เมนูปิด

เลขที่หนังสือ: กค 0702/3889
วันที่: 8 กรกฎาคม 2551
เรื่อง: ภาษีเงินได้นิติบุคคล กรณีรายจ่ายเพื่อการคำนวณกำไรสุทธิ
ข้อกฎหมาย: มาตรา 65 ตรี (5) แห่งประมวลรัษฎากร และพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 460)
ข้อหารือ          บริษัทฯ ประกอบกิจการรับฝากสินค้า ให้เช่าคลังสินค้า และอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง บริษัทฯ ได้จัดหาทรัพย์สินกรณีต่าง ๆ ดังต่อไปนี้ มาไว้เพื่อใช้ในการประกอบกิจการ
          1. ก่อสร้างอาคารคลังสินค้าใหม่พร้อมจัดหาอุปกรณ์ต่าง ๆ เพื่อใช้ในการประกอบกิจการของบริษัทฯ โดยมีมูลค่าของ อาคารที่สร้างขึ้นและอุปกรณ์ที่จัดหามารวมกันเกินกว่า 5 ล้านบาท
          2. ต่อเติม เปลี่ยนแปลง หรือขยายออกอาคารคลังสินค้าเดิม พร้อมจัดหาอุปกรณ์ หรือเครื่องมือที่จำเป็นเพื่อใช้ในการให้ บริการของบริษัทฯ โดยค่าใช้จ่ายในการต่อเติมอาคารคลังสินค้า และจัดหาอุปกรณ์รวมกันมีมูลค่าเกินกว่า 5 ล้านบาท และ
          3. ก่อสร้างคลังสินค้าใหม่เพื่อให้เช่า มูลค่าเกินกว่า 5 ล้านบาท
          บริษัทฯ หารือว่า รายจ่ายที่บริษัทฯ ได้จ่ายเพื่อการต่าง ๆ เหล่านี้ จะได้รับสิทธิยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลเป็นจำนวน ร้อยละยี่สิบห้าของเงินที่ได้จ่ายไป ตามพระราชกฤษฎีกา ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 460) พ.ศ.2549 ประกอบกับประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ 156) เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลให้แก่ บริษัทที่มีหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ตาม กฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ สำหรับเงินได้ที่ได้จ่ายเพื่อการลงทุน หรือการต่อเติม เปลี่ยนแปลง ขยายออก หรือทำให้ดีขึ้นซึ่งทรัพย์สิน แต่ไม่ใช่เป็นการซ่อมแซมให้คงสภาพเดิม ตามมาตรา 65 ตรี (5) แห่งประมวลรัษฎากร ลงวันที่ 15 กันยายน พ.ศ.2549 หรือไม่ อย่างไร
แนววินิจฉัย          1. รายจ่ายเพื่อการลงทุน หรือการต่อเติม เปลี่ยนแปลง ขยายออก หรือทำให้ดีขึ้นซึ่งทรัพย์สิน แต่ไม่ใช่เป็นการซ่อมแซม ให้คงสภาพเดิม ที่จะได้รับสิทธิยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลเป็นจำนวนร้อยละ 25 ของเงินได้ที่ได้จ่ายไป ตามพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 460) พ.ศ.2549 ประกอบกับประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ 156)ฯ ลงวันที่ 15 กันยายน พ.ศ.2549 นั้น ต้องปรากฏว่า เป็นเงินได้ที่ได้จ่ายเพื่อการได้มาซึ่งทรัพย์สินตามโครงการที่มีมูลค่าตั้งแต่ 5 ล้านบาทขึ้นไป โดยมูลค่าของโครงการดังกล่าว ได้แก่ มูลค่าของทรัพย์สิน ดังต่อไปนี้
               ก. เครื่องจักร ส่วนประกอบอุปกรณ์ เครื่องมือ เครื่องใช้ เครื่องตกแต่ง และเฟอร์นิเจอร์ บรรดาที่ใช้ใน การดำเนินธุรกิจหลักของกิจการ
               ข. โปรแกรมคอมพิวเตอร์โดยการพัฒนาโปรแกรมคอมพิวเตอร์ หรือซื้อโปรแกรมคอมพิวเตอร์ หรือซื้อลิขสิทธิ์ โปรแกรมคอมพิวเตอร์ มาใช้ในธุรกิจหลักของกิจการของบริษัท
               ค. ยานพาหนะที่จดทะเบียนตามกฎหมายว่าด้วยยานพาหนะนั้น ๆ ในราชอาณาจักรที่ใช้ในการดำเนินธุรกิจหลัก ของกิจการ แต่ไม่รวมถึงรถยนต์นั่ง หรือรถยนต์โดยสารที่มีที่นั่งไม่เกิน 10 คน ตามกฎหมายว่าด้วยพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต ที่มิใช่ได้มาเพื่อนำออกให้เช่า ซึ่งเป็นธุรกิจหลักของกิจการ
          2. กรณีที่บริษัทฯ ได้จ่ายเงินได้บางส่วนเพื่อก่อสร้าง หรือปรับปรุงอาคารคลังสินค้าและบางส่วนเพื่อการได้มาซึ่งอุปกรณ์ ต่างๆ ที่ใช้ในการประกอบธุรกิจหลักของบริษัทฯ นั้น หากบริษัทฯ สามารถพิสูจน์ให้เจ้าพนักงานประเมินเห็นได้ว่า เงินได้ ที่ได้จ่ายไปตามโครงการในส่วนตั้งแต่ 5 ล้านบาทขึ้นไป เป็นเงินได้ที่จ่ายไปเพื่อให้ได้มาซึ่งทรัพย์สินตามที่กล่าวใน 1. ประกอบกับทรัพย์สินต่างๆ เหล่านั้น มีลักษณะตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขตามที่กำหนดไว้ในข้อ 4 ของประกาศ อธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ 156)ฯ ลงวันที่ 15 กันยายน พ.ศ.2549 บริษัทฯ จะได้รับสิทธิยกเว้น ภาษีเงินได้นิติบุคคลเป็นจำนวนร้อยละ 25 ของเงินได้ที่ได้จ่ายไปเฉพาะที่เป็นค่าทรัพย์สินเหล่านั้น ตามพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 460) พ.ศ.2549 ประกอบกับประกาศอธิบดีกรมสรรพากรฉบับดังกล่าว
เลขตู้: 71/35990

 

 

ปรับปรุงล่าสุด: 22-05-2020