองค์การหรือสถานสาธารณกุศลตามความในมาตรา 47(7)(ข) แห่งประมวลรัษฎากร และมาตรา 3(4)(ข) แห่งพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 239) พ.ศ. 2534 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 254) พ.ศ. 2535 สมาคมฯ จึงต้องนำรายได้ที่ได้รับก่อนหักรายจ่ายใดๆ มารวมคำนวณเพื่อเสีย ภาษีเงินได้นิติบุคคล แต่ไม่รวมถึงเงินค่าลงทะเบียน หรือค่าบำรุงที่ได้รับจากสมาชิก หรือเงิน หรือทรัพย์สิน ที่ได้รับจากการรับบริจาคหรือจากการให้โดยเสน่หาแล้วแต่กรณี มารวมคำนวณเป็นรายได้ ทั้งนี้ ตาม มาตรา 65 ทวิ (13) แห่งประมวลรัษฎากร
              ดังนั้น กรณีสมาคมฯ มีรายได้จากการจัดงาน Trade Show , Road Show ในประเทศไทย และต่างประเทศ รายได้จากการขายบัตรจัดสัมมนาแก่สมาชิก หรือสมาคมต่างๆ ดอกเบี้ยรับ รวมทั้งรายได้เบ็ดเตล็ดอื่นๆ สมาคมฯ ต้องนำรายได้ดังกล่าวมารวมคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลสำหรับ กรณีสมาคมฯ ได้รับเงินสนับสนุนจาก สสปน. หากสมาคมฯ ต้องกระทำกิจการสิ่งใดให้แก่ สสปน. เพื่อตอบแทนเงินสนับสนุนดังกล่าว สมาคมฯ ต้องนำเงินสนับสนุนที่ได้รับจาก สสปน. มารวมคำนวณเป็น รายได้เพื่อเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลตามมาตรา 65 ทวิ แห่งประมวลรัษฎากร แต่หากเงินสนับสนุน ดังกล่าวมีลักษณะเป็นเงินรับบริจาคหรือจากการให้โดยเสน่หา สมาคมฯ ไม่ต้องนำเงินดังกล่าวมารวม คำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้นิติบุคคล ตามมาตรา 65 ทวิ(13) แห่งประมวลรัษฎากร แต่อย่างใด
         2. ภาษีมูลค่าเพิ่ม
              กรณีสมาคมฯ ซึ่งเป็นผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ได้ดำเนินกิจการต่างๆ เพื่อประโยชน์แก่สมาชิกตามวัตถุประสงค์ซึ่งเข้าลักษณะเป็นการให้บริการในทางธุรกิจหรือวิชาชีพ สมาคมฯ จึงมีหน้าที่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม ดังนี้
              2.1 รายรับจากค่าธรรมเนียมแรกเข้า ค่าบำรุงสมาคมรายปี รายรับจากการจัดงาน Trade Show, Road Show ในประเทศไทยและต่างประเทศ รายรับจากการขายบัตรจัดสัมมนา แก่สมาชิก หรือสมาคมต่างๆ และรายรับเบ็ดเตล็ดอื่นๆ ที่สมาคมได้รับจากการดำเนินกิจการตาม วัตถุประสงค์ สมาคมฯ มีหน้าที่ต้องนำรายรับดังกล่าวมารวมคำนวณเพื่อเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม ตาม มาตรา 77/2 แห่งประมวลรัษฎากร
              2.2 เงินสนับสนุนจาก สสปน. หากสมาคมฯ มิได้มีการขายสินค้าหรือให้บริการใดกับ สสปน. เพื่อตอบแทนเงินสนับสนุนที่ได้รับ เงินที่ได้รับดังกล่าวไม่เข้าลักษณะเป็นค่าตอบแทนอันเกิด จากการขายสินค้าหรือให้บริการ จึงไม่อยู่ในบังคับต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม ตามมาตรา 77/2 แห่งประมวลรัษฎากร
เลขตู้: 71/35869

 

 

ปรับปรุงล่าสุด: 22-05-2020