| ข้อหารือ |
1. ส่วนกำกับดูแลผู้เสียภาษี ก.01 สท.นครศรีธรรมราช ได้ออกตรวจสภาพกิจการบริษัทฯซึ่งเป็นตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ พบว่า ในการจำหน่ายรถยนต์ บริษัทฯ มีส่วนลดราคาให้ลูกค้าที่ซื้อรถยนต์หากชำระราคาทั้งหมดในคราวเดียว บริษัทฯ จะออกใบกำกับภาษีขายให้ตามราคาที่ตกลงซื้อขายโดยหักส่วนลดออกจากราคาขาย สำหรับกรณีลูกค้ามีเงินไม่พอชำระในคราวเดียวตามข้อเท็จจริงลูกค้าตกลงซื้อรถยนต์ซึ่งบริษัทฯ ตั้งราคาขายมูลค่า 859,000 บาท แต่บริษัทฯ ได้ให้ส่วนลดจำนวน 10,000 บาทคงเหลือมูลค่ารถยนต์ 849,000 บาท ซึ่งลูกค้าต้องจ่ายเงินจองจำนวน 5,000 บาท ในวันที่ตกลงซื้อและในวันรับรถลูกค้าต้องจ่ายเงินดาวน์จำนวน 171,800 บาท ค่าประกันภัยชั้นหนึ่ง ค่าจดทะเบียนและค่าธรรมเนียม รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 200,160 บาท หักเงินจองจำนวน 5,000 บาท และหักส่วนลดจำนวน10,000 บาท ดังนั้น ลูกค้าต้องจ่ายเงินให้บริษัทฯ ในวันรับรถ 185,160 บาท โดยบริษัทฯ มิได้ออกใบเสร็จรับเงินให้แก่ลูกค้า แต่ออกใบเสร็จรับเงินในชื่อของบริษัท ค. ซึ่งเป็นผู้ชำระราคารถยนต์ที่เหลือและรับโอนกรรมสิทธิ์รถยนต์โดยลูกค้าจะเป็นผู้ครอบครองรถยนต์และทำสัญญาเช่าซื้อกับบริษัท ค. โดยลูกค้าจะชำระราคารถยนต์ที่เหลือให้แก่บริษัท ค. เป็นรายงวดจนครบถ้วนตามสัญญาเช่าซื้อ จึงจะโอนกรรมสิทธิ์รถยนต์ให้แก่ลูกค้า กรณีดังกล่าวถือว่า บริษัท ค. เป็นผู้ซื้อที่แท้จริง บริษัทฯ จึงมีหน้าที่หักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่ายในอัตราร้อยละ 3 จากการให้ส่วนลดตามข้อ 12/2 ของคำสั่งกรมสรรพากร ที่ ท.ป.4/2528 เรื่อง สั่งให้ผู้จ่ายเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40 แห่งประมวลรัษฎากร มีหน้าที่หักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย ลงวันที่26 กันยายน พ.ศ. 2528
|